เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ การพยาบาลผู้ป่วย นอกจากจะพยาบาลด้านร่างกายแล้ว การพยาบาลด้านจิตใจก็สำคัญไม่แพ้กันเลยค่ะ เพราะผู้ป่วยถ้ากำลังใจดี เขาก็จะมีกำลังสู้กับความเจ็บปวดที่เขาเป็นอยู่ได้ และพร้อมที่จะรับมือกับมัน
ตัวอย่างที่คุณอุบลนำมาให้อ่านนี้ มีประโยชน์มากเลยค่ะ ไม่เฉพาะกับผู้ที่ทำอาชีพพยาบาลเท่านั้นนะค่ะ แต่มีประโยชน์สำหรับทุกคนที่เป็นผู้ดูแลและให้กำลังใจคนที่กำลังป่วยอยู่ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณพัชชา
ขอบคุณค่ะ
ที่การเขียนเรื่องนี้ทำให้เป็นความรู้ให้เก็บเกี่ยวได้
สวัสดีค่ะคุณ Chabu
การเล่าเรื่องนี้ทำให้เป็นความรู้กับทุกคนได้
ขอบคุณที่เข้ามาแลกเปลี่ยนค่ะ
ขอบคุณมากสำหรับเนื้อหาอันเป็นประโยชน์ และสามารถนำไปใ้ช้ได้จริงในการทำงาน
ทำให้ผมนึกถึงอีกบล๊อกหนึี่งของ อาจารย์หมอมาโนช ที่ได้เขียนเรืองการดูแลผู้ป่วยใกล้ตายไว้เหมือนกัน
ลองค้นดูนะครับ ผมยังทำลิงค์ให้ไม่เป็นครับ
สวัสดีค่ะคุณ
บทความนี้ทำให้ดิฉันสามารถนำมาใช้ในการทำงานได้
และถ้าเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่าน ก็ถือเป็นอานิสงค์สำหรับผู้ป่วยค่ะ
ลองอ่านเทคนิกการบอกข่าวร้าย
สวัสดีค่ะคุณ
ขอบคุณค่ะที่สนใจบทความนี้ค่ะ
สวัสดีค่ะ
อยากขอความรู้ค่ะ
เวลาจะบอกข่าวร้ายกับคนไข้ ใครเป็นคนบอกคะ แพทย์หรือพยาบาล
และควรบอกญาติก่อนใช่ไหมคะ ที่เป็นเจ้าของไข้
ถ้าเป็นญาติคนอื่น คงบอกไม่ได้ใช่ไหมคะ
สวัสดีค่ะคุณ
การบอกข่าวร้าย แพทย์จะเป็นคนบอกญาติที่ใกล้ชิด โดยมีพยาบาลอยู่ด้วย
กรณีผู้ป่วยที่เป็นผู้ใหญ่ ญาติจะไปบอกคนไข้ต่อ แต่ถ้าญาติอยากให้แพทย์บอกคนไข้พร้อมกัน ก็ได้
หลังจากแพทย์บอกแล้ว ญาติจะเสียใจ ร้องไห้
พยาบาลจะดูแลปลอบใจ ให้กำลังใจ
แนะนำการปฏิบัติตัว เพื่อให้ผู้ป่วยไม่ทุกข์ทรมานขณะที่มีชีวิตอยู่ต่อค่ะ
สวัสดีค่ะคุณยุพา
ตอนนี้ APN ต้องจบปริญญาโทค่ะ
สวัสดีค่ะคุณโรจน์
ขอบคุณที่สนใจ
เรื่อง การบอกข่าวร้ายเด็ก...
เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก
การได้อ่านและเขียน เพื่อบอกต่อ
จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนได้ค่ะ
ดีมากเลยค่ะพี่แก้ว แต่ตอนที่เราจะไปสื่อสารกับเด็กยังคิดอยู่เหมือนกันว่าจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ คิดไปถึงลูกตัวเองน่ะค่ะ แต่อ่านแล้วก็ได้ข้อคิดดีๆเยอะ เด็กเหมือนผ้าขาวที่บริสุทธิ์จริงๆนะคะ ชอบมากเลยค่ะ จะติดตามอ่านบทความพี่แก้วอีกนะคะ
ขอบคุณที่สนใจค่ะ การสื่อสารกับเด็กต้องคอยฝึกค่ะ ยิ่งมีลูกเราก็มีเวทีฝึกมากขึ้นค่ะ
ชาเจสันวินเตอร์ช่วยชีวิตผู้ป่วยโรคมะเร็งมานับไม่ถ้วน
ช่วยเหลือคนแถมมีรายได้ ติดต่อ 081-6367058