กาแฟสักถ้วย กับความทรงจำดีๆ


พวกเราคงจะชื่นชอบ หรืออาจจะชิงชังกาแฟสักถ้วยตอนเช้ากันไม่มากก็น้อย วันนี้มีข่าวดีมาฝากท่านที่ชื่นชอบกาแฟครับ...

พวกเราคงจะชื่นชอบ หรืออาจจะชิงชังกาแฟสักถ้วยตอนเช้ากันไม่มากก็น้อย วันนี้มีข่าวดีมาฝากท่านที่ชื่นชอบกาแฟครับ... <p style="margin: 12pt 0cm 0pt" class="MsoNormal">ท่านอาจารย์คาเรน ริชชี แห่งสถาบันวิจัยการแพทย์แห่งชาติฝรั่งเศสได้ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างผู้ชายและผู้หญิงมากกว่า 7,000 คน ซึ่งอยู่ในเมืองใหญ่ 3 เมือง</p> <p style="margin: 12pt 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>

ผลการศึกษาพบว่า ผู้หญิงสูงอายุที่ดื่มกาแฟตั้งแต่ 3 ถ้วยขึ้นไปมีความเสี่ยงต่อภาวะความจำเสื่อมจากอายุที่มากขึ้นน้อยลง เมื่อเทียบกับผู้หญิงสูงอายุที่ดื่มกาแฟไม่เกินวันละ 1 ถ้วยดังต่อไปนี้...

  •  ความจำเกี่ยวกับคำพูด (verbal memory) เสื่อมน้อยลง 33%
  • ความจำเกี่ยวกับภาพ (visual & spatial memory) เสื่อมน้อยลง 18%

ธรรมดาของโลกคือ ข่าวดีมักจะมาคู่กับข่าวร้าย ข่าวร้ายที่ว่านี้คือ

  • กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่แสนจะลำเอียง... ช่วยผู้หญิง แต่ไม่ช่วยให้กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ชายมีความจำดีขึ้น หรือเสื่อมน้อยลง
  • กาแฟไม่ค่อยช่วยให้คนอายุน้อยมีความจำดีขึ้นเท่าไหร่ ไม่เหมือนกับผลที่พบในผู้หญิงสูงอายุ

สถิติของสมาคมกาแฟอเมริกาพบว่า คนอเมริกาส่วนใหญ่ดื่มกาแฟวันละ 1-2 ถ้วย ไม่ถึง 3 ถ้วยแบบที่กลุ่มตัวอย่างในฝรั่งเศสดื่มกัน

พวกเราที่นอนหลับยาก ใจสั่น ตื่นเต้น หรือเครียดง่ายควรงดกาแฟหลังเที่ยงวัน เพื่อลดปัญหานอนไม่หลับ หรือถ้ามีสตางค์มากหน่อย... อาจเปลี่ยนกาแฟส่วนหนึ่งเป็นชนิดสกัดกาเฟอีนออก (decaffeinated) ได้

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดี และดื่มกาแฟกันแบบพอดี (แต่ละคนคงจะมีความพอดีไม่เท่ากัน)

<p>ข่าวประกาศ...                                                  </p>

ข่าวประกาศ...                                                  

  • บล็อก "บ้านสุขภาพ" มีนโยบายที่จะไม่ตอบปัญหาสุขภาพ เนื่องจากผู้เขียนมีงานมาก อินเตอร์เน็ตลำปางช้า+หลุดบ่อย และใช้เวลาเตรียมเขียนเรื่องใหม่+แก้ไขคำหลัก (keywords) ย้อนหลัง

ขอแนะนำ...                                                    

    แหล่งที่มา:                                      

</span></span><ul>

  •  Many thanks to Reuters > Ishani Ganguli > Coffee may slow memory declines in women: study > [ Click ] > http://www.reuters.com/article/healthNews/idUSN0644129820070806?sp=true > July 30, 2007.
  • <li> ข้อมูลและการอ้างอิงในบล็อก บ้านสุขภาพ มีไว้เพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ไม่ใช่เพื่อการรักษาโรค </li>

  • ท่านที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้
  • ขอขอบพระคุณ > อาจารย์เทวินทร์ อุปนันท์ และทีม IT โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี
  • ขอขอบพระคุณ > อาจารย์ ณรงค์ ม่วงตานี และอาจารย์เทพรัตน์ บุณยะประภูติ IT ศูนย์มะเร็งลำปาง
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ จัดทำ > 7 สิงหาคม 2550.
  • </span> </ul></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></font></span></span>

    หมายเลขบันทึก: 117758เขียนเมื่อ 7 สิงหาคม 2007 18:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


    ความเห็น (0)

    ไม่มีความเห็น

    ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท