เมื่อวันแม่ที่ผ่านมา ไปทำบุญให้คุณพ่อกับคุณแม่ ที่ วัดเดิม อ.พิมาย ได้พบเจอญาติๆพี่ๆน้องๆ หลายคน เพราะนัดมาร่วมทำบุญด้วยกัน หลังจากนั้นก็เดินทางไป จ.ขอนแก่นต่อ และเพิ่งจะเดินทางกลับจากขอนแก่นมาโคราชเมื่อเช้านี้เพื่อมาทำงาน ตื่นตั้งแต่เช้ามืด
เช้านี้ก็เลยมีบทความดีๆเกี่ยวกับน้ำและสุขภาพมาให้เพื่อนๆชาว gotoknow ได้อ่านกัน จะได้มีสุขภาพดีกันทั่วหน้า
การดื่มน้ำสะอาดที่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายได้รับการกระตุ้นและพร้อมที่จะทำงาน ส่งผลให้โลหิตไม่ข้น การไหลเวียนเป็นไปได้ง่าย สูบฉีดดี หัวใจไม่ทำงานหนัก ไม่เมื่อยล้า ไม่เหนื่อยง่าย หัวใจเป็นปกติมีประสิทธิภาพดี แข็งแรง ลมหายใจสะอาดสดชื่นหายใจโล่งเย็น นัยน์ตาสดใสเป็นประกาย มีน้ำหล่อเลี้ยงแวววาวตลอด ไม่มีเส้นเลือดแดงกล่ำ ไม่แสบตา ไม่ร้อนใน ปากลิ้นสะอาด ผิวกายไม่เหี่ยวย่น ใบหน้าชุ่มชื่น เต่งตึงเป็นสีชมพู เลือดดี การขับถ่ายของเสียสะดวก ไม่ท้องผูก ปัสสาวะใสสะอาด ไม่ปวดหลังและบั้นเอว การทำงานของไตดี รูขุมขนมีเหงื่อชุ่มเสมอ
ร่างกายของคนเรามีน้ำประกอบอยู่ถึง 3 ใน 4 ส่วน หรือ 70 % และทุกเซลล์จะมีน้ำเป็นองค์ประกอบ ร่างกายต้องหมุนเวียนน้ำในร่างตลอดเวลา เพื่อทำหน้าที่หลายอย่าง ดังนั้นการดื่มน้ำจึงถือเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญต่อเราเป็นอย่างมาก การดื่มน้ำให้ถูกวิธี ก็ยิ่งเป็นการเสริมสร้างสุขภาพของเราให้ดียิ่งขึ้นด้วย
วิธีดื่มน้ำให้สุขภาพดี
--ดื่มน้ำสะอาด ปราศจากสิ่งปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
--ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ( 1 แก้ว = 240 ซีซี. ) ระยะเวลาที่ควรดื่มในหนึ่งวัน ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
ตื่นตอนเช้า 1 แก้ว
ตอนสาย 2 แก้ว ( ประมาณ 09.00 - 10.00 )
ตอนบ่าย 3 แก้ว ( ประมาณ 13.00 - 14.00 )
ตอนเย็น 3 แก้ว ( ประมาณ 19.00 - 20.00 )
ก่อนเข้านอน 1 แก้ว เพื่อให้นำที่ดื่ม ไหลเวียน ชะล้างสิ่งที่ตกค้างในลำไส้ และกระเพาะอาหาร
--ดื่มน้ำทุกครั้งที่ร่างกายร้องขอ แต่ไม่ควรพรวดพราดดื่มทีละมากๆ เพราะนั่นจะเป็นการเพิ่มภาระให้ระบบขับถ่ายอย่าง ไต ปอด ม้าม รวมทั้งระบบย่อย
--ไม่ควรดื่มน้ำร้อนมากหรือเย็นจัด การดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ทำให้อวัยวะของร่างกายต้องทำงานเพิ่มขึ้น เพราะต้องปรับน้ำที่เย็นกว่าให้เท่ากับอุณหภูมิของร่างกายก่อนนำไปใช้ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอลง ระบบย่อยอาหารไม่ดี หรือปวดประจำเดือน ทางที่ดีควรดื่มน้ำอุ่นๆ เพื่อให้ร่างกายขับเหงื่อ และดื่มตอนที่รู้สึกกระหาย
--ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำครั้งละ 2 - 3 แก้วติดต่อกันทันที แต่ให้ดื่มตามปกติระหว่างวัน
--ไม่ควรดื่มน้ำระหว่างมื้ออาหาร ประเภทข้าวคำ น้ำคำ เพราะจะทำให้น้ำย่อยเจือจาง ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เต็มที่ ทั้งนี้ถ้ารู้สึกกระหายจริงๆ ให้จิบน้ำอุ่น หรือซดน้ำซุปแก้ฝืดคอแทน
--ควรดื่มน้ำตอนที่ลุกจากเตียงหมาดๆ ถ้าเป็นระหว่างมื้ออาหาร ก็ 1 ชั่วโมงก่อนอาหาร และหลังจากอิ่มแล้วครึ่งชั่วโมง
การดื่มน้ำแม้ใครหลายๆคนมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ง่ายๆ แต่ถ้าขาดการดูแลสิ่งเล็กๆน้อยๆเหล่านี้เป็นประจำ ก็จะส่งผลไม่ดีให้กับสุขภาพในระยะยาวได้ค่ะ เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าลืมใส่ใจการดื่มน้ำสะอาดกันให้มากๆนะคะ
ขออนุญาติcopyบทความเผยแพร่ต่อได้มั๊ยครับ จะให้กับผู้มารับบริการครับ ใช้ชื่อคุณอ้างอิงในเอกสารนะครับ หากไม่อนุญาตกรุณาตอบด้วยนะครับ
ยินดีค่ะ คุณสิทธิ์ชัย
บทความดังกล่าวดิฉันก็ได้มาจากอินเตอร์เน็ตค่ะ