วันชาติสิงคโปร์


ผมรู้สึกตื้นตันแทนพวกเขาเหล่านั้นจริงๆครับ

วันที่ 9 สิงหาคม 2550

เสียงดังตู้มใหญ่ ปลุกผมให้ตื่นยามเช้านี้ ผมนอนนิ่งอยู่กับที่ไม่กล้าขยับเพราะอารามตกใจเสียงดังที่ว่านี้ นึกว่าเราอยู่ที่หาดใหญ่หรือไร แล้วนี่เป็นระเบิดที่ตรงไหน ทำไมเสียงมันจึงใกล้นัก แต่เราอยู่สิงคโปร์นี่นา ประเทศที่ได้ชื่อว่าปลอดภัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แล้วจะมีระเบิดได้อย่างไร ไม่นานไปกว่าชั่วอึดใจหนึ่ง ผมก็ได้ยินเสียงลมกรีดผ่านซอกตึกดังหวิวๆ ลมข้างนอกพัดแรง เสียงกาที่เคยร้องเป็นประจำในช่วง 6 โมงเช้า ก็เงียบกริบ นี่มันเกิดอะไรขึ้นนี่

                ผมซุกตัวอยู่ภายใต้ผ้าแพรผืนแดงที่หอบมาจากเมืองไทย ยังไม่อยากลุกขึ้นเลยเพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุด วันนี้เป็นวันชาติสิงคโปร์ วันนี้เป็นวันฉลองวันเกิดครบ 42 ปีของประเทศสิงคโปร์ วันนี้เป็นวันหยุด วันหยุดที่ผมนัดกับเพื่อน registra และ MO ว่าจะไปช่วยกัน round

                มาเข้าใจว่าเสียงดังตู้มใหญ่ที่ได้ยินเมื่อครู่ ว่าเป็นเสียงฟ้าร้องก็เมื่อฝนตกลงมาอย่างหนัก ผมตัดสินใจลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว แล้วฝ่าสายฝนออกไปโรงพยาบาล ดีที่ภรรยาเตรียมร่มใส่กระเป๋ามาให้ไว้ด้วยผมจึงไม่ต้องหัวเปียกในเช้าวันนี้

                วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีของสัปดาห์ที่ 14 และเหลืออีก 97 วันก็จะเรียนจบแล้ว ผมทราบมาว่าเมื่อก่อน โรงพยาบาลที่ผมทำงานอยู่ เขาทำงานกันสัปดาห์ละ 6 วัน นั่นก็คือจันทร์ถึงเสาร์ เพิ่งมาหยุดวันเสาร์ก็เมื่อไม่นานมานี้ ราวๆ 2 ปีนี่เอง เขาทำงานกันจริงจัง วันนี้คงเป็นวันหยุดราชการวันสุดท้ายของปีนี้ที่ผมจะได้หยุดร่วมกับเขา ต่างจากบ้านเราที่มีวันหยุดมากมายเหลือเกิน และยังหยุดเผื่อมาวันจันทร์ด้วยทุกทีที่วันหยุดนั้นเกิดตรงกับวันเสาร์หรืออาทิตย์ ทราบมาว่าสัปดาห์หน้า วันที่เขาให้ร่วมลงประชามติก็หยุดชดเชยวันจันทร์อีก สงสารคนไข้ที่นัดล่วงหน้าไว้แล้วครับ ที่บ้านเรากว้างใหญ่กว่าสิงคโปร์มาก คนไข้หลายคนเดินทางมาจากต่างจังหวัด บ้างก็ต้องนั่งรถโดยสารมาทั้งคืน บางคนไม่สามารถติดต่อยกเลิกนัดทางโทรศัพท์ได้ แล้วยังไงครับ อีกทั้งคนไข้ที่นัดผ่าตัดล่วงหน้าไว้นานแล้ว จะต้องเลื่อนไปอีกไกลเท่าไหร่ เพราะจากนี้ไปก็มีคนอื่นลงคิวจองผ่าตัดไว้ล่วงหน้าไปแล้วเป็นเดือน เฮ้อ นี่แหละบ้านผมครับ

                วันนี้เป็นวันชาติสิงคโปร์ ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมจึงมีอายุแค่ 42 ปี คาดว่าน่าจะเป็นเพราะวันที่เขาแยกตัวเป็นเอกราชจากประเทศมาเลเซียกระมัง อันนี้ไม่ทราบจริงๆครับ

                ผมมีโปรแกรมเที่ยววันนี้ครับ เพราะว่าแถวๆ Marina Bay เขามีเวทีกลางน้ำและอัฒจรรย์เพื่อชมการรแสดงกัน ก็บริเวณตึกทุเรียนและสิงเตื๊อกนั่นแหละ หลังจากกลับจาก round ก็มานอนเล่นที่ห้อง ดูทีวีไปจนหลับ ไม่นานเท้งก็โทรมาหา บอกว่าไปกินข้าวเที่ยงกันที่ Golden Mile หรือ Little Thai ของผม

                เลยคว้าหมวกและกล้องถ่ายรูปออกไปด้วย เดินออกไปทางตลาดขายของมือสองที่อีกฟากถนนหนึ่ง ข้ามถนน Victory และได้พบกับมัสยิดสุลต่าน (Sultan Mosque) ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศนี้ (ที่ผมเห็น) ชักภาพของมัสยิดแห่งนี้ และร้านรวงสไตล์อาหรับที่แสนสวยและสะอาดน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ต่างไปจากเมื่อครั้งแรกที่ได้มาเยือนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

                ผมเดินมาอีกไม่นานก็ถึงที่หมาย พบคนไทยจากแดนที่ราบสูงมารวมกันเต็มไปหมด หลายคนจับกลุ่มกันนั่งดื่มเบียร์กันอย่างสนุกสนาน แม้ว่าตรงนั้นจะเป็นทางเดินก็ตาม พาลให้นึกไปถึง Little India ที่ผมเดินผ่านอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ผมกินข้าวที่ Golden Mile นี่เองครับ วันนี้กินซุปหน่อไม้ ส้มตำ หมูย่างและข้าวเหนียว แต่ครั้นเมื่ออิ่มท้องหนักพุงก็พากันง่วง ผม เท้ง และพี่โต้งจึงตัดสินใจไปพักผ่อนกันที่ห้องของเท้งที่ Chinatown ครับ

                ห้องของเท้งติดแอร์เย็นฉ่ำ เราเลยไม่สามารถออกไปไหนได้อีก ดูทีวีและคุยกันจนถึง 6 โมง ตัดสินใจไม่เดินออกไปเที่ยวตามที่คิดไว้ เพราะว่าเราเห็นว่ามีการแสดงบนเวทีกลางน้ำเท่านั้น และหากจะนั่งดูบนอัฒจรรย์ก็ต้องจ่ายเงินอีก และอย่าหวังว่าจะมีที่นั่งตอนนี้ หรือไปดูบนสะพาน ก็ไม่สามารถเห็นบนเวทีได้เลย จึงดูการถ่ายทอดสดทางทีวีตามที่ครูหาญแนะนำดีกว่า

                งานเริ่มจากเหล่าบรรดาคนใหญ่คนโตเดินทางมาถึง ท่านลี กวน ยู ก็มาร่วมงานด้วย อดีตนายกรัฐมนตรีที่ผมจำชื่อไม่ได้ก็มา ตบท้ายด้วนนายกคนปัจจุบันก็มา ไม่นานนักประธานาธิบดีก็เดินทางมาถึง ท่านเป็นคนเชื้อสายออกไปทางอินเดียหรือมาเลย์ก็ออกจะยากที่จะเดา เมื่อท่านมาถึง เฮลิคอปเตอร์แบบสองใบพัดก็บินมาพร้อมธงชาติอยู่ด้านล่าง ถึงตอนนี้ทุกคนยืนขึ้นแล้วร้องเพลงชาติ เพลงชาติสิงคโปร์เป็นภาษามาเลย์ครับ

                เมื่อจบเพลงชาติ ก็มีเครื่องบินไอพ่น 5 ลำบินโฉบมาพร้อมพ่นควัน ถึงตอนนี้ผมสามารถนั่งดูอยู่ที่บ้านได้ด้วย หลังจากนั้นท่านประธานาธิบดีก็ตรวจแถวทหารที่ยืนอยู่บนเวทีนั้นนั่นเอง ตามด้วยการเดินสวนสนามบนเวที แล้วเคลื่อนตัวออกไป มีการแสดงแสนยานุภาพของกองทัพโดยการให้ทหารถือปืนมาวิ่งขึ้นลงบนอัฒจรรย์ มีรถถัง 2-3 คันวิ่งมาให้ดู มีรถดับเพลิงมาแสดงการฉีดน้ำ เฮลิคอปเตอร์มาปล่อยนาวิกโยธินลงน้ำ มีเรือมาเก็บ แสดงเรือตำรวจน้ำ ไม่นานก็จบ จากนั้นจึงมีการแสดงแสงสีเสียงบนเวที ผมกับสมาคมนักเรียนไทย (อันมีพี่โต้งเป็นประธาน เท้งเป็นรอง และผมเป็นเลขา) นั่งสรุปตรงกันว่า เหมือนดูพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์เลยครับ

                ที่ผมประทับใจที่สุดเห็นจะเป็นช่วงสุดท้าย ที่มีการร้องเพลงประสานเสียงบนเวที ที่สามารถทำได้อย่างดี มีน้ำพุแสดงเป็นฉากหลังและยิงพลุเป็นระยะๆ จนกระทั่งร้องเพลงชาติพร้อมกันอีกที ตอนนี้ผมถึงกับขนลุก และต่อด้วยการกล่าวคำปฏิญาณตน ที่ทุกคนในงานเปล่งออกมาพร้อมกัน เนื้อหานั้นเน้นความรักสามัคคีและการสร้างชาติให้เจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน ผมรู้สึกตื้นตันไปด้วยครับ และเมื่อท่านประธานาธิบดีจะกลับ ท่านได้เดินลงไปจับมือกับนักแสดงต่างๆบนเวที ผมรู้สึกตื้นตันแทนพวกเขาเหล่านั้นจริงๆครับ

                มีคนบอกว่า น่าจะจัดการแสดงที่สนามกีฬา ซึ่งใหญ่กว่าที่นี่มากนัก ผมเห็นด้วยครับ แต่ที่นี่ก็มีสิ่งที่สนามกีฬาไม่มี นั่นก็คือบรรยากาศริมน้ำที่สามารถดูเรือ ดูการแสดงทางน้ำได้ นานาจิตตังครับ

                เลิกการแสดงราว 2 ทุ่มครึ่ง พวกเราก็ออกจากห้องเพื่อหาของกิน ผมเลือกกินข้าวต้มขากบที่หมายตาเอาไว้นานแล้วที่ร้าน Tiong Shion ได้กินสมใจเมื่อล่วงเข้าเดือนที่ 4 นี้แล้ว อร่อยสมใจ ได้กินสมใจ สมใจในวันชาติสิงคโปร์ครับ
หมายเลขบันทึก: 118461เขียนเมื่อ 9 สิงหาคม 2007 23:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มิถุนายน 2012 19:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
P
sasinanda 
 แล้วขากบจะมีเนื้อเหรอคะ!!!!????

คุณ P ครับ

ขากบมีเนื้อครับ อร่อยด้วย

ยิ่งถ้าเป็นบ้านผมที่หาดใหญ่ ร้านอาหารจะมีเมนูกบภูเขา (เลี้ยงเป็นฟาร์มครับ) บางทีกินไปก็งงงงว่ากินไก่หรือกบ เพราะตัวมันใหญ่ครับ

 

18 ก.ค.52 วันนั้นเป็นซ้อมใหญ่ของวันชาติสิงคโปร์ ตั้งใจจะไปดูพลุริมแม่น้ำสิงคโปร์

รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันที่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ยิงจากเรือ และมีเฮลิคอปเตอร์น่าจะมากกว่าสองลำโชว์ธงชาติสิงคโปร์ เพราะยังงงๆ ว่าเราอยู่ที่ไหนนี่ ปกติเป็นคนไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบข้างเท่าไหร่ มีเทศกาลอะไรก็ไม่ค่อยจะสนใจ แต่ครั้งนี้ตื่นตาตื่นใจมากโดยเฉพาะพลุเหมือนฝนดาวตกมากๆเลย พลุรูปหัวใจ พอดีนั่งทานข้าวที่ร้านอาหาร Palm Beach ริมแม่น้ำสิงคโปร์เห็นได้ชัด นี่ขนาดวันซ้อมใหญ่ยังขนาดนี้ ถ้าวันจริงจะรู้สึกภูมิใจกับประเทศเขาแค่ไหน อยากให้ประเทศไทยเป็นอย่างนี้บ้าง มัวแต่ทะเลาะกัน มาร่วมกันดูแลประเทศเราดีกว่า

ยินดีที่ได้มีโอกาสได้เห็นนะครับ

อยากกลับมาเที่ยวที่นี่จังเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท