พวกเราคงจะสงสัยกันไม่มากก็น้อยว่า เวลาผัดเวลาทอดจะใช้น้ำมันอะไรดี เพราะมีความเห็นออกมามากมายเหลือเกิน...
อาจารย์ ม.ร.ว.สุภาณี ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำมันพืชทิพ จำกัด กล่าวว่า คนไทยใช้น้ำมันพืชประมาณปีละ 9,000 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตมากกว่า 10% ต่อปี
น้ำมันพืชที่คนไทยใช้มากปรากฏดังตาราง (ตารางที่ 1)
ตารางที่ 1: แสดงน้ำมันพืชที่คนไทยใช้มาก
ชนิดน้ำมันพืช | ร้อยละ (%) |
น้ำมันปาล์ม | 65% |
น้ำมันถั่วเหลือง | 25% |
น้ำมันรำข้าว | 6% |
น้ำมันชนิดอื่น | 4% |
ท่านอาจารย์สุภาณีแนะนำให้ใช้น้ำมันดังต่อไปนี้...
การทอดที่ใช้น้ำมันมาก และความร้อนสูงเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง หรือน้ำมันเสื่อมสภาพจากความร้อนสูงที่มีอันตรายต่อร่างกายได้
วิธีที่ดีคือ ควรหลีกเลี่ยงการทำ และการกินอาหารประเภทนี้ เช่น การทอดน้ำมันท่วม (deep fry) ด้วยความร้อนสูง ฯลฯ
ถ้าหลีกเลี่ยง(การทำอาหารทอดความร้อนสูง)ไม่ได้... ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันพืชที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (polyunsaturated fatty acids / PUFA) สูง
เนื่องจากน้ำมันพืชกลุ่มนี้ไม่ทนต่อความร้อนสูง และอาจเกิดสารก่อมะเร็ง หรือน้ำมันเสื่อมสภาพจากความร้อนสูงที่มีอันตรายต่อร่างกายได้
น้ำมันกลุ่มที่ไม่ทนต่อความร้อนสูงได้แก่ น้ำมันพืชส่วนใหญ่ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกทานตะวัน ฯลฯ และน้ำมันปลาทะเล
น้ำมันกลุ่มที่ทนต่อความร้อนสูงหน่อยได้แก่ กะทิ น้ำมันสัตว์ เช่น น้ำมันหมู ฯลฯ น้ำมันปาล์ม น้ำมันเมล็ดฝ้าย และน้ำมันรำข้าว
ปัญหาคือ น้ำมันกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น กะทิ น้ำมันสัตว์ น้ำมันปาล์ม ฯลฯ
ไขมันอิ่มตัวทำให้ร่างกายสร้างไขมันในเลือดหรือโคเลสเตอรอลเพิ่มขึ้น
ไขมันในเลือดหรือโคเลสเตอรอลที่สูงมีส่วนเพิ่มความเสี่ยงโรคเส้นเลือดแตก-ตีบตัน เช่น เส้นเลือดสมองแตก-ตีบตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต เส้นเลือดหัวใจอุดตัน ฯลฯ
ข่าวดีคือ น้ำมันรำข้าวและน้ำมันถั่วลิสง (มีจำหน่ายในพม่า) มีไขมันอิ่มตัวไม่สูง และมีไขมันไม่อิ่มตัวชนิดตำแหน่งเดียว (monounsaturated fatty acids / MUFA) สูง
ไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวช่วยเพิ่มระดับไขมันในเลือด หรือโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ซึ่งช่วยทำความสะอาดเส้นเลือด นอกจากนั้นน้ำมันรำข้าวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ (แอนตี้ออกซิแดนท์) สูงด้วยขอเรียนเสนอวิธีเลือกน้ำมันพืชง่ายๆ แบบประหยัดสำหรับคนไทยดังต่อไปนี้...
โรคอ้วนและโรคอ้วนลงพุงที่ระบาดไปทั่วโลกเป็นผลจากการกินอาหารประเภท “ผัด-ทอด” มากขึ้น อาหารประเภทนี้มี “น้ำมันที่มองไม่เห็น (invisible oil)” แฝงอยู่มากมาย
วิธีที่ดีคือ ไม่ควรกินอาหารประเภท “ผัด-ทอด” เกินวันละ 1 มื้อ หรือดีที่สุดคือ ไม่ควรเกิน 1 มื้อต่อ 2 วัน เนื่องจากอาหารประเภทนี้ให้กำลังงาน (แคลอรี) สูงมาก
นอกจากนั้นการกินเครื่องดื่มเติมน้ำตาล หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ฯลฯ เพิ่มขึ้น ร่วมกับการออกแรง-ออกกำลังน้อยมีส่วนทำให้คนเราอ้วนและอ้วนลงพุงมากขึ้นเรื่อยๆ
น้ำที่ดีกับสุขภาพจริงๆ คือ น้ำเปล่า หรือน้ำชาเจือจาง
วิธีที่ดีและปลอดภัยกว่าคือ กินอาหารประเภท “ผัก-น้ำพริก” อย่างน้อยวันละ 1 มื้อ เน้นการล้างผักเพื่อลดสารพิษ เช่น แช่น้ำ เติมน้ำยาล้างจานไป 2-3 หยด ทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างน้ำสะอาด 3-4 น้ำให้สะอาด
พริกเป็นอาหารเสริมชั้นเยี่ยม มีธาตุเหล็กและวิตะมินซีสูงมาก ผักมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง และทำให้อิ่มนาน พยายามอย่าเลือกผักทอด ให้เลือกผักสด ผักต้มแทน อย่างนี้จึงจะดีกับสุขภาพในระยะยาว
สุขภาพดีเริ่มต้นที่ “กินของทอดน้อยๆ” ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
ข่าวประกาศ...
ข่าวประกาศ...
ขอแนะนำ...
แหล่งที่มา:
ไม่มีความเห็น