ผักข้างรั้ว


เมื่อทุกอย่างเหมาะสมโดยธรรมชาติ สิ่งสวยงามย่อมเกิดขึ้น โดยธรรมชาติ เหมือนผักข้างรั้ว

              ผักข้างรั้วดูเหมือนเป็นคำคุ้นเคย กับชุมชนชนบทไทยมาตั้งแต่อดีต   จวบจนปัจจุบัน ก็ดูเหมือนคุ้นเคย แต่กลับไม่คุ้นตาเท่าไรนัก   ทั้งนี้โดยภาพรวม ผักข้างรั้วได้ประสบกับความพ่ายแพ้แก่เสาปูนและลวดหนามและอื่นๆ ไปเรียบร้อยแล้ว                      

       ท่านที่คุ้นเคยกับ ผักข้างรั้ว  ลองหลับตา ใช้สมาธิ  ทำใจให้นิ่ง ผมเชื่อว่า คุณค่าและความงดงามของผักข้างรั้วที่มีต่อชุมชนชนบทไทย จะผุดขึ้นมาให้ท่านได้ชื่นใจแน่นอน                         

          ในอีกมุมหนึ่ง  ผักข้างรั้ว เติบโตโดยธรรมชาติ    บางครั้งมันเติบโต  สวยงาม  ให้ผลผลิตมากกว่า ผักที่เราตั้งใจปลูกด้วยซ้ำไป   เปรียบประดุจ การเรียนรู้ของผู้คน  หากมีกระบวนการ สอดรับเหมาะสมกับธรรมชาติของผู้คน  การเรียนรู้ย่อมสร้างความเจริญงอกงามให้แก่บุคคลและ สังคม                                                 

          เมื่อทุกอย่างเหมาะสมโดยธรรมชาติ  สิ่งสวยงามย่อมเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ  เหมือนผักข้างรั้ว    

หมายเลขบันทึก: 119090เขียนเมื่อ 12 สิงหาคม 2007 20:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มิถุนายน 2012 19:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

      

   ศูนย์เรียนรู้อำเภอกระนวนขอชื่นชมในความสามารถอาจารย์  และจะติดตามผลการสอนของอาจารย์ทางนี้ตลอด

                       กลุ่มพิทักษ์ภูธร ศูนย์การเรียนรู้กระนวน

สวัสดีค่ะ

ที่บ้านดิฉัน เราทานผักกันมาก เลยปลูกผักข้างรั้วทานเองค่ะ งามมากๆค่ะ มีตั้งแต่ตำลึง โหรพา กะเพรา พริก มะลพกอฯลฯ เต็มไปหมด

ดีจริงๆค่ะ

สวัสดีครับ...อาจารย์เม็กดำ1

  • เข้ามาเยี่ยมครับ...
  • ผักสวนครัว รั้วกินได้...รู้จัดทำ รู้จักใช้ ลดรายจ่าย อยู่แบบพอเพียง
  • ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่นำเสนอครับ...
  • สวัสดีครับ ผอ.P แวะเข้ามาเรียนรู้ครับ
  • ผักข้างรั้วแสดงถึงวิถีไทยอย่างแท้จริงครับ
  • อ่านแล้วทำให้นึกถึงภาพ ตอนที่ยังเป็นนักเรียนชั้นประถม รั้วที่บ้านจะมี ชะอม กฐิน ตำลึง ถั่งพู ถั่วปีฯ ขึ้นรอบรั้ว
  • เวลาเย็นได้ข้าวเหนี่ยวหนึ่งปั้น มีน้ำพริกข้างในข้าว ปลาหมึกแห้งย่างไฟ เดินทานกับพี่สาวรอบรั้ว พร้อมเล่นตามปะสาเด็ก นึกแล้วมีความสุขดีครับ

ผมก็ชอบทานผักข้างรั้วหรือผักปลูกเองนะครับ ส่วนตัวผมไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จในการปลูก ดีที่คุณแม่ผมโยนอะไรลงดินก็เติบโตงอกงามให้พวกเราทานกัน

อ่านบันทึกนี้ (หลับตาอย่างที่คุณครูบอก) พร้อมเสียงเพลง พรหมลิขิตบันดาลชักพา... ได้บรรยากาศสุดๆ เลยครับ

  • เป็นการให้แง่คิดที่มองเห็นภาพชัดเจนมาก
  • ไม่ต้อง ''โฟกัส'' ภาพอีกเลย
  • ยอดเยี่ยม...มากครับจารย์
ตามความคิดของดิฉัน อยากจะให้ชาวบ้านทุกหลังคาเรือน ปลูกพืชผักสวนครัว เป็นรั้วกินได้พร้อม  มีความคิอยากสนับสนุนจริงๆคะ  บ้านของดิฉันคงจะมีแต่รั้วรลวดหนาม  และรั้วคอนกรีต ตามอาจารย์ว่าจริงๆคะ  เสียดายเหลือเกิน ทั้งที่บ้านบางหลังสามารถทำได้ แต่ไม่ใส่ใจ เพราะอาศัยร้านค้า ตึกไปเสียแล้ว  ซื้อหอม ซื้อพริก ก็วิ่งไปที่ร้านค้าเลย  เอาความสะดวกเป็นใหญ่ ก็ด้วยที่เห็นว่า การปลูกพืชผักบางอย่างเป็นการเสียเวลา  เอาเวลาไปหาเงินดีกว่า  เปลียนแนวความคิด ฉะนั้น รั้วเป็นพืชกินได้ก็นับวันจะหมดไปเช่นกัน ด้วยที่ว่า มันรกรุงรัง  อยากมีรั้วบ้านที่มาตรฐานดีกว่า ผักซื้อเอา เอาที่ไปปลูกบ้านใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม สวนจึงหายไป และอีกหน่อยจะไม่มีรั้วกินได้อีกแล้ว ตามจรงนะโดยเฉพาะชนบท  ควรจะมีการรณรงค์ กันบ้าง ดิฉันไม่ค่อยได้ไปคลุกคลีกับชาวบ้านพอที่จะเป็นกำลัง หนุนให้เขารณรงค์ได้ อยากให้มีคนมีอิทธิพล ไม่ใช่อิทธิพลทางร้ายนะ  อิทธิพลที่ทำให้ชาวบ้านเชื่อเห็นดีเห็นงามไปด้วย  ที่เห็นก็จะมีคนเดียว คือท่านอาจารย์ศักดฺพงษ์ หอมหวนนี่แหละ และจะมีอีก ซักกี่คน จะลงผู้แทนไหมคะ  สวัสดีคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท