สองจิตสองใจว่าจะเขียนบันทึกเรี่องงาน KM ที่เชียงใหม่ดีไหม? เพราะเห็นว่ามีคนเขียนกันแล้วมากมาย และก็รายงานกันได้ค่อนข้างละเอียดลออซะด้วย ...นอกจากนั้นผมเองก็ได้เข้าไปร่วมงานเพียงแค่วันเดียว ....แต่ในที่สุดผมก็ไม่สามารถจะเก็บความประทับใจไว้คนเดียวได้อีกต่อไป ขอแชร์ความรู้สึกแม้แต่เพียงเล็กน้อยก็ยังดีครับ....ยอมรับครับว่าผู้จัด จัดได้ดีมาก คือมีทั้งส่วนที่เป็นสาระ บวกกับส่วนที่เฮฮา บวกกับส่วนที่เป็นศิลปวัฒนธรรม เรียกได้ว่าเป็นงาน KM ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของตนเองและสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของงานๆ นี้ ก็คือ “เรื่องใจ” ครับ
เป็นการรวมใจของบรรดา blogger ทั้งหลายใน gotoknow (g2k) …เป็นการร่วมใจของบุคลากรในคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ทั้งในส่วนคณาจารย์และนักศึกษา.... ผลงานที่ออกมาถือได้ว่าอยู่ในระดับ “มืออาชีพ” เลยทีเดียว นอกจากเรื่องใจแล้ว ผมก็เห็นความโดดเด่นในเรื่อง “ภาวะผู้นำ” ของ “หัวเรือใหญ่” ท่านอาจารย์พิชัย กรรณกุลสุนทร ท่านคณบดี ที่สามารถรวมใจคนทั้งหลายจนสามารถทำให้ “วิสัยทัศน์” ที่วาดไว้ ปรากฏออกมาแก่สายตาคนทั่วไป
สิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดในงานนี้ ก็คือการที่ผมได้มีโอกาสพบและพูดคุยกับ blogger หลายๆ คน ที่เคยพบกันแต่ใน g2k แต่ยังไม่เคยเจอตัวจริง (หรืออาจเคยพบกันแบบเฉียดไปเฉียดมาแต่ว่าไม่ได้พูดจากัน) อาทิเช่น คุณเอก คุณหมอวัลลภ คุณแผ่นดิน อาจารย์แป๋ว ดร.กมลวัลย์ (พบกันครั้งสุดท้ายเมื่อ 8 ปีที่แล้ว) อาจารย์ขจิต คุณติ๋ว (พบกันแบบแว้บๆ ในงาน HA และที่ มข.) อ. จันทรรัตน์ ดร. กระปุ๋ม หมอสุพัฒน์ คุณสมพร คุณ little jazz อ.ลูกหว้า ครูอ้อย และ คุณสมนึก ฯลฯ (ขออภัยที่อาจจำได้ไม่ทั้งหมด)
ในช่วงเช้าวันที่สองตอนที่ผมเป็นวิทยากร ผมรู้สึกดีที่ได้มีโอกาสแชร์ประวัตศาสตร์การก่อเกิดของ g2k ให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับฟัง เริ่มตั้งแต่วันแรกที่ผมได้พบกับสองด็อกเตอร์ ดร. ธวัชชัย ปิยะวัฒน์ และ ดร.จันทวรรณ น้อยวัน (ตอนนั้นยังไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกัน) ตอนที่ท่านทั้งสองเข้ามานำเสนอข้อเสนองานวิจัยเรื่องการสร้าง blog ให้กับสังคมไทยที่ สกว. เมื่อสองปีกว่ามาแล้ว แต่จุดเล็กๆ นั้นถือได้ว่าเป็นจุดแห่งการเริ่มต้นให้การสนับสนุนการพัฒนา g2k ของ สคส. นั่นเอง
หลังจากนั้นผมได้เปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้ดำเนินรายการแทน โดยได้เชิญครูบาสุทธินันท์ และคุณหมอวัลลภ พรเรืองวงศ์ มาร่วมแชร์ประสบการณ์การเป็น blogger ใน g2k ในช่วงนี้มีคำพูดดีๆ มากมาย เท่าที่ผมจำได้ (บันทึกไว้) ครูบาสุทธินันท์พูดไว้ตอนหนึ่งว่า “ ..... gotoknow ช่วยให้ผมออกมาจากเรือนจำ ...เวลามีคำถามอะไรก็มีคนเข้ามาช่วย ...คนใน g2k เป็นเพื่อนที่ไว้ใจได้ ...ในนี้มีอะไรหลายอย่าง เหมือนเนรมิต ... มีคำตอบมากมาย ...มีเพื่อนที่ยิ่งกว่าเพื่อน”
นอกจากนั้นท่านครูบายังได้พูดว่าต้อง “รู้ชัด รู้ลึก รู้จริง และรู้แจ้ง” ผมตีความคำพูดของท่านว่าการ “รู้ชัด” ก็คือ การรู้ Explicit Knowledge ส่วนการ “รู้ลึก” ก็คือการรู้ Tacit Knowledge ใครก็ตามที่ รู้ชัด รู้ลึก ในที่สุดก็จะ รู้จริง/รู้แจ้ง การรู้จริง/รู้แจ้ง ทำให้กล้าที่จะเขียน ทำให้สิ่งที่บันทึกไว้มีพลัง เป็นประโยชน์กับผู้อื่นได้ในวงกว้าง สำหรับอีกข้อความของท่านครูบาที่ผมประทับใจก็คือที่ท่านพูดว่า... “เราไม่สามารถใส่หน้ากากและหลอกตัวเองได้ใน gotoknow”
ฟังให้ดีนะครับ ท่านไม่ได้บอกว่าใส่หน้ากากหลอก “คนอื่น” ท่านบอกว่าคนใน g2k ไม่สามารถหลอกตนเองได้ เพราะในการบันทึกนั้นเราย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าเรากำลังเขียนอะไร ถ่ายทอดอะไร การเขียนไปเรื่อยๆ เขียนบ่อยๆ ทำให้ต้องค่อยๆ เรียบเรียงความคิด พินิจพิจารณา ทบทวนชีวิต นี่แหละครับที่คุณหมอวัลลภสำทับว่า “ทำให้รู้จักตัวเองดีขึ้น ...ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป...” และสิ่งที่คุณหมอวัลลภทิ้งท้ายไว้ให้กับ blogger มือใหม่ก็คือ ...ในการบันทึกขอให้ “Be Good และ Be You” คือนอกจากเป็นคนดีมีคุณธรรมแล้วอย่าลืมเป็นตัวของตัวเองด้วยก็แล้วกัน ว๊าว! ช่างเป็นคำแนะนำที่งดงามจริงๆ
งานนี้ไม่มีที่ใดเหมือน เพราะเป็นการรวมกันของบรรดาผู้ที่มีใจ ...ในช่วงสั้นๆ ที่ผมบรรยายผมได้ทิ้งท้ายไว้ว่า ....ขณะนี้ที่ใต้โลโก้(เครื่องหมาย) ของ gotoknow พวกเราจะเห็นข้อความเขียนไว้ว่า “A SERVICE OF KMI.OR.TH” ทำอย่างไรข้อความนี้จึงจะกลายเป็น “A SPIRIT OF THAI BLOGGERS” ซึ่งหมายความว่า gotoknow คือจิตวิญญาณของบรรดา Thai blogger ทุกๆ คนครับ!!
สวัสดีครับอาจารย์ ต้องขอบพระคุณมากครับ สำหรับความรู้ และสำหรับการบรรยายที่ไม่เน้นหนักเชิงทฤษฎั (เพราะผมเองไม่ค่อยรู้ทฤษฎีการจัดการความรู้เท่าไหร่ คงต้องพัฒนาตัวเองอีกเยอะครับ) และขอบคุณครับที่อนุมัติให้ผมได้รางวัล สปา 30 นาที ทั้งๆที่ผมตอบชื่อผิดไป 1 ชื่อ ขอบคุณค้าบ
เรียน อ.ประพนธ์ ค่ะ
“A SERVICE OF KMI.OR.TH” ทำอย่างไรข้อความนี้จึงจะกลายเป็น “A SPIRIT OF THAI BLOGGERS” ชอบมากๆค่ะ
น้องโอ๋..
สวัสดีครับอาจารย์ แม้ผมจะไม่ได้ไปร่วมในงานนี้ก็ตาม แต่ก็ส่ง ใจ ไปครับ
ยอมรับว่าในสังคมแห่งนี้ สื่อสารกันด้วยใจจริงๆ ถ้าในองค์การไหน สามารถใช้ใจดึงคนดี และเก่งเข้ามาร่วมงานได้...จะสุดยอดมากๆครับ
เหมือนอย่างสังคม Gotoknow นี้เราต่างก็มารวมกันด้วย ใจ อีกเช่นกัน
“เราไม่สามารถใส่หน้ากากและหลอกตัวเองได้ใน gotoknow” ...เป็นความจริงที่สุดดด
ขอฝากมุมมองจากคนหนึ่งที่ไม่สามารถไปร่วมงานได้ ไว้กับบันทึกของอาจารย์ก็แล้วกันครับ
อาจารย์คะ
รู้สึกดีใจมากค่ะ ที่มีโอกาสได้พูดคุยกับอาจารย์
ปลื้มด้วยเมื่ออาจารย์เดินมาทักทายกลุ่มที่นั่งคุยและอาจารย์จำทุกคนในกลุ่มได้ทั้งๆที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน
คงมีโอกาสเอาหนังสือไปขอลายเซ็นจากอาจารย์ในวันหน้าค่ะ
ถูกใจ...ตรงใจเลยค่ะคุณ
โล่งใจไปทีครับ ;-) ผมกลัวอยู่ว่าจะมีคนตอบกลับมาว่าไม่ได้ไปแล้วไปยุ่งอะไรด้วย แฮ่ะ แฮ่ะ แต่เมื่อเขียนไปแล้ว ถึงจะตอบมาอย่างนั้น ก็เฉยๆแล้วครับ เพราะอยากเห็น AAR งาน KM เชียงใหม่มากกว่า -- งานนี้ผมเรียนฟรี
แอบตอบคุณ
สวัสดีค่ะ อ.ประพนธ์ beyondKM
ดีใจมากเลยนะคะ ที่ได้พบอาจารย์อีกครั้ง จริงๆ แล้วก็ดีใจอยู่แล้วที่ตอนเข้า gotoknow มาแล้วเห็นว่าอาจารย์เป็นสมาชิกและอยู่สคศ ทำให้รู้ว่ามาเข้าเป็นสมาชิกไม่ผิดที่แน่นอน ^ ^
จริงที่ครูบาฯ และอาจารย์เน้นว่า เราหลอกตัวเองไม่ได้หรอกค่ะ เวลาที่เราจะคิดจะเขียนอะไรในบันทึกสักที ต้องคิดแล้วคิดอีก ผ่านการกลั่นกรองพอสมควรทีเดียว ดิฉันคิดว่าการเขียนใน gotoknow ทำให้ผู้เขียนได้ฝึกปรือตนเอง ในการคิดค้น หาข้อมูล วิเคราะห์สังเคราะห์เรื่องที่จะเขียน แล้วจึงนำมาเขียนให้ได้เรื่องราว เนื้อหาต่างๆ ไม่ใช่ว่าปุ๊บปั้บจะเขียนได้ทันที (ยกเว้นว่าเคยเป็นบางครั้งที่ไอเดียล้นอยู่ในหัวอยู่แล้ว จะเขียนสดได้เลย แต่บางทีก็ยังต้องกลับมาปรับแต่งรายละเอียดบ้าง) ดังนั้น ถ้าคิดจะหลอกคนอื่น หรือหลอกตัวเองคงไม่สำเร็จหรอกค่ะ ^ ^
มาขอส่งเสริม spirit of Thai bloggers ด้วยคนนะคะ อย่างน้อย"ใจ"ของดิฉันก็มาด้วยเต็มๆ แล้วล่ะค่ะ
เรียนอาจารย์ประพนธ์ที่เคารพ
ดีใจมากค่ะที่ได้พบอาจารย์ และยิ่งดีใจเมื่อได้ฟังอาจารย์เล่าให้ฟังถึงจุดกำเนิดของ G2K และการบรรยายสรุปบนเวทีวันนั้น
วันี้ G2K ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งแล้ว แต่เป็นจิตวิญญาณของ Blogger ทุกคนใช่มั้ยค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
นำภาพมาฝากค่ะ
ขอบคุณอาจารย์สำหรับ"ข้อความประทับใจ"ดีๆที่เก็บมาฝาก เป็น"วาทะทอง"ทุกประโยคเลยนะคะ
และสำหรับการวิเคราะห์กระบวนการของงานนี้ น่าประทับใจจริงๆค่ะ ต้องขอเรียนว่าขนาดเราอยู่ไกลและไม่มีส่วนแม้แต่น้อยนิดในการจัดหรือร่วมอยู่ในงานนี้ แต่ก็รู้สึกได้ว่า เป็นงานของเราไปด้วย สำหรับตัวเองแล้วถือว่าเป็นการประชุมที่น่าอัศจรรย์ใจจริงๆค่ะ ทำให้เห็นว่า "The spirit of good will is here...in GotoKnow"
สวัสดียามเช้าครับ...
งานสัมมนาที่เชียงใหม่คึกคัก blog ที่พูดคุยกันเรื่องงานที่เชียงใหม่ก็ครึกครื้น ....บางที่เราอาจจะเจอ "โมเดล KM แบบไทยๆ" หรือแบบใช้ "ใจนำ" แล้วก็ได้ .....ช่วยกันสังเคราะห์หน่อยนะครับ ว่า "KM -Thai Version" ที่ว่านี้เป็นฉันใด ...มีปัจจัยสำคัญอะไรบ้าง?
สวัสดีครับท่านอาจารย์
ท่านใดที่ต้องการทำความเข้าใจเรื่อง KM ทั้งเรื่อง "หลักการและการนำไปใช้ปฏิบัติ" ลองเข้าไปอ่านบันทึกที่คุณหมอนนทลีเขียนไว้ที่ [รวมเรื่อง ตลาดนัดกรมอนามัย] รับรองรู้เรื่องแน่นอนครับ
ขอขอบพระคุณอาจารย์ประพนธ์ พี่ๆ น้องๆ และเพื่อนๆ go2know ทุกท่านครับ...
งานนี้พวกเราสนุก ประทับใจ และได้แลกเปลี่ยนอะไรๆ กันอย่างมากมาย โดยเฉพาะ 3 เหลี่ยมที่อาจารย์ยกมาคือ การประสานความรู้ที่เป็นก้อนๆ ในตำรา ความรู้ที่อยู่ในหัว และความรู้ที่มีอยู่รอบตัวเราเข้าด้วยกัน