ผู้เขียนนึกย้อนหลังสมัยเด็ก ๆ ตอนเรียนการบวก ลบ คูณ หาร ที่มีการทดและการยืม จำได้ว่า มุ่งแต่คำนวณให้ได้คำตอบเร็วที่สุดเพื่อส่งให้ครูตรวจแล้วคอยลุ้นว่าถูกหรือผิด ก็ไม่คิดอะไรมาก มาคิดตอนนี้ว่า โจทย์บางข้อ เช่น "แม่ให้เงิน 125 บาท ซื้อหนังสือ 57 บาท อยากทราบว่าเหลือเงินกี่บาท" ซึ่งเวลาตั้งลบกัน ตัวตั้งหลักหน่วยมีไม่พอต้องไปยืมหลักสิบ และในการลบหลักสิบที่อยู่ถัดไป ถ้ามีไม่พอก็จะยืมหลักร้อย เช่นนี้ไปเรื่อย ๆ...เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี จนบัดนี้ ก็ไม่ได้ข่าวเลยว่า หลักต่าง ๆ ที่ยืมกันนั้น มีการใช้คืนกันหรือยัง เป็นเพราะเราลืมเน้นเรื่องคุณธรรมการกู้ยืมกันหรือเปล่า จึงทำให้คนสมัยนี้ชักดาบกันมากขึ้น ! ฝ่ายให้ยืมก็ค้ากำไรเกินควร !
การทดก็เช่นกัน ในการคูณและการบวก เมื่อแต่ละหลักเกิน 9 จะต้องมีการทดไปให้หลักอื่นที่อยู่ถัดไป... ผู้เขียนก็นึกไม่ออกคำว่า "ทด" จะเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันอย่างไร จะมองว่าเมื่อเหลือใช้ก็ควรจะเอื้อเฟื้อให้ผู้อื่นก็ผิดธรรมชาติไป เพราะหลักหน่วยทดให้หลักสิบ ๆ ทดให้หลักร้อย...เสมือนคนจนกว่าเอื้อเฟื้อคนรวยกว่า.
แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าจะใช้คำพูดใดมาใช้กับสถานการณ์ข้างต้นให้ดูดี มีคุณธรรม และ มีความพอเพียง??
คณิตศาสตร์ประเทศอื่นเขาใช้คำว่า "ยืม" กับ"ทด" แบบบ้านเราหรือเปล่า ??
ดังนั้น...
ท่านผู้อ่านคิดออก ลอง ๆ ช่วยกันเสนอ คงจะเจอที่ถูกใจเข้าสักคำ...
ขอแสดงความเห็นที่ว่าจะเห็นได้อย่างไรว่าคนที่ยืมไปแล้วมีคุณธรรม ก็อยู่ที่ผู้ยืมนั้นแหละอาจจะใช้วาทะที่แสดงให้เห็นความเป็นผู้มีคุณธรรมว่าขอยืมก่อนนะแล้วจะไม่ลืมพระคุณเลย ทำนองบุญคุณต้องทดแทนไงละ.....ดีไหม
เป็นธรรมชาติของมนุษย์เรา แค่สอนเด็กว่ายืมแล้วต้องคืนก็พอ ไม่เช่นนั้นกรรมจะทดไปชาติหน้านะจ๊
ขอออกความเห็นว่า
"การสอนคณิตศาสตร์เน้นคุณธรรม" ว่าคุณธรรมนั้นเกี่ยวกับการจูงใจให้นักเรียนเรียนคณิตศาสตร์อย่างมีความสุขและมีเจตคติต่อการเรียนคณิตศาสตร์เป็นสิ่งเริ่มต้นและมีความพึงพอใจในกิจกรรมการเรียนรู้จึงจะเข้าใจให้รักคณิตศาสตร์ครูเป็นผู้นำและให้นักเรียนเป็นผู้ทำกิจกรรมเน้นคุณธรรมเริ่มตั้งแต่ ป. 1ได้เลยค่ะ