แนะตั้งหน่วยฉุกเฉินดูแลการเงิน นศ.

รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ รมช.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์กรณีการจ่ายเงินกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ล่าช้าว่า รู้สึกหนักใจมาก และในฐานะที่กระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ใช้บริการ ก็เร่งรัด กยศ. มาโดยตลอด แต่ก็เห็นใจเพราะเพิ่งได้ผู้จัดการ กยศ.คนใหม่   อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ พบว่า กลุ่มนักศึกษาที่กู้ กยศ. แบ่งเป็น 1. กลุ่มนักศึกษาผู้กู้ กยศ. รายใหม่   2.นักศึกษาที่เคยกู้กองทุน เงินกู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) เดิม  และเข้าเกณฑ์ กยศ. คือ มีรายได้ครอบครัวปีละไม่เกิน 150,000 บาท 180,000 คน ซึ่งต้องทำสัญญาใหม่เพิ่มเติม   และ 3. กลุ่มผู้กู้ กรอ. เดิมแต่ไม่เข้าเกณฑ์ กยศ. ประมาณ 150,000 คน ซึ่งต้องทำสัญญาใหม่ แต่สัญญาอยู่ในระหว่างการพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุด  ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มดังกล่าวพบว่า ยังไม่มีสถาบันการศึกษาใด ๆ ได้รับเงินค่าเล่าเรียนจาก กยศ. แม้แต่สถาบันเดียว และโดยส่วนตัวแล้วก็ไม่เห็นด้วยกับเกณฑ์รายได้ครอบครัวขั้นต่ำของ กยศ. ควรดูจำนวนลูกและภาระหนี้สินของครอบครัวด้วย รมช.ศึกษาธิการกล่าวต่อว่า สิ่งที่มหาวิทยาลัยทุกแห่งควรทำคือ ผ่อนผันเรื่องค่าเล่าเรียนซึ่งเป็นเงินที่มหาวิทยาลัยจะได้รับจาก กยศ. โดยตรงอยู่แล้ว แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ค่าใช้จ่ายการศึกษาต่อเนื่อง เช่น ค่าหนังสือ ค่าปฏิบัติการ และค่าใช้จ่ายส่วนตัวของนักศึกษา มหาวิทยาลัยควรเข้ามาดูแล โดยอาจให้นักศึกษากู้เงินจากเงินรายได้ของมหาวิทยาลัยก่อน เมื่อได้เงินจาก กยศ. แล้วค่อยใช้คืน แต่ไม่ต้องกลัวว่านักศึกษาจะเบี้ยว เพราะหากนักศึกษาไม่คืนเงิน มหาวิทยาลัยก็มีสิทธิไม่ออกทรานสคริปหรือปริญญาบัตรได้ ส่วนกรณีนักศึกษา มรภ. และเอกชนบางแห่งต้องหยุดเรียนกลางคันเพราะถูกมหาวิทยาลัยทวงเงินค่าเล่าเรียนนั้น ต้องขอตรวจสอบก่อน    แต่คิดว่าในสถานการณ์ปัจจุบันมหาวิทยาลัยทุกแห่งแข่งขันกันสูง ก็ต้องพยายามดึงเด็กไว้  อย่างไรก็ตาม หากนักศึกษาคนใดต้องออกจากมหาวิทยาลัยเพราะถูกทวงค่าเล่าเรียน ขอให้ส่งจดหมายมาถึงตนโดยตรง ตนจะจัดการให้ นอกจากนี้อยากให้มหาวิทยาลัยทุกแห่งจัดหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินในมหาวิทยาลัย ทำงานเชิงรุก ดูแลเรื่องเงินกู้และค่าครองชีพ หากพบนักศึกษาเดือดร้อนก็รีบเข้าไปช่วย อย่ารอสัญญาจากสำนักงานอัยการสูงสุดอย่างเดียว

ไทยรัฐ  10  ส.ค.  50