KM เชียงใหม่ ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน!


สิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดในงานนี้ ก็คือการที่ผมได้มีโอกาสพบและพูดคุยกับ blogger หลายๆ คน ที่เคยพบกันแต่ใน g2k แต่ยังไม่เคยเจอตัวจริง หรืออาจเคยพบกันแบบเฉียดไปเฉียดมาแต่ว่าไม่ได้พูดจากัน

        สองจิตสองใจว่าจะเขียนบันทึกเรี่องงาน KM ที่เชียงใหม่ดีไหม? เพราะเห็นว่ามีคนเขียนกันแล้วมากมาย  และก็รายงานกันได้ค่อนข้างละเอียดลออซะด้วย ...นอกจากนั้นผมเองก็ได้เข้าไปร่วมงานเพียงแค่วันเดียว ....แต่ในที่สุดผมก็ไม่สามารถจะเก็บความประทับใจไว้คนเดียวได้อีกต่อไป ขอแชร์ความรู้สึกแม้แต่เพียงเล็กน้อยก็ยังดีครับ....ยอมรับครับว่าผู้จัด จัดได้ดีมาก คือมีทั้งส่วนที่เป็นสาระ บวกกับส่วนที่เฮฮา บวกกับส่วนที่เป็นศิลปวัฒนธรรม เรียกได้ว่าเป็นงาน KM ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของตนเองและสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของงานๆ นี้ ก็คือ เรื่องใจครับ

                         

        เป็นการรวมใจของบรรดา blogger ทั้งหลายใน gotoknow (g2k) …เป็นการร่วมใจของบุคลากรในคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ทั้งในส่วนคณาจารย์และนักศึกษา.... ผลงานที่ออกมาถือได้ว่าอยู่ในระดับ มืออาชีพ เลยทีเดียว นอกจากเรื่องใจแล้ว ผมก็เห็นความโดดเด่นในเรื่อง ภาวะผู้นำ ของ หัวเรือใหญ่   ท่านอาจารย์พิชัย  กรรณกุลสุนทร  ท่านคณบดี ที่สามารถรวมใจคนทั้งหลายจนสามารถทำให้ วิสัยทัศน์ ที่วาดไว้ ปรากฏออกมาแก่สายตาคนทั่วไป 

           

        สิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดในงานนี้ ก็คือการที่ผมได้มีโอกาสพบและพูดคุยกับ blogger หลายๆ คน ที่เคยพบกันแต่ใน g2k  แต่ยังไม่เคยเจอตัวจริง (หรืออาจเคยพบกันแบบเฉียดไปเฉียดมาแต่ว่าไม่ได้พูดจากัน)  อาทิเช่น  คุณเอก  คุณหมอวัลลภ  คุณแผ่นดิน  อาจารย์แป๋ว  ดร.กมลวัลย์ (พบกันครั้งสุดท้ายเมื่อ 8 ปีที่แล้ว)  อาจารย์ขจิต  คุณติ๋ว (พบกันแบบแว้บๆ ในงาน HA และที่ มข.)  อ. จันทรรัตน์  ดร. กระปุ๋ม หมอสุพัฒน์ คุณสมพร  คุณ little jazz  อ.ลูกหว้า  ครูอ้อย และ คุณสมนึก ฯลฯ (ขออภัยที่อาจจำได้ไม่ทั้งหมด)

           

        ในช่วงเช้าวันที่สองตอนที่ผมเป็นวิทยากร ผมรู้สึกดีที่ได้มีโอกาสแชร์ประวัตศาสตร์การก่อเกิดของ g2k ให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับฟัง เริ่มตั้งแต่วันแรกที่ผมได้พบกับสองด็อกเตอร์ ดร. ธวัชชัย ปิยะวัฒน์ และ ดร.จันทวรรณ น้อยวัน (ตอนนั้นยังไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกัน) ตอนที่ท่านทั้งสองเข้ามานำเสนอข้อเสนองานวิจัยเรื่องการสร้าง blog ให้กับสังคมไทยที่ สกว. เมื่อสองปีกว่ามาแล้ว แต่จุดเล็กๆ นั้นถือได้ว่าเป็นจุดแห่งการเริ่มต้นให้การสนับสนุนการพัฒนา g2k ของ สคส. นั่นเอง 

              

        หลังจากนั้นผมได้เปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้ดำเนินรายการแทน โดยได้เชิญครูบาสุทธินันท์ และคุณหมอวัลลภ พรเรืองวงศ์ มาร่วมแชร์ประสบการณ์การเป็น blogger ใน g2k ในช่วงนี้มีคำพูดดีๆ มากมาย เท่าที่ผมจำได้ (บันทึกไว้) ครูบาสุทธินันท์พูดไว้ตอนหนึ่งว่า ..... gotoknow  ช่วยให้ผมออกมาจากเรือนจำ ...เวลามีคำถามอะไรก็มีคนเข้ามาช่วย ...คนใน g2k เป็นเพื่อนที่ไว้ใจได้ ...ในนี้มีอะไรหลายอย่าง เหมือนเนรมิต ... มีคำตอบมากมาย ...มีเพื่อนที่ยิ่งกว่าเพื่อน

         นอกจากนั้นท่านครูบายังได้พูดว่าต้อง รู้ชัด รู้ลึก  รู้จริง และรู้แจ้ง  ผมตีความคำพูดของท่านว่าการ รู้ชัด ก็คือ การรู้ Explicit Knowledge  ส่วนการ รู้ลึก ก็คือการรู้  Tacit Knowledge  ใครก็ตามที่ รู้ชัด รู้ลึก ในที่สุดก็จะ รู้จริง/รู้แจ้ง การรู้จริง/รู้แจ้ง ทำให้กล้าที่จะเขียน ทำให้สิ่งที่บันทึกไว้มีพลัง เป็นประโยชน์กับผู้อื่นได้ในวงกว้าง  สำหรับอีกข้อความของท่านครูบาที่ผมประทับใจก็คือที่ท่านพูดว่า...  เราไม่สามารถใส่หน้ากากและหลอกตัวเองได้ใน gotoknow”  

        ฟังให้ดีนะครับ ท่านไม่ได้บอกว่าใส่หน้ากากหลอก คนอื่น ท่านบอกว่าคนใน g2k ไม่สามารถหลอกตนเองได้  เพราะในการบันทึกนั้นเราย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าเรากำลังเขียนอะไร ถ่ายทอดอะไร การเขียนไปเรื่อยๆ เขียนบ่อยๆ ทำให้ต้องค่อยๆ เรียบเรียงความคิด พินิจพิจารณา ทบทวนชีวิต  นี่แหละครับที่คุณหมอวัลลภสำทับว่า ทำให้รู้จักตัวเองดีขึ้น ...ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป...  และสิ่งที่คุณหมอวัลลภทิ้งท้ายไว้ให้กับ blogger มือใหม่ก็คือ ...ในการบันทึกขอให้  “Be Good  และ  Be You”   คือนอกจากเป็นคนดีมีคุณธรรมแล้วอย่าลืมเป็นตัวของตัวเองด้วยก็แล้วกัน ว๊าว! ช่างเป็นคำแนะนำที่งดงามจริงๆ

           

        งานนี้ไม่มีที่ใดเหมือน เพราะเป็นการรวมกันของบรรดาผู้ที่มีใจ ...ในช่วงสั้นๆ ที่ผมบรรยายผมได้ทิ้งท้ายไว้ว่า ....ขณะนี้ที่ใต้โลโก้(เครื่องหมาย) ของ gotoknow พวกเราจะเห็นข้อความเขียนไว้ว่า “A SERVICE OF KMI.OR.TH”  ทำอย่างไรข้อความนี้จึงจะกลายเป็น “A SPIRIT OF THAI BLOGGERS”  ซึ่งหมายความว่า gotoknow คือจิตวิญญาณของบรรดา Thai blogger ทุกๆ คนครับ!!

หมายเลขบันทึก: 119924เขียนเมื่อ 16 สิงหาคม 2007 10:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (26)
P
สวัสดีค่ะอาจารย์
เป็นบันทึกที่ตกตะกอนได้เยี่ยมมากค่ะ
g2kเป็นwebชั้นดี เป็นผู้ใหญ่ สุภาพ และให้เกียรติ์กัน
แต่ไม่ทราบใครเขียน อ่านเมื่อวาน ว่า อาจมีความ คล้อยตามกันมากไปนี๊ดดด...หรือเปล่า แต่ก็ดีกว่า ขัดกันโดยไม่สร้างสรรค์
 ถ้าเราเขียนอะไรที่มาจากเจตนาดี มาจากตัวตนของเราจริงๆ ไม่มีก้าวร้าว ส่อเสียด และข้อมูลที่ให้ น่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆบ้าง ก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะ
ดิฉันเอง ก็ได้ ความรู้ ความเห็นที่ดี หลากหลาย เพิ่มเติมจากที่นี่มากมายค่ะ
เห็นด้วย กับคุณหมอวัลลภมากค่ะที่ให้คำสรุปว่า การบันทึก ควรจะเป็นแบบ Be good และ Be You.

สวัสดีครับอาจารย์ ต้องขอบพระคุณมากครับ สำหรับความรู้ และสำหรับการบรรยายที่ไม่เน้นหนักเชิงทฤษฎั (เพราะผมเองไม่ค่อยรู้ทฤษฎีการจัดการความรู้เท่าไหร่ คงต้องพัฒนาตัวเองอีกเยอะครับ)  และขอบคุณครับที่อนุมัติให้ผมได้รางวัล สปา 30 นาที ทั้งๆที่ผมตอบชื่อผิดไป 1 ชื่อ ขอบคุณค้าบ

เรียน อ.ประพนธ์ ค่ะ

  • รออยู่ว่าเมื่อไหร่ท่านจะบันทึก(ซะที)...รออ่านมุมมองของอาจารย์อยู่ค่ะ...และก็คุ้มค่าการรอคอยจริงๆ
  • เสียดายอย่างมากๆที่อาจารย์มิได้อยู่ต่อในวันถัดมา...ความสนุกในช่วงของวันที่ 2 และ 3 ของงาน  ไม่ต่างเลยกับวันแรกค่ะ บรรยากาศดีมากๆทั้ง bloggers เก่าและใหม่  โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนละลายพฤติกรรมที่จัดวันสุดท้าย...สุดยอดค่ะ
  • เห็นด้วยกับทุกคำพูดของอาจารย์ค่ะ
  • พวกเราก็ดีใจมากๆค่ะที่เห็นอาจารย์มาและสนุกกับพวกเราแบบไม่ถือตัวซะด้วย...ประทับใจมากๆค่ะ...ถ้าคราวหน้ามีโอกาสอีกต้องมาให้ได้นะคะ

สวัสดีครับ ดร.ประพนธ์ ผาสุกยืด

 “A SPIRIT OF THAI BLOGGERS” 

เกิดขึ้นได้ครับ แล้วเกิดขึ้นแล้วครับ

Dsc04649

แวะเอารูปอาจารย์ลอยโคม ในค่ำคืนมาฝากด้วยครับ

“A SERVICE OF KMI.OR.TH”  ทำอย่างไรข้อความนี้จึงจะกลายเป็น “A SPIRIT OF THAI BLOGGERS” ชอบมากๆค่ะ

น้องโอ๋..

  • คืนนั้นพี่ติ๋วหาอาจารย์อยู่เชียว  ว่าอาจารย์ไปอยู่ตรงไหน  ลอยโคมกับใคร...ที่แท้น้องโอ๋คว้าไปนี่เอง

 

  • A SPIRIT OF THAI BLOGGERS
  • ได้เกิดขึ้นแล้วที่นี่ และทั่วแผ่นดินไทยครับ

สวัสดีครับอาจารย์ แม้ผมจะไม่ได้ไปร่วมในงานนี้ก็ตาม แต่ก็ส่ง ใจ ไปครับ

ยอมรับว่าในสังคมแห่งนี้ สื่อสารกันด้วยใจจริงๆ ถ้าในองค์การไหน สามารถใช้ใจดึงคนดี และเก่งเข้ามาร่วมงานได้...จะสุดยอดมากๆครับ

เหมือนอย่างสังคม Gotoknow นี้เราต่างก็มารวมกันด้วย ใจ อีกเช่นกัน

เราไม่สามารถใส่หน้ากากและหลอกตัวเองได้ใน gotoknow”   ...เป็นความจริงที่สุดดด

ขอฝากมุมมองจากคนหนึ่งที่ไม่สามารถไปร่วมงานได้ ไว้กับบันทึกของอาจารย์ก็แล้วกันครับ

  • งาน KM เชียงใหม่ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง
  • ผมคิดว่างาน KM ครั้งนี้ ได้สร้างบรรทัดฐานขึ้นใหม่ ต้องขอแสดงความยินดีกับผู้จัด และผู้ร่วมงานทุกท่านครับ สำหรับผู้ที่จะจัดงาน KM หรืองานสัมนาอื่นๆ ขึ้นหลังจากนี้ สามารถเรียนรู้จากความสำเร็จของงาน KM เชียงใหม่ และนำไปปรับใช้ได้เช่นกัน
  • องค์ประกอบหลักเป็นความจริงใจและความตั้งใจของทีมงาน บวกกับความต้องการที่ไม่เสแสร้งของบล๊อกเกอร์ที่่จะพบปะแลกเปลี่ยนกัน (เป็นเรื่องของคนและจิตใจ)
  • องค์ประกอบอื่นๆคือ
    • มีการประชาสัมพันธ์และการกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง
    • มีบล๊อกเกอร์ระดับแม่เหล็กไปร่วมงาน ทำให้งานเกิดความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
      • ผมคิดว่า explicit knowledge เกี่ยวกับ KM หรือเรื่องอะไรก็ตามนั้น หาอ่านได้
      • ถ้ามีโอกาสได้ฟังคำอธิบายและประสบการณ์จริง ก็จะเห็นและเข้าใจได้ชัดขึ้น
      • แต่ปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างงาน เป็นสิ่งที่ไม่สามารถจะหาทดแทนได้ และจะแตกต่างกันในแต่ละงาน
    • สถานที่ซึ่งเป็นที่เฉพาะ แอบหนีไปไหนไม่ได้ ก็มีส่วนที่ทำให้เกิดพลวัตของกลุ่มสูงถึงขนาดนี้
  • สิ่งที่อยากเห็นแต่ยังไม่เห็น
    • วิดีทัศน์ เผยแพร่ผ่านซีดี ไม่แนะนำรูปแบบออนไลน์เนื่องจากข้อจำกัดด้านความเร็วของวงจร -- ซึ่งเป็นประเด็นเดียวกันกับที่ผมไม่คิดว่าเหมาะสมที่จะถ่ายทอดสดจากสถานที่จัดงาน
    • หากมีการถ่ายวิดีทัศน์ไว้ ควรตัดมาเฉพาะไฮไลต์
    • สไลด์การนำเสนอของวิทยากรทุกท่าน ถ้าแถมประเด็นสรุปจากคุณลิขิตก็จะยิ่งดี -- ขณะนี้ผมคิดว่าความรู้กระจัดกระจายอยู่ตามบันทึกต่างๆครับ หากมีบันทึกอันหนึ่งซึ่งไล่ตามกำหนดการ แล้วเชื่อมโยงออกไปตามบันทึกต่างๆ น่าจะเป็นการรวบรวมความรู้ประสบการณ์ได้ดีกว่าการใช้คำหลัก (แต่ใช้คำหลัก KM เชียงใหม่ ก็ทำให้ติดตามได้ง่ายขึ้นมาก และดีกว่าไม่ใช้ครับ)
    • บันทึกบน GotoKnow เป็นข้อมูลที่คงอยู่ถาวร กรณีเหตุการณ์เฉพาะกาล หรือฟอรั่มเฉพาะ น่าจะมีเครื่องมือในลักษณะเว็บบอร์ดเข้ามาช่วยเสริม

อาจารย์คะ

รู้สึกดีใจมากค่ะ ที่มีโอกาสได้พูดคุยกับอาจารย์

ปลื้มด้วยเมื่ออาจารย์เดินมาทักทายกลุ่มที่นั่งคุยและอาจารย์จำทุกคนในกลุ่มได้ทั้งๆที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน

คงมีโอกาสเอาหนังสือไปขอลายเซ็นจากอาจารย์ในวันหน้าค่ะ

 

ดีใจที่มีโอกาสได้พบอาจารย์ ช่วงที่ประทับใจที่สุดในการสัมมนาครั้งนี้ก็เป็นช่วงของอาจารย์ที่เชิญพ่อครูบาฯ และคุณหมอวัลลภขึ้นไปร่วม ถึงตัวเองจะเตรียมงานอยู่สำหรับตอนบ่าย แต่ก็เปิดหูเปิดใจฟังอย่างจดจ่อ ยังบอกหลายคนเลยว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีจริงๆ แค่นี้ก็คุ้มค่าที่มาแล้ว (เสียดายอดฟังเพลงสุดท้ายที่อาจารย์ตั้งใจจะร้องค่ะ)

ถูกใจ...ตรงใจเลยค่ะคุณ

  • เรื่อง"ประเด็นสรุปจากคุณลิขิตก็จะยิ่งดี -- ขณะนี้ผมคิดว่าความรู้กระจัดกระจายอยู่" นั้น  เราได้คุยกันเบื้องต้นแล้วค่ะ 
  • ขณะนี้ ท่านอ.พิชัยและน้องมะปรางค์เปรี้ยวน่าจะกำลังวางแผนสะกัดออกมาค่ะ...พอดีตอนคุยกันดิฉันอยู่ด้วยค่ะ...น้องมะปรางค์ลิขิตไปบางส่วนและ อ.พิชัยกำลังไล่ล่าbloggerให้ลงบันทึกสิ่งที่ตัวพูดค่ะ....(เด็กๆคงจำได้   แต่ดิฉันอาจจะลืมบางส่วน)
  • ขอบคุณมากๆค่ะ...(อาจจะต้องช่วยกันเพราะนานวันจะลืม)

โล่งใจไปทีครับ ;-) ผมกลัวอยู่ว่าจะมีคนตอบกลับมาว่าไม่ได้ไปแล้วไปยุ่งอะไรด้วย แฮ่ะ แฮ่ะ แต่เมื่อเขียนไปแล้ว ถึงจะตอบมาอย่างนั้น ก็เฉยๆแล้วครับ เพราะอยากเห็น AAR งาน KM เชียงใหม่มากกว่า -- งานนี้ผมเรียนฟรี

แอบตอบคุณ

P
Conductor ไปแล้วก็เริ่มร้อนตัวค่ะ...ไม่ทราบว่าท่านทำกันไปถึงไหนแล้วหรือยังเพราะเห็นงานเยอะๆทั้งนั้น...นี่ที่ตอบก็ไม่ได้เกี่ยวข้องหรอกค่ะ...กะจะเอามาเรียนฟรีเหมือนกัน..แฮ่ๆ...

สวัสดีค่ะ อ.ประพนธ์ beyondKM

ดีใจมากเลยนะคะ ที่ได้พบอาจารย์อีกครั้ง จริงๆ แล้วก็ดีใจอยู่แล้วที่ตอนเข้า gotoknow มาแล้วเห็นว่าอาจารย์เป็นสมาชิกและอยู่สคศ ทำให้รู้ว่ามาเข้าเป็นสมาชิกไม่ผิดที่แน่นอน ^ ^

จริงที่ครูบาฯ และอาจารย์เน้นว่า เราหลอกตัวเองไม่ได้หรอกค่ะ เวลาที่เราจะคิดจะเขียนอะไรในบันทึกสักที ต้องคิดแล้วคิดอีก ผ่านการกลั่นกรองพอสมควรทีเดียว  ดิฉันคิดว่าการเขียนใน gotoknow ทำให้ผู้เขียนได้ฝึกปรือตนเอง ในการคิดค้น หาข้อมูล วิเคราะห์สังเคราะห์เรื่องที่จะเขียน แล้วจึงนำมาเขียนให้ได้เรื่องราว เนื้อหาต่างๆ  ไม่ใช่ว่าปุ๊บปั้บจะเขียนได้ทันที (ยกเว้นว่าเคยเป็นบางครั้งที่ไอเดียล้นอยู่ในหัวอยู่แล้ว จะเขียนสดได้เลย แต่บางทีก็ยังต้องกลับมาปรับแต่งรายละเอียดบ้าง) ดังนั้น ถ้าคิดจะหลอกคนอื่น หรือหลอกตัวเองคงไม่สำเร็จหรอกค่ะ ^ ^

มาขอส่งเสริม spirit of Thai bloggers ด้วยคนนะคะ อย่างน้อย"ใจ"ของดิฉันก็มาด้วยเต็มๆ แล้วล่ะค่ะ

 

 

เรียนอาจารย์ประพนธ์ที่เคารพ

ดีใจมากค่ะที่ได้พบอาจารย์ และยิ่งดีใจเมื่อได้ฟังอาจารย์เล่าให้ฟังถึงจุดกำเนิดของ G2K และการบรรยายสรุปบนเวทีวันนั้น

วันี้ G2K ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งแล้ว แต่เป็นจิตวิญญาณของ Blogger ทุกคนใช่มั้ยค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ

นำภาพมาฝากค่ะ

  • สวัสดีครับ..
  • ผมดีใจมากที่ได้เจอตัวจริงของท่านอาจารย์  หลังจากรับรู้และสัมผัสวิถีคิดจากบันทึก  หรือแม้แต่เรื่องราวอันหลากหลายจากคุณเอก...
  • แต่น่าเสียดายที่ผมไม่กล้าขอถ่ายรูปคู่กับอาจารย์   และนั่นคือความเก้อเขินที่ชาวบล็อกรู้กันดีว่าผมเป็นเช่นนั้นจริง ๆ
  • .....
  • การได้พบเจอตัวจริง  จึงนำพาความกล้าที่จะมาฝากตัวหนังสือไว้ในบันทึกของท่านอาจารย์
  • งานที่เชียงใหม่  สอนให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง  ตั้งแต่กระบวนการที่เจ้าภาพได้สังเคราะห์ขึ้นอย่างมีระบบ,  การทำงานในรูปเครือข่ายที่มีศักยภาพและมีศรัทธาที่แรงกล้าของผู้คนที่เกี่ยวข้องทั้งในฐานะผู้จัด, วิทยากรและผู้เข้าร่วม
  • ผมประทับใจความเป็นกันเองของอาจารย์ที่ฉายชัดสู่ผู้เข้าร่วมโครงการ  หรือแม้แต่การไม่ติดยึดกับรูปแบบใด ๆ  จนทำให้งานและเนื้องานได้ดำเนินไปตามวิถีของมันอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ....
  • การเข้าร่วมเวทีครั้งนี้  ช่วยให้ผมรู้สึกอย่างมี "ตัวตน"  เป็นครั้งแรกในลักษณะของการ "จัดการความรู้"  หลังจากหลุดร่วงไปจากเวทีเช่นนี้มาเสมอ ๆ 
  • ยังผลให้เกิดความมั่นใจที่จะกลับมาทำหน้าที่ของตนเองในองค์กรอย่างจริงจัง (เสียที)
  • ขอบพระคุณที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมนะครับ
  • แวะมาเก็บเกี่ยวเช่นเดียวกับอีกหลาย ๆ ท่านครับ...อาจารย์
  • รอสรุปงานในรูป VCD หรือ DVD  เช่นกันครับ
  • อาจารย์พิชัย และ น้องเอก คงไม่ทำให้ พวกเราผิดหวังนะครับ.....หวังมากไปไหมนี่...555

ขอบคุณอาจารย์สำหรับ"ข้อความประทับใจ"ดีๆที่เก็บมาฝาก เป็น"วาทะทอง"ทุกประโยคเลยนะคะ

และสำหรับการวิเคราะห์กระบวนการของงานนี้ น่าประทับใจจริงๆค่ะ ต้องขอเรียนว่าขนาดเราอยู่ไกลและไม่มีส่วนแม้แต่น้อยนิดในการจัดหรือร่วมอยู่ในงานนี้ แต่ก็รู้สึกได้ว่า เป็นงานของเราไปด้วย สำหรับตัวเองแล้วถือว่าเป็นการประชุมที่น่าอัศจรรย์ใจจริงๆค่ะ ทำให้เห็นว่า "The spirit of good will is here...in GotoKnow"

สวัสดียามเช้าครับ...

งานสัมมนาที่เชียงใหม่คึกคัก blog ที่พูดคุยกันเรื่องงานที่เชียงใหม่ก็ครึกครื้น ....บางที่เราอาจจะเจอ "โมเดล KM แบบไทยๆ" หรือแบบใช้ "ใจนำ" แล้วก็ได้ .....ช่วยกันสังเคราะห์หน่อยนะครับ ว่า "KM -Thai Version" ที่ว่านี้เป็นฉันใด ...มีปัจจัยสำคัญอะไรบ้าง?

สวัสดีครับท่านอาจารย์

  • สบายดีไหมครับ
  • อ่านบทความท่านอาจารย์ แล้วประกอบกับหลายๆ อย่าง เลยมีบทความนี้มาฝากนะครับ
  • ต้นไทร สายใยโกทูโนว์
  • ขอบพระคุณสำหรับนกที่น่ารักคู่นั้นครับ
  • และขอบพระคุณสำหรับการให้ที่พักและปัจจัยกับต้นไทรต้นนี้ครับ
  • ขอบพระคุณมากครับ
สวัสดีครับอาจารย์
P
   ดีใจมากๆครับที่ได้พบอาจารย์ตัวจริงครั้งที่สอง  (ครั้งแรกที่เมืองทองธานี HA 7th )
   ถ้าผมไม่อายมากเกินไป  คงจะได้ความรู้และได้ฟังอาจารย์แลกเปลี่ยนความคิดกับอาจารย์ท่านอื่นๆอีกหลายๆท่านครับ
             เพราะช่วงงานเลี้ยงพี่เอก  พี่ชายที่หวังดีก็ได้ชวนให้ไปสวัสดีอาจารย์  และอยู่ไกล้อาจารย์เพื่อฟังผู้ใหญ่คุยกัน   พี่แผ่นดินก็ชวนไปโต๊ะอาจารย์  และสุดท้ายพี่กะปุ๋มครับ  มีคนพยามตั้งสามคนแต่ก็ไม่สำเร็จในคืนที่13ครับ (ทั้งๆที่ใจอยากฟัง  อยากเรียนรู้กับอาจารย์ครับ)  เพราะว่าไม่กล้า  เพราะว่า.. 
         แต่ช่วงเช้า..โชคดีมากๆครับที่ได้นั่งคุยกับอาจารย์  ผมเขินมากๆ(แต่ก็แอบดีใจสุดๆครับ)  ที่ต้องมานั่งตรงกลางระหว่างอาจารย์ที่ผมศรัทธาและนับถือทั้งสองท่านครับ....
      จริงๆผมกะจะให้อาจารย์เซ็นหนังสือของ osho ทั้ง 5เล่ม  แต่กลัวอาจารย์จะเมื่อยครับ  เลยเอาให้อาจารย์เพียงเล่มเดียวครับ
    ขอบพระคุณอาจารย์มากๆครับ 
          ที่ทำให้ผมเข้าใจ KM  มากจากแนวคิดปลาทู
        
          ที่แปลหนังสือดีๆให้ผมได้เพิ่มเติมความรู้
       ขอบคุณในความเมตตาจิต  ไมตรีจิตแม้ว่าจะเพียงระยะเวลาสั้นๆแต่ก็ติดตรึงในความรู้สึกผมอย่างไม่มีวันลืมได้ครับ
 Kmsabai  pai hospital...
       
  
สวัสดีครับอาจารย์
      ขอชื่นชมอาจารย์ดังๆที่นี่อีกครั้ง  หลังจากไปชมกับใครต่อใครมามาก  รวมทั้งโทรไปชมกับอาจารย์ตรงๆมาแล้ว
      การจัดงานที่เชียงใหม่สำเร็จยิ่งใหญ่ในมุมไหนก็เป็นที่ประจักษ์  แต่ไม่มีงานใดที่ไม่มีส่วนบกพร่อง  งานคราวนี้ก็เช่นกัน หลังทำ AAR แต่ละวันเราพูดกันด้วยใจ  ผมเองก็รู้สึกเป็นเจ้าภาพมากกว่าผู้ถูกเชิญไป จึงร่วมคิดอ่านกันแบบพี่น้อง  ไม่มีใครดื้อรั้น  หรือเชื่อมั่นในตัวเองจนเกินพอดี  มีแต่ฟังกัน  จะเห็นเหมือน เห็นต่าง สุดท้ายเราก็เลือกทางออกที่ดีที่สุด เพื่อแก้ไขสถานการณ์ มีการยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนสิ่งที่กำหนดไว้ เพื่อให้ได้ผลออกมาดีที่สุดในแต่ละช่วง
     หนึ่งในการปรับเปลี่ยนก็คือช่วงที่เป็นเวลาของอาจารย์นั่นแหละ .. หากเป็นบางคนหรือ หลายคน เขาคงไม่ยอม  ผมเองก็คิดแต่ก็ยังไม่กล้านำเสนอเพราะมันกระทบถึงตัววิทยากร คืออาจารย์นั่นเอง ความคิดดังกล่าวก็คือ อยากให้เวทีของ 2 ปูชนียบุคคล ใน Gotoknow คือท่าน ครูบาสุทธินันท์ กับ ท่าน อ.หมอวัลลภ ได้แยกตัวออกมาจากกลุ่ม Blogger หนุ่มสาว ไฟแรงทั้งหลาย  โดยมีใครสักคนที่ "มือถึง" เป็นผู้ดำเนินรายการ และคอยเชื่อมโยง
     แล้วฝันของผมก็เป็นจริง  เมื่อมีโทรศัพท์ถึงท่านครูบาฯ ขณะที่ท่านกับผมกำลังคุยติดพันกันอยู่นอกห้องประชุม
     ได้คน "มือถึง" อย่างอาจารย์ มานั่งอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 ท่าน ทุกอย่างจึงออกมาสวย แบบหมดจดจริงๆครับ .. ผมขอยืนยันว่าผมไม่ได้ชมอาจารย์  ผมเพียงพูดความจริงตามที่มันเป็น

ท่านใดที่ต้องการทำความเข้าใจเรื่อง KM ทั้งเรื่อง "หลักการและการนำไปใช้ปฏิบัติ" ลองเข้าไปอ่านบันทึกที่คุณหมอนนทลีเขียนไว้ที่ [รวมเรื่อง ตลาดนัดกรมอนามัย] รับรองรู้เรื่องแน่นอนครับ

ขอขอบพระคุณอาจารย์ประพนธ์ พี่ๆ น้องๆ และเพื่อนๆ go2know ทุกท่านครับ...

  • ขอขอบพระคุณพวกเราทุกๆ ท่านที่มีส่วนร่วมในงาน km เชียงใหม่

งานนี้พวกเราสนุก ประทับใจ และได้แลกเปลี่ยนอะไรๆ กันอย่างมากมาย โดยเฉพาะ 3 เหลี่ยมที่อาจารย์ยกมาคือ การประสานความรู้ที่เป็นก้อนๆ ในตำรา ความรู้ที่อยู่ในหัว และความรู้ที่มีอยู่รอบตัวเราเข้าด้วยกัน

  • ขอขอบพระคุณครับ (อดจะกล่าวสาธุไม่ได้)... สาธุ สาธุ สาธุ
  • ท่านอ.ประพนธ์...
  • ขอบพระคุณค่ะที่ยังจำหว้าได้ด้วย
  • ความจริงรู้สึกตืนเต้นมากที่ได้นั่งติดกับอาจารย์ แม้ไม่ได้พูดคุยกับอาจารย์  คือตื่นเต้นจริงๆค่ะ
  • แต่ก็ได้จดจำข้อคิดหลายอย่างที่ท่านอาจารย์ได้ฝากไว้ค่ะ
  • km เชียงใหม่ได้ให้ประสบการณ์ดีๆกับหว้ามาก
  • อย่างน้อยที่นี่ก็ทำให้หว้ารับรู้ถึง
  • spirit of Thai bloggers
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท