จิตอาสาโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก


ต้องการมาเพื่อช่วยเหลือ ให้ผู้ป่วยได้คลายทุกข์ จากการเจ็บป่วย มีความสุข มีรอยยิ้ม

                  จากวันที่ 1 มีนาคม 2550 ถึงวันนี้ นับเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว ที่สมาชิกชมรมจิตอาสาโรงพยาบาลพุทธชินราช ได้ร่วมทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ในโรงพยาบาลพุทธชินราช  ปัจจุบัน มีสมาชิกจิตอาสา ศูนย์สุขภาพเมือง พิษณุโลก 36 คน  อาคารผู้ป่วยนอก 76 คน ตึกกุมารเวชกรรม   18  คน   มีทั้งผู้ใหญ่ และเด็กๆ เยาวชน  ในจังหวัดพิษณุโลก ที่หมุนเวียน กันมาทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ตามที่ตนเองมีความถนัด บางท่านมาคนเดียว บางท่านมาเป็นทีม  บางท่านมาเป็นครอบครัว  เรามีโอกาสได้ร่วมงานกับจิตอาสามา 4 เดือน จนเหมือนเป็นทีมงานสุขภาพ ทีมเดียวกัน  สมาชิกจิตอาสา ในแต่ละตึกเอง ก็เริ่มอยากรู้จักกัน  อยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ซึ่งกันและกัน แนะนำให้เราช่วยจัดประชุมพบปะกันให้หน่อย  งานนี้พวกเราจัดให้ทันที   สมาชิกจิตอาสาจึงได้มาพบปะกันในวันที่ 10 สิงหาคม 2550 ที่ผ่านมา                  

                กิจกรรมในวันนี้ เริ่มด้วย อาจารย์สุนีรัตน์ ภู่เอี่ยม ประธานชมรมจิตอาสาโรงพยาบาลพุทธชินราช กล่าวต้อนรับสมาชิก หลังจากนั้นเป็นการบรรยายความรู้เรื่อง การเปลี่ยนแปลงในผู้สูงอายุ โดยนายแพทย์ดนัย สังข์ทรัพย์ หัวหน้าศูนย์สุขภาพเมือง พิษณุโลก   แล้วต่อด้วยการบรรยายหัวข้อเรื่องภูมิคุ้มกันชีวิต จากนายแพทย์นิพัธ กิตติมานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านบริการปฐมภูมิ  วิทยากรทั้งสองท่านได้รับความสนใจ ซักถามคำถามมากมาย                  

                 ช่วงบ่าย เราแบ่งกลุ่มจิตอาสา เป็น 5 กลุ่ม  เลือกเข้ากลุ่มจากกิจกรรม ที่จิตอาสาทำ อยู่  ตั้งชื่อกลุ่ม มีกลุ่มวันจันทร์ กลุ่มวันอังคาร กลุ่มยืดเหยียด กลุ่มอาสาพาเพลิน กลุ่มอาสาพาข้อมูล  สมาชิกแต่ละกลุ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในกลุ่มก่อน หลังจากนั้น แต่ละกลุ่มก็จะออกมาแนะนำตัวเอง เล่าสู่กันฟังว่า กิจกรรมที่ทำคืออะไร  เหตุใดจึงมาเป็นจิตอาสา ทำแล้วพบปัญหาอะไรบ้าง แก้ไขกันอย่างไร แล้วอยากให้ทางโรงพยาบาลแก้ไขปรับปรุงอะไร  ที่น่าประทับใจที่สุดคือลีลาของการเล่าแต่ละท่าน  หลากหลาย สร้างความสนุกสนานให้กับสมาชิกคนอื่นๆ  ในวันนั้น                              

                  เราอยากจะถ่ายทอดความรู้สึกของจิตอาสา แต่ละท่าน ออกมา ทั้งหมด เป็นลายลักษณ์อักษร ให้ได้อ่านกัน แต่คงเล่าได้ไม่หมดในวันนี้    ที่สำคัญคือไม่ว่าจะเป็นจิตอาสากลุ่มใด จิตอาสาท่านใด ทุกคนบอกจุดมุ่งหมายตนเองที่มาเป็นจิตอาสา เหมือนกันคือ ต้องการมาเพื่อช่วยเหลือ ให้ผู้ป่วยได้คลายทุกข์  จากการเจ็บป่วย มีความสุข มีรอยยิ้ม ทุกคนบอกถึงความสุข ความภาคภูมิใจที่ได้รับ เมื่อเห็นผู้ป่วยได้ยิ้ม ได้หัวเราะ สิ่งเหล่านี้มีค่าสำหรับจิตอาสาทุกคน                            

                        ก่อนจบการประชุมสมาชิกในวันนั้น  สมาชิกทุกคนล้อมวงจับมือกัน ร้องเพลง ค่าน้ำนม ร่วมกัน ด้วยเหตุผลว่าใกล้วันแม่แห่งชาติ  ออกจะแปลกๆ ต่างกับการอบรมทั่วๆ ไป ที่มักจะร้องเพลงคำมั่นสัญญา กัน  แต่ด้วยใบหน้า แววตา รอยยิ้ม ที่ทุกคนมีให้แก่กัน เหมือนเป็นสัญญาว่า ทุกท่านจะร่วมกันทำความดี เป็นจิตอาสาโรงพยาบาลพุทธชินราช ด้วยกันต่อไป  เป็นวันที่มีความสุขร่วมกันจริงๆ 

เก็บภาพบรรยากาศ ความสุข ของพี่ๆ จิตอาสา มาฝากค่ะ

อาจารย์สุนีรัตน์ ภู่เอี่ยม ประธานชมรมจิตอาสาโรงพยาบาลพุทธชินราช

 

นายแพทย์ดนัย สังข์ทรัพย์ บรรยายหัวข้อ การเปลี่ยนแปลงในวัยสูงอายุ 

นายแพทย์นิพัธ กิตติมานนท์ เสริมด้วย"ภูมิคุ้มกันชีวิต "   

น้องแม๊ก พิธีกรคนเก่ง

พี่ๆ ออกท่าทาง อู๋ๆ อ๋าๆ
โรตี ส่ายไข่ โรตีส่ายนม
เข้ากลุ่ม

สองท่านนี้ สามีภรรยา มาด้วยกัน

 คุณพ่อ กับคุณลูก

ก่อนจาก ร้องเพลงค่าน้ำนม ร่วมกัน

น้องเจี๊ยบ น้องขวัญ Project Manager งานจิตอาสา

คำสำคัญ (Tags): #จิตอาสา
หมายเลขบันทึก: 119118เขียนเมื่อ 12 สิงหาคม 2007 23:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
     กิจกรรมในวันนั้นเป็นกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความสุข รู้สึกดีมากๆนะที่ได้มีส่วนร่วมในวันนั้นด้วย เราว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่เห็นได้ชัดก็คือ มิตรไมตรีที่ทุกคนมีต่อกัน มีไมตรีและเมตตา จิตอาสาก็จะอยู่คู่ โรงพยาบาลพุทธชินราช ได้ตลอดไป น้อยว่ามะ

เห็นภาพบรรยากาศของพี่ ป้า น้า อา และ น้องๆจิตอาสาที่ได้มาพบปะกันน่ามีความสุขนะน้อยนะเป็นการเติมพลังและความสุขให้ท่านทั้งหลายที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจสร้างสรรค์สิ่งดีๆเกิดขึ้นในสังคม

ยินดีกับจิตอาสาทุกคนทำต่อนะ

พิมลพรรณ พิษณุโลก

สวัสดีค่ะ

ม่ายทราบว่าจะมีกิจกรรมดีๆอย่านี้อีหกเมื่อรายอ่าคร่า

พอดีว่าหนูสนใจอ่าคร่า

ตอนนี้หนูจบม.6แล้วอ่าคร่า

อยู่ในช่วงรอผลคะแนนแอดมิชอ่าคร่า

[email protected]

อันนี้อีเมลหนูน้าคร่า

สวัสดีค่ะ

  • จะรอติดตามกิจกรรมดี ๆแบบนี้
  • มีความสนใจเข้าร่วมค่ะ

ผมเองก็เป็น จิตอาสา ของโรงพยาบาลราชบุรี เห็นกิจกรรมของท่านแล้วอิจฉาจัง อยากให้มีในโรงพยาบาลราชบุรีบ้าง ผมทำงานที่โรงพยาบาลราชบุรีมาหลายปี ไม่เคยมีกิจกรรมใดๆที่เป็นประโยชน์ เนื่องจากวิสัยทัศน์ในการบริหารของพยาบาลที่ดูแลโครงการณ์จิตอาสา ไม่ค่อยมีมากนัก ไม่คิดว่าโครงการณ์นี้จะเป็นประโยชน์ใดๆมากไปกว่าการสร้างภาพและPRผลงานของตนเองเท่านั้น จิตอาสาหลายท่านที่มีคุณภาพถูกเรียกมาว่ากล่าวตามอำเภอใจของเธอ นำเสนออะไรไปก็จะถูกกลั่นแกล้ง ที่สุด ต้องออก จากคำขู่ ''หากไม่ทำตาม จะไม่ให้มาทำงานที่โรงพยาบาลอีก"จนทนไม่ไหว ทั้งที่ตอนเข้ามา มีใจอยากช่วย ทำไปทำมา ต้องถามตัวเองว่า มาทำอะไรอยู่ที่นี่คับ ที่กล่าวมานี่ แค่อยากจะสอบถาม หากเราเป็นจิตอาสา แล้วโดนกลั่นแกล้ง ไม่ได้รับความเป็นธรรม เราจะไปร้องเรียนเอากับใครดนกลั่นแกล้ง ก็ลาออกไป จากไปเงียบๆในเงามืดตามลำพัง ปล่อยให้เขายิ่งใหญ่ต่อไป

ขอคำชี้แนะด้วยครับ

ปริญญา

ขอบคุณจิตอาสาจากใจ

จิตอาสาคือพลังที่ยิ่งใหญ่ จิตอาสามิยอมให้ใครสิ้นหวัง

จิตอาสามาด้วยใจเต็มกำลัง จิตอาสาไม่หยุดยั้งการทำดี

จิตอาสาเปี่ยมด้วยใจเสียสละ พร้อมที่จะเข้าช่วยเหลืออย่างเร็วรี่

ทำงานใดด้วยหัวใจที่เปรมปรีดิ์ ทำความดีด้วยพลังความตั้งใจ

แม้เหน็ดเหนื่อยเพียงใดไม่เคยท้อ สิ่งที่ขอเพียงได้ทำงานยิ่งใหญ่

สร้างประโยชน์ฝากธรนินทร์ถิ่นแดนไทย ความภูมิใจจึงท่วมท้นล้นดวงมาลย์

เราทุกคนซาบซึ้งในน้ำใจท่าน สุดจำนรรจ์หาคำมาพร่ำขาน

มีเพียงบทกลอนนี้ที่เบ่งบาน เป็นตำนานคำตอบกราบขอบคุณ

งานจิตอาสาควรเป็นงานที่เราทำแล้วมีความสุขที่จะทำ ทำแล้วช่วยให้เกิดคุณประโยชน์แก่ผู้อื่น ทำแล้วไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนลำคาญ หรือผลเสียหายแก่ใคร พฤติกรรมการทำงานของเราต้องสอดคล้องกับความต้องการและวัฒนธรรมขององค์กรนั้น ๆ

จิตอาสาบางคนมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ดุคนไข้ ไม่แต่งกายให้ถูกระเบียบ พูดจาไม่ดี ใครจะเป็นคนตักเตือนดี เตือนแล้วจะรับฟังและปฏิบัติตามหรือไม่ บางคนอาจมองทางลบมากกว่าทางบวก บางคนมีความสุขเปี่ยมล้นที่ได้มาทำงาน และร่วมผลักดันให้การดำเนินงานจิตอาสาเติบโตและก้าวไปข้างหน้า เราทุกคนคงอยากให้เป้นเช่นนั้น สิ่งที่ยังไม่ดีก้พัฒนากันต่อไปด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยความเมตตา

อ่านข้อโต้แย้งของคุณแล้วรู้สึกว่าคุณเล..กว่าที่ผมคิดไว้อีกนะ จิตอาสาฯที่พูดจาไม่ดี ดุคนไข้ก็มีแต่พวกของคุณเท่านั้นที่กระทำ แต่คุณก็ปกป้องเขา ในขณะที่คนที่คุณไม่ชอบหน้า คุณเองที่หาเรื่องใส่ร้ายใส่ความเขา แต่งเรื่องสกปรกขึ้นมาอย่างน่าละอายที่สุด คนอย่างคุณจะตักเตือนใครได้เล่า ผมว่าคุณเตือนตัวเองก่อนดีมั้ย ให้คิดดีทำดี ไม่ใช่เที่ยวสร้างภาพโกหก เอาผลงานใส่ตัว ผมถามคุณหน่อย ที่คุณว่าพวกผมมาจ้องหาผลประโยชน์นะ เอาสมองคิดเหรอ เบรกกาแฟ16บาท กับข้าวกลางวันหนึ่งมื้อ นี่เหรอมาหาผลประโยชน์ของคุณ ตอบผมมาซิครับ คุณเคยทำงานเต็มวันทุกวันโดยไม่รับสิ่งตอบแทนอย่างพวกผมนานติดต่อกันสี่ห้าปีมั้ย ทำได้หรือเปล่า คุณก็ดีแต่ทิ้งหน้าที่ไปเสนอหน้าเวลามีผู้คนมาเยี่ยมดูงาน เอาคนไปถ่ายรูปว่ามาทำงาน ที่จริงคนที่คุญถ่ายไปเสนอนายคุณไม่เคยมาทำงานเลย คุณต้องการแกล้งคนที่เขาทำงานอยู่เท่านั้น แบ่งพรรคแบ่งพวก ข่มเห่งรังแกคนที่มาเป็นจิตอาสาฯทั้งที่เขามาทำงานให้โรงพยาบาล เพียงเพราะ เขาไม่เลียแข้งคุณ ไม่เออออตามที่คุณบอก ไม่ตามใจคุณไม่ป้อยอคุณเท่านั้นเอง อยากถามกลับไป ทุกวันนี้คุณทำงานคุ้มเงินเดือนที่ได้รับหรือไม่ หรือแค่ตีกินไปวันๆ.......

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท