เมื่อเช้า (15 ส.ค. 2550) อ่านหนังสือพิมพ์มติชน พบข่าวนี้ น่าสนใจมากคะ เพราะเป็นการรวมกลุ่มคนที่มี ผิวคล้ำ (หรือไม่คล้ำก็ได้) และประกาศตั้งเป็น “ชมรมคนตัวดำ” หรือ BODYBLACKY-CLUB เพื่อแสดงให้เห็นว่า “คนผิวดำก็มีดีเหมือนกัน” โดยกลุ่มนี้เขารวมตัวกันเพื่อให้เป็นพื้นที่รวบรวมเรื่องราว ประสบการณ์ พบปะพูดคุย ร่วมกิจกรรมต่างๆ โดยในช่วงแรกผู้ก่อตั้งได้จัดทำเว็บไซต์ก่อนเพื่อประกาศรับสมาชิกคนตัวดำ หรือหากใครคิดว่าตนเองผิวคล้ำก็สมัครเป็นสมาชิกได้
ปัจจุบันชมรมมีอายุ 1 ปีเต็ม มีสมาชิกทั้งหมด 30 คน กิจกรรมที่ร่วมกันทำเป็นหลัก จะเป็นการช่วยเหลือสังคม อย่างเช่นกิจกรรมที่เพิ่งผ่านมา คือ การไปบริจาคของตามโรงเรียนที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร ปลูกป่าชายเลนเพื่อแม่ หรือหากมีวันหยุดยาวๆ ก็จะนัดเจอกัน ไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน
อ่านข่าวนี้ทำให้นึกถึงเมื่อตอนทำงานมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก (มพด.) ได้ทำงานกับเด็กและเยาวชน ซึ่งประเด็นหนึ่งที่เราพยายามปรับวิธีคิดใหม่ คือ การให้เด็กและเยาวชนรู้สึกภาคภูมิใจในคุณค่าของตนเอง มากกว่ารูปร่างหน้าตาหรือสีผิวตามกระแสนิยม ที่ต้องผอม ขาว เพราะในสื่อต่างๆ โดยเฉพาะโทรทัศน์ก็มีแต่โฆษณา เครื่องประทินโฉม เครื่องสำอาง ที่ใช้แล้วทำให้หน้าขาว ตัวขาว ผิวขาว ฟันขาว แม้กระทั่งรักแร้ยังขาวเลย หันไปทางไหนก็มีแต่ขาว อะไรก็ขาวไปหมด เด็กและเยาวชนที่เราทำงานด้วย (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กต่างจังหวัดและกลุ่มแรงงานเด็ก ก็รู้สึกว่า “ดำ” แล้วไม่ดีตรงไหน ทำไมมีแต่คนอยากขาว บางคนต้องเสียเงินมากมายเพื่อสรรหาวิธีที่ทำให้ตัวเองขาวขึ้น
ชมรมคนตัวดำที่ว่านี้ จึงเป็นเหมือนเพื่อน พี่น้องที่สร้างกำลังใจให้สมาชิก บางคนมาระบายความในใจว่าโดนล้อเลียนว่าผิวดำ หน้าที่ของสมาชิกคนอื่นๆ ก็จะคอยปลอบ และบอกว่าให้มองโลกในแง่ดีอย่าไปเปรียบเทียบว่า เขาผิวขาว เราผิวดำ ไม่ว่าจะมีผิวเป็นสีอะไร ก็เป็นคนเหมือนกัน และสามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมได้เช่นกัน เพราะไม่มีเกณฑ์อะไรมาวัดว่า คนนี้ผิวขาว หรือผิวดำ
ใครสนใจ “ชมรมคนตัวดำ” สามารถเข้าไปเยี่ยมชมหรือสมัครเป็นสมาชิกกันได้เลยนะคะ
หญิง สคส.
อยากสมัครเป็นสมาชิกชมรมนี้บ้างจัง........รู้สึกว่าน่าสนใจมากเลย ขอบคุณมากค่ะที่เก็บเรื่องราวดีๆมาฝาก
สวัสดีค่ะ
ดิฉันไม่เคยมีความรู้สึกแบ่งว่า ผิวขาวดีกว่าผิวดำเลย เหมือนกันค่ะ อย่างที่คุณbegoodบอก
ผิวขาว เราผิวดำ ไม่ว่าจะมีผิวเป็นสีอะไร ก็เป็นคนเหมือนกัน และสามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมได้เช่นกัน เพราะไม่มีเกณฑ์อะไรมาวัดว่า คนนี้ผิวขาว หรือผิวดำ
แต่ มันเหมือนเป็นค่านิยมน่ะค่ะ อย่าไปเอาใจใส่ก้ไม่มีปัญหาค่ะ