โค้ชส้ม Citrus
Miss. ปรีดิ์ฤทัย โค้ชส้ม ตั้งจิตญาณพัฒน์

ใช้ทักษะการเป็น Facilitator ไปช่วยกิจกรรมในค่ายอบรมพนักงานใหม่


บางครั้ง การไปทำกิจกรรมกับคนต่างหน่วยงาน ก็ช่วยให้เรียนรู้อะไรมากขึ้น หูตากว้างขวาง ปะติดปะต่อเรื่องราวที่เคยขาดหายไป ต่อจิ๊กซอว์ได้ด้วยตัวเอง
     ช่วงนี้ยอมรับว่าสงสัยตั้งแต่ไปดูละคร ตำนานพระราหู  ตัวเราจะโดนพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรกหรือเปล่า (เกี่ยวกันไหมเนี่ย เราไม่ใช่พระจันทร์ซะหน่อย)  มีเรื่องมาให้ปวดเศียรเวียนเกล้าได้ทุกวัน จนไม่เป็นอันจะทำอะไรที่สร้างสรรค์ เพราะมัวแต่สะสางปัญหา       

     แม้จะยุ่งขนาดไหน แต่ถ้าใครมาชวนไปช่วยสอนหนังสือ หรือเป็นพี่เลี้ยง จะไม่ปฏิเสธเลย โชคดีที่เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา เพื่อนที่ทำงานส่วนกลางชวนให้ไปช่วยงานเป็น พี่เลี้ยงในกิจกรรมช่วงสรุปของ ค่ายอบรมพนักงานใหม่ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะชื่อ SCG Run Together (แอบได้ยินน้องๆ เขาพูดกันว่า SCG Run To-Get-Her เผื่อเข้าค่ายจะได้แฟน) ไปแบบไม่รู้รายละเอียดของกิจกรรมในค่าย เพิ่งฟังเพื่อนเล่า ตอนก่อนเริ่มกิจกรรม

      ในช่วงสุดท้าย เป็นการสรุปการอบรม วิธีการที่ใช้คือให้น้องใหม่สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ ก็คือให้กลุ่มช่วยกันคุย สรุปรวบยอดสิ่งที่ได้รับรู้ เรียนรู้ รวมทั้งความรู้สึก ออกมาเป็นภาพให้ได้ ตัวเราเองไม่คุ้นกับเด็กใหม่ๆ ซึ่งผิดกับเพื่อนที่เคยเจอน้องกลุ่มนี้แล้ว และไปทำกิจกรรมให้บางช่วง ทำให้เรารู้สึกค่อนข้างฝืดในการที่จะคุยหรือหาเรื่องมาสร้างบรรยากาศ  ต้องขอบคุณเพื่อนที่ช่วยเป็น model ให้ ทำให้เราพอกล้อมแกล้มไปได้  ในช่วงเริ่มต้น     

      ตอนที่ให้น้องแบ่งกลุ่ม สังเกตดูว่า ส่วนใหญ่เขาจะได้เรื่องของความเป็นนามธรรม และความรู้สึก จะไม่ค่อยมีเรื่องของข้อมูลที่ได้รับรู้ ที่เป็นเช่นนี้ ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใด เพราะไม่ได้เห็นว่าเขาไปทำอะไรในค่ายนี้บ้าง (ต่อมาเริ่มเข้าใจ เมื่อเขาออกมานำเสนอ)  เมื่อเข้าไปช่วยในกลุ่ม ทำให้เราเห็นช่องทางชี้แนะ เพราะบางคนมาถึงเข้ากลุ่ม ก็รีบด่วนสรุปตามความคิดตัวเอง ไม่คุยกัน หรือแบ่งปันข้อมูลของตัวเองให้ครบทุกคนก่อน  ตอนสรุปบางกลุ่มก็ลืมที่จะบอกสิ่งที่รับรู้มา 4 วัน      

     จากการสังเกตพฤติกรรมน้องๆ แต่ละกลุ่มเห็นว่าเขามีความพยายามที่จะวาดรูปออกมาให้สวยงาม เสียดายไม่ได้นำกล้องไปด้วย เลยไม่มีภาพ มาอวดกัน     

      เมื่อถึงช่วงนำเสนอ เราได้ยินสองกลุ่มแรก นำเสนอจะพูดเหมือนบอกเป็นหัวข้อ ว่าไปเจออะไร ทำอะไร พอน้องคนที่สามออกมานำเสนอ เราก็บอกว่าต้องเสนอให้เป็นเหมือนการเล่าเรื่อง ให้ออกมาเป็นเหมือนเล่านิทาน เล่าหนังเป็นเรื่องเดียวกันให้ได้ น้องคนนี้เก่งมาก ตอนแรกก็อึ้งไปเสี้ยววินาทีแต่แล้วก็ปรับตัวได้ทันที สามารถเล่าสิ่งที่ไปทำให้เชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์ ทิศทางของบริษัท รวมทั้งสิ่งที่ได้ฟังจาก CEO ที่มาพบน้องๆ ในช่วงเช้าวันสุดท้าย และค่านิยมขององค์กร ฟังน้องคนนี้ก็เลยเห็นภาพรวมของกิจกรรม พอเดาได้ว่าเขาได้รับฟังข้อมูลอะไรเกี่ยวกับบริษัทไปบ้าง รวมทั้งกิจกรรมดีๆ ที่แบ่งกลุ่มกันไปทำกับข้าวเลี้ยงเด็กนักเรียนที่โรงเรียนวัด ได้ทำ
กิจกรรมเรียนร่วมกันเป็นทีมที่แสดงออกถึงความเป็นผู้นำ
 

     ....นอกจากนั้น ในค่ายนี้มีโครงการให้น้องๆ ต้องแบ่งกลุ่มคิดและนำเสนอโครงการที่ทำประโยชน์ให้สังคม โดยต้องเป็นโครงการที่สร้างสรรค์ ไม่เคยมีใครทำมาก่อน เรียกว่า ยิงปืนนัดเดียว ได้นกถึง 3 ตัว ตัวแรกคือ ฝึกให้น้องมีความคิดสร้างสรรค์ ตัวที่สองคือ ฝึกการเป็นผู้ให้ซึ่งช่วยเรื่องการทำประโยชน์ให้สังคม ตัวที่สาม คือ ฝึกน้องให้ทำโครงการร่วมกันสร้างความสัมพันธ์ภายในทีม....

 จากการไปช่วยกิจกรรมเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทำให้เราได้รับอะไรหลายอย่าง
  • ได้ยินน้องๆ ชื่นชมบริษัท ทำให้เราก็มีความภาคภูมิใจที่ได้ทำงานที่นี่ เหมือนน้องช่วยเติมไฟให้เรา ตอนที่พี่ท่านหนึ่งมากล่าวปิดก็พูดแบบนี้เหมือนกัน เหมือนพี่ช่วยน้อง น้องก็ช่วยพี่
  • ได้รู้ว่า โครงการพัฒนาพนักงานใหม่ มีการปรับรูปแบบไปจากเดิมมาก แต่ก่อนมักมีแค่ เชิญคนมาบรรยายอัดข้อมูลจำนวนมาก แล้วก็ไปดูโรงงาน
  • เข้าใจแล้วว่า การจัดโปรแกรมการปฐมนิเทศที่ดี สัมพันธ์อย่างไรกับการผูกใจพนักงานใหม่ รวมถึงช่วยส่งเสริมการสร้าง brand ให้กับบริษัทได้ด้วย ตอนนี้น้องๆ เขาก็ say กันแล้ว ว่าเขารักและจะทำงานเพื่อบริษัท (ส่วนที่เหลือขึ้นกับหน่วยงานที่ไปอยู่ จะรักษาความรู้สึกดีๆ ให้คงเอาไว้ได้อย่างไร) 

<<<เมื่อกลับมาประชุมเรื่องโครงการของทีมที่กำลังทำในกิจกรรม idea time ทำให้เรามีเรื่องมาแบ่งปันในช่วง team learning ที่กำลังถกเถียง เกี่ยวกับความเชื่อมโยงของ employee engagement กับ branding ไม่รู้ว่าสัมพันธ์กันอย่างไร หลังจากอธิบายไปก็น่าจะทำให้ภาพในความเลือนราง ชัดเจนขึ้นมาบ้าง>>>

คำสำคัญ (Tags): #ปฐมนิเทศ#csr#branding
หมายเลขบันทึก: 118883เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2007 15:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน 2012 11:34 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
  • เกือบมีโอกาสไปช่วยเหมือนกัน แต่ติด Project Base ที่อัมพวา
  • ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าไม่พลาดครับ
  • ต้องขอขอบคุณอาจารย์วรภัทธ์ ที่เป็นผู้สั่งสอนวิชาการ หลักการต่างๆ และพี่ๆ ทุกคนที่ให้โอกาสเราปลูกฝังสิ่งดีดี ในชีวิตครับ
  • ในส่วนของบุคคลภายนอกเช่นชาวอัมพวา ในส่วนของ Brand ทุกคนให้ความชื่นชม ซึ่งเมื่อพวกเราได้ยินแล้วทำให้พวกเราต้องมีความพยายามสร้างสิ่งดีดี ให้กับสังคมนี้มากยิ่งขึ้นครับ

ผมว่าเรื่องนี้ เป็นเสน่ห์ของAction learning (เรียนรู้เชิงประจักษ์) มันทำแล้วได้ใจ เข้าถึงใจจริงๆ ผมยังศรัทธา 3 เสาหลักของการเรียนรู้อยู่นะครับ

  • จงสร้างพลังศรัทธา
  • เข้าใจตนเองให้ถ่องแท้
  • ยอมรับในความซับซ้อน

จงหาเครื่องมือหรือมุขในการสร้างให้เกิดขึ้นให้จงได้ แล้วแต่ความเหมาะสม

สิ่งที่สำคัญ พลังของ Team ก็สามารถสร้าง Team learning ได้ในระดับหนึ่ง แต่หากมี Facilitator ช่วยสร้างพลัง ช่วยยั่ว ช่วยดึง (สำหรับมือใหม่หัดขับ) ผมว่าจะช่วยเสริมแรงการพัฒนาได้มากยิ่งขึ้นนะครับ

P
Hello กวง 
  • ในเครือข่ายส่วนกลาง น่าจะมีเวทีให้ฝึกเยอะ ต้องคอยติดตามเกาะแข้ง เกาะขาพี่ปู (มี 8 ขา 2 ก้าม) วันก่อนพอจบกิจกรรม จนท.ของ ศูนย์อบรมฯ กับ ผจก.ศูนย์ บอกว่าครั้งหน้าให้มาช่วยอีกนะ  เราก็บอกว่าครั้งนี้มาด้วยความบังเอิญ เขาก็ทำหน้างงๆๆๆ
 
  • สำหรับเรื่องภาพลักษณ์บริษัท จากช่วงเช้าวันศุกร์ที่ไปนั่งฟัง IF3 แบ่งปันความรู้สึก กับสิ่งที่ไปรับรู้ ทำให้พี่มีข้อมูลไปเล่าให้ทีม idea time ฟัง เพราะเรากำลังทำโครงการที่พันตูกันหลายเรื่อง พยายามแกะปมกันอยู่   จากอัมพวา สิ่งที่เรามีให้ชาวบ้าน และชาวบ้านมีให้เรา และคนในองค์กรเราควรเลียนแบบชาวบ้านคือเรื่อง humane พี่กำลังพยายามฝึกตัวเองให้เป็นแบบนั้นผ่านงานที่เรารับผิดชอบ
 
  • มีโอกาสเราคงได้ร่วมลงเวทีด้วยกันอีกนะ  

สวัสดีค่ะพี่ส้ม

ชื่อค่ายน่ารักจัง  อิอิ SCG Run To-Get-Her

P
นาย ทวีสิน ฉัตรเฉลิมวิทย์
สวัสดีค่ะ ก๊อบเมื่อก่อนเห็นนั่งยิ้มดีๆ เดี๋ยวนี้เหนื่อยหมดแรงแล้วเลยนอน ตอนแรกเข้า planet จำรูปเก่าไว้ เลยหาตั้งนานกว่าจะเจอ เรื่องของ team learning พี่เห็นประโยชน์มาก และจะดีมากๆ ถ้าทุกคนในทีมช่วยกันแบ่งปัน มากกว่ามารับฝ่ายเดียว  พีว่าการฝึกเป็น Fa ใช้ประโยชน์ได้ทั้งแบบทางการ และไม่ทางการ ถ้าเราฝึกกับคนใกล้ตัวได้ ในแง่ของการอดทน ตั้งใจฟัง หรือใช้ silent mode แบบหนังเรื่อง Good Will Hunting ก็น่าจะช่วยพัฒนาตัวเราได้เยอะทีเดียว  เคยลองทำตัวเองให้เป็น Fa แบบตลก แต่คนในที่ทำงานไม่คุ้น หาว่าเราเป็นอะไรไป ผิดปกติ คงต้องลองดูบรรยากาศกับตัวเราให้เหมาะเจาะ ในแบบของเราเอง
P
สวัสดีค่ะ น้องหนิงไม่ได้เจอกันเสียนาน  ชอบไหมคะ ชื่อนี้ แต่ผู้หญิงจะเสียเปรียบ เพราะไม่มี run togethim อิอิ

พี่ส้มครับ

หากดูหนังเรื่อง Tarzan2 แล้ว จะเห็นว่า Tarzan ก็คือ Tarzan ไม่ต้องเลียนแบบ แต่มีอยู่อย่างหนึ่งครับ ใจที่อยากจะให้ในสภาวะปลอดภัย ไม่สนใจว่าจะได้อะไร มันช่วยได้จริงๆครับ

ผลงานคือเหตุแห่งความสุข แต่ตัวการกระทำคือความสุข ถ้าการกระทำนั้นถูกต้องผลที่ออกมาย่อมถูกต้องดีงาม จงทำงานเพื่องานที่ทำ มิใช่มัวคอยหวังว่าจะได้อะไร ซึ้งในคำสอนของหลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ

ขอบคุณค่ะ ก๊อบ

ที่ให้ข้อคิดดีๆ ช่วยเตือนสติ เตือนใจ จะจดจำไว้นะครับ

http://gotoknow.org/file/citrus/%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%B0.gif

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท