ช่วงนี้มังคุดออกมามาก ราคาตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ผลไม้ภาคใต้ปีนี้ อะไรๆ ก็ราคาตก
วันสองวันนี้ ราคาขายส่งจากสวนอยู่ที่ 2.50-3.00 บาท คงไม่พอค่าจ้างเด็กมาเก็บ
หากจะปล่อยให้ร่วงก็เสียดาย
แล้วชาวสวนมังคุด จะทำอย่างไรกันดี
สมัยหนึ่ง ชาวคีรีวงศ์ ซึ่งก็ปลูกมังคุดเหมือนกัน เขาก็ขายมังคุด ต่อมาก็เพาะต้นมังคุดขาย ตอนนี้ได้ข่าวว่ารับซื้อเปลือกมังคุด คงจะเอาไปทำสบู่เปลือกมังคุด ขายกันอีกครับ
เปลือกมังคุด เป็นสมุนไพร ที่ทำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง แต่ที่อยากจะเล่าให้ฟังในวันนี้คือ น้ำต้มเปลือกมังคุด สามารถนำมาชำระล้างบาดแผลได้
ในเปลือกมังคุด มีสารที่ต่อต้านการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์
เมื่อนำไปล้างแผล ก็เหมือนกับใส่ยา ลงไปด้วย
นอกจากนี้ การใช้น้ำเปลือกมังคุดล้างแผล จะทำให้แผลหายเร็วขึ้น นั่นคือ ในเปลือกมังคุด มีสารที่ช่วยให้การสมานแผลดีขึ้น
คนที่เป็นเบาหวานแล้วเป็นแผล หากชอบแกะชอบเกา แผลก็จะหายช้า หากใช้น้ำเปลือกมังคุด ล้างแผล ก็จะช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น
คนที่เป็นสิว โดยเฉพาะวัยรุ่น หากใช้นเเปลือกมังคุด มาล้างหน้า ก็จะช่วยให้เป็นสิวน้อยลง และแผลจากการบีบหัวสิว ก็จะสมานได้เร็วขึ้น
เมื่อกินมังคุดแล้ว เปลือกมังคุด ต้องตากให้แห้ง แล้วเก็บไว้ในภาชนะที่ไม่ให้ความชื้นเข้าไปได้ จะเก็บไว้ได้นาน เมื่อต้องการใช้ก็นำมาใช้ได้ทันที
นอกจากนี้ อาจจะเอาเปลือกมังคุดไปตากให้แห้งแล้วบดเป็นผงเก็บไว้ใช้
หากใครทำสบู่เป็น ก็สามารถนำผงเปลือกมังคุด ผสมลงไปในก้อนสบู่ได้ด้วย กลายเป็นสบู่เปลือกมังคุด
วิธีการทำก็ไม่ยาก ใช้ไขมันพืช ผสมกับโซดาไฟ กวนจนเข้ากันแล้วเติมผงเปลือกมังคุด ก็จะได้ สบู่เปลือกมังคุด เอาไว้ใช้ก็ได้ ขายก็ได้
ก็จะช่วยแก้ปัญหา มังคุด ล้นตลาดได้ครับ
ซื้อมังคุดมากินสัก 2 กก. จะได้เปลือกมังคุดสดราว 1.5 กก ได้เปลือกมังคุดไปใช้ประโยชน์อีกเยอะครับ
(หากใครคิดจะทำสบู่เปลือกมังคุด ต้องศึกษาวิธีทำก่อนนะครับ อย่าใจร้อนเอาโซดาไปมาผสมกับไขมัน โดยไม่รู้วิธีทำนะครับ)
วันนี้มีโอกาสเข้าเมืองเลยถือโอกาสเข้ามาเยี่ยม"เฒ่าหน้าเหมน"ซะหน่อย
เข้ามาทักทายแค่นี้ก่อนครับ
สวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์
... คิดถึงค่ะ แม้อยู่ห่างไกล ไม่เคยเห็นหน้า ก็คิดถึงได้ ใช่ไหมคะ
... อยู่ที่ลาว ผลไม้แพงมากค่ะ ถูกสุด คือกล้วย
... อยู่ห่างบ้าน ยิ่งคิดถึงบ้านเรา คิดถึงทรัพยากรที่มีอย่างสมบูรณ์ ยิ่งทำให้รักบ้านเรามากขึ้นค่ะ
... ท่านอาจารย์ สบายดีนะคะ รักษาสุขภาพค่ะ
ปลายปี หากว่างปูขออนุญาติแวะไปเยี่ยมเยือนนะคะ
สวัสดีครับคุณปู
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนครับ ปีนี้มากินเจที่ภูเก็ต ฝนตกเกือบทุกวัน จนกระทั่งวันนี้
ปลาย พ.ย. ต้น ธ.ค. ว่ามามาเที่ยวเวียงจันทน์สักวันครับ
รักษาสุขภาพนะครับ
สวัสดีครับ อ.ขจิต
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ ผมก็แวะเวียนไปอ่านบันทึกของอาจารย์อยู่บ่อยครับ เพียงแต่ว่าไม่ค่อยได้ทักทายมาครับ
ได้อ่านบทความเกี่ยวกับมังคุด ใน เทคโนโลยีชาวบ้าน ของ มติชน ก็เลยขอลอกมาบางตอน หากต้องการรายละเอียดมากกว่านี้ก็ ตามไปได้ที่ http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05038011150&srcday=2007/11/01&search=no ครับ
จากการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "การแปรรูปมังคุดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มสำหรับวิสาหกิจชุมชน" ขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 กันยายน 2550 ที่โรงแรมนิว แทรเวิลลอร์ด อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี มีรายละเอียดดังนี้ครับ
ภญ.วัจนา ตั้งความเพียร ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร จากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ จังหวัดปราจีนบุรี ได้กล่าวถึงมังคุดของไทยว่า มังคุดไทยเป็นมังคุดที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก ซึ่งตรงนี้เป็นการยืนยันจากโรงงานอุตสาหกรรมที่เมืองบังคาลอร์ ประเทศอินเดีย ที่สกัดสารแซนโทนจากเปลือกมังคุดและทำเป็นเปลือกชนิดผงส่งไปขายแถบยุโรปและอเมริกา แล้วนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จำหน่ายเพิ่มมูลค่าได้อย่างมหาศาล ได้เพิ่มมากกว่าราคาผลมังคุดสดหลายเท่าตัว
อยากให้ดูผลการวิเคราะห์เนื้อมังคุดก่อนว่ามีคุณค่าทางโภชนาการอะไรบ้าง
กองโภชนาการ กระทรวงสาธารณสุข สรุปว่า
ในเนื้อมังคุด 100 กรัม ประกอบด้วย
โปรตีน 0.5 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 18.4 กรัม
ไขมัน ไม่มี
ใยอาหาร 1.7 กรัม
แคลเซียม 11 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 17 มิลลิกรัม
เหล็ก 0.9 กรัม
วิตามินบี 1 0.09 มิลลิกรัม
วิตามินบี 2 0.06 มิลลิกรัม
ไนอะซิน 0.1 มิลลิกรัม
ปกติเรามักจะทิ้งเปลือกและเมล็ดมังคุดไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะไม่ทราบประโยชน์ซึ่งความจริงในเมล็ดมังคุดมีกรดไลโนเลอิก ที่ร่างกายต้องการและสร้างขึ้นไม่ได้ ต้องรับจากอาหารภายนอกเท่านั้น
ดังนั้น หากรับประทานมังคุดแล้วเคี้ยวเมล็ดกลืนไปด้วยจะได้รับประโยชน์จากกรดนี้
ไปดูกันที่เปลือกมังคุดเมื่อวิเคราะห์พบว่า มีการประกอบ 3 กลุ่มที่สำคัญ คือ
กลุ่มสารแทนนิน (Tannin) ให้รสฝาด เป็นสารที่ช่วยสมานแผลให้หายเร็ว รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
กลุ่มที่เป็นรงควัตถุ (Anthocyanin) หรือเม็ดสีบริเวณผิวเปลือกด้านนอกสีแดง สีม่วง-น้ำตาล มีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)
และสุดท้ายเป็นกลุ่มสำคัญคือ สารแซนโทน (Xanthone) ซึ่งมีอยู่มากถึง 43 ชนิด เช่น mangostin, mangostenol เป็นต้น
ซึ่งสารแซนโทนนี้มีมากที่เปลือกมังคุด แต่จริงแล้วมีที่เมล็ด ลำต้น และใบด้วย แต่ปริมาณน้อยกว่าที่เปลือก
เมื่อกล่าวถึงเปลือกมังคุดพบว่า มีสรรพคุณหลายด้านซึ่งมีการใช้มาตั้งแต่โบราณ โดยการใช้เป็นยาฝาดสมาน แก้ท้องเสีย แก้บิด รักษาแผล
ไม่เฉพาะไทยเท่านั้น ประเทศอินโดนีเซียใช้เปลือกแก้บิด ใบแห้งนำมาต้มดื่มแก้ไข้ บรรเทาอาการปวดท้อง คนจีนใช้เป็นยาแก้บิด และนำไปผสมในขี้ผึ้ง ทาแก้ผื่นคัน รักษาอาการท้องเสียและหนองใน ฟิลิปปินส์ใช้แก้ท้องเสีย ถ่ายพยาธิ ส่วนมาเลเซียใช้เปลือก ราก ต้มรักษาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ
หากจะจำแนกประโยชน์ของเปลือกมังคุดเกี่ยวกับฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา สามารถแบ่งได้เป็น 6 ประเด็น ดังนี้
1.มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย สารสกัดจากเปลือกมังคุดสามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย S.aureus สาเหตุแผล ฝี หนอง ของร่างกายมนุษย์ ทั้งสายพันธุ์ปกติและสายพันธุ์ดื้อยาเพนนิซิลลิน ประสิทธิภาพเทียบเท่า ยาแผนปัจจุบันคือ Vancomycin ที่ใช้เป็นสาร antibiotic กับคนไข้ ไอซียู ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดอาการท้องร่วง แผลในกระเพาะอาหาร เช่น E.coli, Shigella Spp. ต้านเชื้อแบคทีเรีย H.pyroli และต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว ฝ้า พวก P.acne
2.มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อรา พวกเชื้อราสาเหตุของโรคผิวหนัง กลาก เกลื้อนได้บางชนิด
3.เป็นสารกดการทำงานของระบบประสาทส่วนกลางในหนู ซึ่งทำให้สงบ เชื่องช้า เป็นสารเสริมฤทธิ์ยานอนหลับ ทำให้หลับนานขึ้น ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อหัวใจ และเพิ่มความดันโลหิต
4.สารแมงโกสตินและอนุพันธ์ สามารถลดอาการอักเสบ บวมแดงและร้อนของกล้ามเนื้อผิวหนัง ใช้ทาแผลสด แผลไฟไหม้ได้ดี พอๆ กับว่านหางจระเข้ รักษาแผลโรคเบาหวานและแผลเรื้อรังจากการติดเชื้อแบคทีเรียได้ดี ผลการทดสอบสามารถต้านการอักเสบได้ดีกว่ายาแอสไพริน 3 เท่า
5.ต้านออกซิเดชั่น (antioxidant) ในกระบวนการต่อต้านและกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกายและจากสภาพแวดล้อมภายนอกที่เป็นสาเหตุอาการผิดปกติของร่างกาย เซลล์ผิวหนัง เนื้อเยื่อต่างๆ ป้องกันการเกิด LDL และลดความเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดอุดตัน จากการทดสอบความสามารถในการดูดซับอนุมูลอิสระของสารสกัดจากผลไม้ชนิดต่างๆ เช่น แครอต ราสป์เบอร์รี่ โพมกราเนต วูฟเบอร์รี่ และมังคุด พบว่า สารแซนโทนจากมังคุด มีคุณสมบัติดูดซับอนุมูลอิสระได้มากสุด
6.บรรเทาอาการแพ้ โดยมีฤทธิ์ต้านอีสตามีน และเซโรไทนิน สาเหตุโรคภูมิแพ้ น้ำมูกไหล จาม-ไอ แก้มแดง ตาแดง ผิวหนังผื่นคัน ระคายเคือง ลดอาการบวมแดงเนื่องจากหลอดเลือดขยายตัว
ผลทดสอบในห้องทดลองจากประเทศจีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น อินเดีย และยุโรป ยังพบว่า ยับยั้งเอนไซม์ของเชื้อ HIV และสารที่เป็นพิษต่อพันธุกรรมมนุษย์ กระตุ้นกระบวนการ phargocytosis คือ การกำจัดสิ่งแปลกปลอมพวกจุลินทรีย์ที่เข้าสู่ร่างกายและช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดที่มีรังสีอัลตราไวโอเลต โดยมีค่า SPF 10.4
จากผลการวิจัยที่ว่า สารแซนโทนและอนุพันธ์ มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหลายด้าน จึงได้มีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ หลายแบบ เช่น ยาการ์ซิดีน (Garcidine) ยาใส่แผลสดจากเปลือกมังคุด ที่ใช้ทดแทนยาแดง ยาเหลือง ทิงเจอร์ไอโอดีน ที่ชื่อโพวีโดนไอโอดีน ซึ่งยานี้มีข้อจำกัดเพราะมีสารโลหะหลายชนิดและเป็นพิษต่อร่างกาย ระคายเคืองแสบมากและเปรอะเปื้อนเสื้อผ้า ไม่สมานแผลจึงหายช้า ที่สำคัญคือ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ขาดดุลการค้ามหาศาล ขณะที่ยาการ์ซิดีนนั้นมีประสิทธิภาพฆ่าเชื้อได้ดีกว่ายาโพวีโดนไอโอดีน เพราะมาจากธรรมชาติ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและฝาดสมาน แผลจะหายเร็วกว่า จึงเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิตมังคุด ลดการกำจัดขยะจากเปลือกมังคุด การนำเข้ายาฆ่าเชื้อ และพึ่งตนเองได้ นอกจากนี้
ภญ.วัจนา ตั้งความเพียร ยังได้พูดถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์มังคุดแปรรูปของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ ว่ามีหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร/อาหารเสริม เช่น แคปซูลเปลือกมังคุดที่บรรจุแซนโทนผง ใช้กินแก้โรคกระเพาะอาหาร ปวดท้อง ท้องเสีย ต้านอนุมูลอิสระ กลุ่มเครื่องสำอาง เช่น แชมพู ผงขัดหน้า สบู่อาบน้ำ ครีมทาผิวป้องกันแสงแดด กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม เช่น น้ำมังคุดพร้อมดื่ม น้ำมังคุดแช่แข็ง ผงมังคุดบดแห้งหรือสกัด เหล่านี้ล้วนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้รูปสมุนไพร และมีโอกาสทางการตลาดสูงมาก
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณครับ อาจารย์
เพิ่งกลับมาจากการประชุมที่ ชุมพรคาบานา เกี่ยวกับการอบรมเกษตรกร ทำเกษตรกรรมธรรมชาติครับ
สวัสดีครับ อ.ขจิต
เสียดายนะครับที่ อ.ขจิต ไม่ได้ไปภูเก็ตกับเขา ผมก็เสียดายที่ไม่สามารถกลับมาพบปะกับสมัครพรรคพวกได้ครับ ภาระกิจจำเป้นจริงๆในช่วงนี้
มีเรื่องใน stock อยู่หลายเรื่อง ว่าจะเขียนให้อ่านกันเล่นๆ แต่ก็เหนื่อย ทุกๆวัน แถมวันนี้ ขาโดนท่อไอเสีย มอร์ไซด์อีก แต่ก็มี น้ำมันมะพร้าว (ที่เอาไปแจกพรรคพวกที่ไปภูเก็ต)เอามาทาทันที ก็เลยหาย ไม่ปวดแสบปวดร้อน ไม่พอง
ขอบคุณ อ.ขจิต ที่แวะมาทักทายครับ
ตามมาขอบคุณครับผม สบายดีไหมครับผม ตอนนี้กำลังยุ่งๆๆเหมือนกันครับผม
เพื่อนที่ทำงานเขาสนใจอยากได้สูตรทำสบู่จากเปลือกมังคุดค่ะ ดิฉันเลยค้นหาในเน็ดให้
แล้วก็มาเจอบทความของอาจารย์ละค่ะ ก็เลยพิมพ์ให้เพื่อนไป รู้สึกขอบคุณอาจารย์
และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ต้องการอะไรก็หาความรู้ได้ด้วยปลายนิ้วจริง ๆ
ขอบคุณผู้ให้ความรู้เป็นวิทยาทาน.....ขอให้อาจารย์มีความสุขนะค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากเลย ช่วยให้ข้อมูลทำโครงงานได้เยอะเลยนะคร้าบผม ขอบคุณมากๆๆๆๆๆเลยคร้าบ
สวัสดีครับ ลุงพูน และเพื่อนๆ
ผมอยากจะขอทราบยาที่สามารถช่วยรักษาเปลือกมังคุดให้อยู่ได้นาน ป้องกันความเน่าเปื่อยและเชื้อราครับ ลุงพูน หรือเพื่อน ท่านอื่นๆ พอจะให้ความรู้เรื่องนี้ได้ไหมครับ
ขอบคุณเป็นอย่างสูง
เล็ก
อยากทราบอัตราการทำแห้งของเปลือกมังคุดค่ะ ว่าใช้เปลือกมังคุดสดเท่าไร แล้วจะได้เปลือกมังคุดแห้งเท่าไร
ของคุณค่ะ
เก๋
อ่านมาหลายบทความรวมทั้งฟังจากคนที่เคยหมัก เลยไม่รู้ว่า ข้อความไหนที่เป็นจริง ในเรื่องของการหมักมังคุด ว่าเวลาหมักจะต้องเอาเปลือกนอก(ส่วนที่แข็ง) ออกเหลือแต่ส่วนในที่มีชมพูก่อนถึงเนื้อสีขาวใช้หมักทั้งหมด เพราะเปลือกนอกส่วนที่แข็ง หากหมักรวมไปด้วยจะทำให้เกิดโรคท้องผูก เลยไม่รู้ว่าต้องหมักทั้งเปลือกนอกส่วนที่แข็งด้วยหรือเปล่า บางคนบอกดี บางคนบอกไม่ดี รบกวนช่วยตอบด้วยค่ะ