หน้าแรก
สมาชิก
วิกูล
สมุด
วิกูล โพธิ์นาง
โมฆะวาจา
วิกูล
นาย วิกูล วิกูล โพธิ์นาง
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
โมฆะวาจา
ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์ มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา ทุกคนพึงตระหนักให้มั่น "โดยเฉพาะผู้เป็นหัวหน้าฯ"
โมฆะวาจา
วิกูล
โพธิ์นาง
๒๓
มิถุนายน
๒๕๕๐
[email protected]
ทันที
ที่เสียงสัญญาณพักเที่ยงดังขึ้นทุกคนพละจากงานที่ทำมาทั้งสี่ชั่วโมงบ้างไปรับประทานอาหารบ้างก็เข้าไปทำธุระที่ห้องสุขา เชนกับจุกเลือกที่จะไปที่ห้องสุขาก่อน
“
แม้วันนี้หัวหน้าให้พรแต่เช้าเลยเซ็ง
เซ็งมากๆ
”
เชนรำพึงออกมาขณะปลดปล่อยทุกข์ส่วนตัวด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
“
พรก็ดีซิ
”
จุกเย้าในใจก็คิดว่าพรที่ว่าต้องเป็นคำด่าแน่ๆ และเชนคงต้องไปทำผิดมาอีกเป็นแน่
ละก็เป็นอย่างที่คิดเมื่อได้ยินคำตอบจากเชนด้วยน้ำเสียงกระชับปนมากับความขัดข้องใจ
“
ก็เมื่อวานขาดงานนะซิ
”
“
เออสมควรแล้ว โทรมาลาพี่เขาหรือเปล่าละ
”
จุกซักต่อ
“
เปล่า
”
นี้คือคำตอบสั้นๆเข้าใจง่ายๆ จุกคิดในใจ โถ...ช่างตอบอย่างภูมิใจเหลือเกินนะ แต่ไม่ได้พูดอะไร ทำธุระของตนเองไปพร้อมกับฟังเชนสาธยายต่อ
“
จะโทรมาลาได้อย่างไร เมื่อวานตอนรอรถอยู่พระท่านมาบิณฑบาตโดนมอร์เตอร์ไซค์รับจ้างเชี่ยวล้มบาดเจ็บสาหัส จนบาตรกลิ้งรถสิบล้อทับแบนเลย เราพาไปโรงพยาบาล
กว่าโยมท่านจะมาเราก็เฝ้าอยู่จนเย็นสงสารท่านนะ
”
จุก นึกอนุโมทนาสาธุในใจ มาถึงขณะนี้หน้าของเชนเริ่มมีแววแห่งความปีติยินดี ผิดกับที่เข้าห้องน้ำมาใหม่ๆ จุกทำธุระเสร็จรู้สึกโล่งกายโล่งใจที่ทนมาเกือบครึ่งวันสมกับที่เป็น
“
ห้องสุขา
”
จริงๆ หันไปมองหน้าเชนก็ยังเห็นรัศมีแห่งความปีติอยู่เต็มใบหน้าไม่เหือดหาย
“
เช้ามาก็น่าจะไปลาพี่เขาก่อนนะ
”
จุกแนะนำย้อนหลัง
“
ลานะลาแล้วแต่ก่อนจะได้พูดอะไรพี่แกให้พรซะก่อน แถมให้เป็นชุดๆต่อหน้าธารกำนัลเลยนะเพื่อนแย่จริงๆ
”
เมื่อออกจากห้องสุขาแล้ว ทั้งสองสนทนากันต่อไปเรื่อยจนถึงโรงอาหาร
คำให้พรที่ว่านั้นเป็นอย่างไรไม่ทราบแต่ก็คงเป็นคำพูดที่ไม่ดี เชนถึงได้มีอารมณ์มาระบายในห้องน้ำ บัดนี้ก็ได้ระบายไปแล้ว
ทั้งยังได้ความอิ่มใจแห่งบุญมาเป็นกำไรชีวิต
จุกรู้ว่าเชนไปทำอะไรมาหัวหน้าจะรู้หรือเปล่ายังไม่มีคำตอบ
ทั้งเชนและจุกได้รับรู้ความเป็นจริงกันในห้องสุขารู้กันสองคนและอิ่มใจกันทั้งสองคนห้องสุขาแคบๆนั้นช่างสมชื่อเสียจริงๆ
“
ห้องสุขา
”
ที่ให้ได้ทั้งความสุขกายและสุขใจ
แต่ทำไมนะในที่ทำงานกว้างๆและผู้เป็นหัวหน้าก็มีปัญญาระดับหนึ่งจึงไม่รู้ความเป็นจริงของมวลสมาชิกในที่ทำงานเดียวกัน
แทนที่จะมีความสุขดังกล่าวบางแห่งกลับคละคลุ้งไปด้วยทุกข์แห่งความขัดข้อง ขัดแย้งในใจ อันเป็นผลมาจาก
“
คำด่า
”
“
พร
”
แปลว่า ประเสริฐ สิ่งที่หัวหน้าให้กับเชนเมื่อเช้านี้ไม่ถือว่าเป็นพร
เพราะไม่ได้นำมาซึ่งความเจริญกับลูกน้องเลยแม้แต่น้อย ความเจริญที่เชนได้คือได้ทำความดีพาพระคุณเจ้าไปโรงพยาบาล จุกก็ได้พรคือความเจริญในใจที่ใจได้อนุโมทนาสาธุให้กับเพื่อนที่ทำความดี
“
หัวหน้า
”
ได้ร่ำเรียนมาสรรพวิชามีทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ มีสิ่งดีๆในตัวตนของผู้เป็นหัวหน้ามากมายทำไมไม่นำสิ่งนั้นมาแบ่งปันเติมเต็มให้ลูกน้องแทนคำด่า
“
ด่า
”
คำด่านั้นไม่ได้ร่ำเรียนมาไม่มีสถาบันใดในประเทศหรือต่างประเทศที่เปิดสอนที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะคำด่าเป็น
“
โมฆะวาจา
”
หรือวาจา คำพูดที่หาประโยชน์แก่นสารอะไรไม่ได้เลย
หากพูดบ่อยๆจนเป็นนิสัย ท่านจะกลายเป็น
“
โมฆะบุรุษ
”
โดยไม่รู้ตัว
เหตุไฉนหัวหน้าบางคนจึงมีความสามารถถ่ายถอดคำด่า
วาจาอันเป็นโทษนั้นให้กับผู้อื่นโดยเฉพาะลูกน้องที่ด้อยยศด้อยวัยกว่าให้ช้ำอกช้ำใจ หดหู่ เก็บกด แทบจะเป็นประสาท บางรายฆ่าตัวตายจากสาเหตุวาจาอันเป็นโทษของหัวหน้าตนเองก็มี
หากยิ่งด่ามากก็เท่ากับนำเชื้อโรคไปบ่มเพาะในใจให้กับลูกน้อง ให้กับคนรอบข้างและตัวท่านเอง ปากที่พูดกับหูของท่านนั้นใกล้กันมากขณะที่ด่าออกไป ทำให้เกิดสนิมในใจด้วยว่าเมื่อท่านจะด่าต้องมีมูลเหตุมาจากความโกรธ
“
ความโกรธเป็นดังสนิมในใจ
”
สนิมนั้นก็เกิดกับผู้ได้ยินคำด่าของหัวหน้านั้นเช่นกัน
เรามาแปลงด่าเป็นทุนปัญญาดีกว่าไหม
เมื่อไรคิดจะด่าก็ให้พิจารณาดังนี้
ด่าใคร
ด่าด้วยเรื่องอะไร
ด่าทำไม
ทำไมต้องด่า
ไม่ด่าได้ไหม
ถ้าไม่ด่าจะทำอย่างไร
ถ้าไม่ด่าก็เปลี่ยนคำด่าเป็น
“
พร
”
คือสิ่งประเสริฐที่ออกมาจากปากของเรา เปลี่ยนสิ่งที่จะด่าเป็นความรู้ คำสอน คำเตือน ประกอบด้วยใจรักและเมตตา หากเป็นเช่นนี้ก็จะเป็นหัวหน้าที่เป็นพรหม เพราะได้ประกอบธรรมของพรหมคือ
“
เมตตตา
”
ลูกน้องจะรักและบูชาหัวหน้าจากใจจริงและมีมิตรเพิ่มขึ้นอย่างมากทีเดียวสุนทรภู่ท่านยังสอนไว้ว่า
“
ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์
มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร
จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจาฯ
”
ขอเป็นกำลังใจให้กับหัวหน้าทุกคนที่จะเปลี่ยนคำด่ามาเป็นมธุรสวาจา คำให้พร คำสอนโดยกุศโลบายที่แยบยลเชื่อมั่นว่าในหน่วยงานจะมีแต่ความรักสดชื่น ส่วนลูกน้องก็ต้องทำตัวให้รู้จักหน้าที่ของตนเอง หากไม่ละก็ หัวหน้าก็อย่าลืมคติ
นี้
“
รักวัวให้ผูกรักลูกน้องให้ตี
”
แต่ต้องตีด้วยสติและปัญญาอย่างอารยะชน
เขียนใน
GotoKnow
โดย
วิกูล
ใน
วิกูล โพธิ์นาง
คำสำคัญ (Tags):
#ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์
#โมฆะวาจา
#หัวหน้า
#พร
#เมตตา
หมายเลขบันทึก: 118861
เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2007 13:26 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 12:24 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
วิกูล
สมุด
วิกูล โพธิ์นาง
โมฆะวาจา
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท