เมื่อวันที่ 9-11 มกราคม 2549 ที่ผ่านมากับกิจกรรม KM สัญจร ครั้งที่ 2 นักวิจัยต่อยอดความรู้ชาวบ้านที่ จ.พิจิตร ทีมประชาสัมพันธ์นำทีมผู้สื่อข่าวร่วมกิจกรรม โดยพร้อมเพรียง
เริ่มต้นเช้าวันที่ 9 ม.ค. พวกเราเดินทางออก จากเอสเอ็มทาวเวอร์เวลาประมาณ 8.00 น. พอรถออกก็เปิดวีซีดี เรื่องการจัดการความรู้ของเครือข่ายสุขภาพจังหวัดพิจิตร จากนั้นก็มีการแนะนำตัวนักวิชาการ นักวิจัย ทีมงานสคส. สกว.ผู้สื่อข่าว พร้อมทั้งบอกความคาดหมายที่มาในครั้งนี้
ทั้งนี้นักวิชาการและนักวิจัย ทีเดินทางมาด้วยคือ ศ.ดร.อารันต์ พัฒโนทัย ,ศ.ดร.เบญจวรรณ ฤกษ์เกษม,ดร.อมเรศ ภูมิรัตน,คุณวิไลลักษณ์ สมมติ,ดร.ประเสริฐ โสภณ,ดร.วิชัย บุญแสง,คุณพรพิมล กิตติมศักดิ์, ศ.ดร.อภิชัย พันธเสนฯลฯ
คณะเดินทางของเราเดินทางมาถึงศาลาว่าการจังหวัดประมาณ บ่ายโมงกว่าๆ ก็มีการฉายวีซีดีอีกครั้งเพื่อให้ผู้ว่าและทีมที่อยู่ทางจ.พิจิตร ได้ดูอีกครั้ง ซึ่งทีมที่มารอเราอยู่ที่จ.พิจิตรนั้นประกอบด้วย ศ.ดร.ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์, ผศ.ดร.วิบูลย์ วัฒนาธร,ผศ.ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท,ผศ.ดร.เสมอ ถาน้อย, อาจารย์สมลักษณ์ วงศ์สมาโนตน์, เจ้าหน้าที่เษตรจังหวัดพิจิตร และกำแพงเพรช,คุณไพฑูรย์ ช่วงฉ่ำ พร้อมด้วยเกษตรกรและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร และเกือบลืมคุณสุรเดช เดชคุ้มวงศ์ วันนั้นห้องประชุมศาลาว่าการจ.พิจิตรแน่นไปหมด โดยที่เราไม่คาดคิดว่าคนจะมากันมากมายขนาดนั้น (มากกว่า 40 คน) ทำให้เก้าอี้ที่เตรียมไว้ไม่เพียงพอ
ฉายวีซีดีจบแล้วท่านรองผู้ว่าฯ จ.พิจิตรก็เข้ามากล่าวต้อนรับ และก็พูด(แต่เรื่องของตนเอง) ไม่ได้ใส่ใจ หรือ เอาชาวบ้านและกิจกรรมของชาวบ้านเป็นตัวตั้งแต่เอาความต้องการของตนเองและจังหวัดเป็นตัวตั้ง เช่น พูดว่าที่ผ่านมาสิ่งที่ชาวบ้านนั้นดี แต่อยู่นอกระบบ ต่อไปนี้เราต้องเอาเข้ามาอยู่ในระบบ คือ ก็ต้องมองค่าการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจด้วย (สรุปก็คือถ้าพูดอย่างนี้ก็ไม่ใช่เศรษฐกิจพอเพียง แน่นอน จึงไม่ค่อยอยากจะฟังในสิ่งที่ข้าราชการพูดสักเท่าไหร่)
พูดจบแล้วก็ไป ไม่ได้รอฟังสิ่งที่ชาวบ้านพูด แต่ไม่เป็นไร เราและคณะฯ ตั้งใจมาฟังชาวบ้านมากกว่า (แต่ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าคนนั้นทำให้เสียบรรยากาศKM สัญจรครั้งนี้เสียจริงๆ)
จากนั้นตัวแทนชาวบ้านจาก 4 พื้นที่ก็เริ่มต้นเล่าสิ่งที่พวกเขาลงมือทำกันจริงๆ ให้เราฟัง ก่อนที่จะแยกย้ายกันลงพื้นที่เพื่อหาโจทย์วิจัยกันอย่างลึกซึ้ง
โดยคุณวิสันต์ ทองเต่ามก เล่าถึงสถานการณ์ที่ผ่านและและอัพเดทกิจกรรมล่าสุดของกลุ่มผักปลอดสารให้เราฟัง โดยบอกว่าในวันที่ 10 ม.ค.เราจะไปแปลงผักของลุงอินทร์ สงคราม แกนนำกลุ่มผักหนองโสน อ.สามง่าม
เครือข่ายข้าวสะอาด เราจะไปดูงานกันที่บ้านคุณผดุง เครือบุษผา ต.คลองคูณ อ.ตะพานหิน คนหนุ่มไฟแรงไฝ่เรียนรู้และพัฒนาอยู่เสมอ
เกษตรรวมมิตรเราจะไปดูที่สวนลุงพงษ์ ธูปอ้น ต.ทับหมัน ต.ตะพานหิน อดีตชาวนาทำนาปรัง แต่ต่อสู้กับพิษสารเคมีไม่ไหว ต้องเปลี่ยนตนเองมาทำไร่นาสวนผสมท่ามกลางวงล้อมนาปรัง
สำหรับเครือข่ายโรงเรียนทายาทเกษตร เราจะไปดูพื้นที่จริงกันที่โรงเรียนวัดหนองปลาหมอ ต.หนองปล้อง อ.วังทรายพูน
จากนั้นก็แยกย้ายเข้าที่พักหลังจากเดินทางกันมาทั้งวัน จากนั้นก็นัดพบปูเสื่อทานอาหารกลางวันด้วยอาหารปลอดสารพิษที่บึงสีไฟร่วมกับชาวบ้าน เติมพลังก่อนลงพื้นที่จริงในวันรุ่งขึ้น (อาหารอร่อยมากกกกกกกกก โดยเฉพาะน้ำพริกกะปิผักต้มลาดกะทิ)
ยินดีกับความสำเร็จในการสัญจรครั้งนี้ด้วยครับ แต่เราต้องยอมรับ ความหลากหลายทางความคิด ความหลากหลายทางวัฒนธรรม เป็นธรรมดาที่การทำงานจะต้องมีคนที่คิดต่างกัน อยู่ที่ว่าเราจะบริหารจัดการ...อย่างไร การเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีนั้น เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องใจเย็นๆ ครับ จงมองสิ่งดีๆ บ้าง ถ้างั้นเราจะเห็นแต่ปัญหา จะทำงานไม่มีความสุข ขยายและเชื่อมของดี สร้างพันธมิตรไปเรื่อยๆ ไม่มองสิ่งที่ต่างจากความคิดเราเป็นสิ่งเลวร้ายเสมอไป ค่อยๆ ปรับเปลี่ยน แล้วเราจะบรรลุสิ่งที่คาดหวังไว้ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านครับ