ไม้ขีดไฟก้านเดียวหุงข้าวไม่สุก


ไม้ขีดก้านเดียว ไหม้จนร้อนถึงมือ ข้าวก็ยังไม่สุกเลยครับ

คำนี้ผมได้มาจากครูบาสุทธินันท์ ที่เปรียบเปรยการทำงานของนักวิชาการและนักพัฒนา ที่ไม่เข้าใจระบบการพัฒนา

หน่วยงานส่วนใหญ่จะตั้งสมมติฐานว่า การอบรม หรือดูงานครั้งสองครั้งจะสามารถเปลี่นแปลง หรือพัฒนาคนได้

ดังเช่นโครงการฝึกอบรมที่ทำโดยระบบราชการ หรือแม้จะมอบหมายให้เครือข่ายปราชญ์ทำก็ตาม ก็เป็นลักษณะ "ไม้ขีดก้านเดียว"

  • ไม่มีการติดตามประเมินผล
  • ไม่มีกิจกรรมต่อเนื่อง
  • ไม่มีความเชื่อมโยงกับกิจกรรมอื่นๆ แต่แยกกันเป็นเรื่องๆ

อย่างมากก็ประเมินทันทีหลังการฝึกอบรม ที่ดูเหมือนจะได้ผลดี

เหมือนจับปลายก้านไม้ขีดไฟที่ดับใหม่ๆ ยังร้อนแน่นอน

วันนี้ ผมได้คุยกับปราชญ์อีสาน ๒ ท่านคือ

  • ครูบาคำเดื่อง ภาษี แห่งจังหวัดบุรีรัมย์
  • พ่อจันทร์ที ประทุมภา แห่งจังหวัด นครราชสีมา

ท่านมาเยี่ยมนา ไม่ไถ ไม่ดำ ไมหว่านของผม ผมจึงได้มีโอกาสเรียนถามท่านว่างานฝึกอบรมเกษตรกรต้นแบบที่ได้งบจากกระทรวงเกษตรฯ มีความหวังแค่ไหน

ท่านตอบว่า ถ้าไม่มีกิจกรรมต่อเนื่องก็คงจะได้ผลน้อย

 

ท่านจึงขอฝากให้ผมช่วยเรียนผู้มีอำนาจตัดสินใจว่า

 

 ไม้ขีดไฟก้านเดียวหุงข้าวไม่สุกหรอกครับ

นี่ขนาดเลือกมาอย่างดีแล้วนะครับ

ประเภทจมโคลนขีดดับ ขีดดับ ไม่นำมาอยู่แล้ว

แต่ไม้ขีดก้านเดียว ไหม้จนร้อนถึงมือ ข้าวก็ยังไม่สุกเลยครับ

จะให้ดีต้องมีฟืนมีถ่านต่อเชื้อไฟอีกสักหน่อย

จะได้ไหมครับ

 

หมายเลขบันทึก: 117446เขียนเมื่อ 6 สิงหาคม 2007 19:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • ท่านเล่าฮูเปรียบจนจุกใจ
  • ตอนนี้นาปริ่มน้ำฟ้าปริ่มฝน คนปริ่มอะไร?
  • เรื่องของชุมชน การอบรม การพัฒนา ก็คือการเล่นเด็กขายของเท่านั้น
  • ไม่มีใครคิด ทำจริงจังหรอก เป็นเรื่องเสมือนจริง พวกผู้นำชุมชนก็ไม่กล้าเผชิญกับความจริง ไม่คิดอย่างอิสระจริงๆ ยังติดเยื้อใยหลายอย่าง เงิน หน้าตา คำเยินยอ ทั้งที่รู้ว่ามันเป็นของปลอม
  • ไม่มีการยอมรับกันอย่างสุจริตใจจากข้างบน ถ้าไม่ถอยมาอยู่ในจุดความเป็นจริง ก็จะตาบอดสีอยู่เช่นนี้
  • ถ้าไปอยู่ในโลกอวดโอ้มันก็แค่นั้นแหละ ตราบใดที่ไม่ทำความจริงให้ปรากฏ แล้วยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่ามันทำยาก
  • ในประเทศนี้ยังไม่มีใครทำสำเร็จสักคน มันประมาณนี้จริงๆ ถ้ายอมรับความจริง
  • การลงมือทำงานด้วยตัวเองอย่างที่เล่าฮูทำดีที่สุด ผมแก่แล้วทำอย่างเล่าฮูไม่ได้ ต้องอาศัยแรงคนอื่นทำ ซึ่งมันก็ได้บ้างและไม่ได้บ้าง มันเป็นข้อจำกัดของคนแก่ไปแล้ว
  • ผมคิดว่าทางออกที่ดี ผมควรสนับสนุนคนจริงทำ  และคอยร่วมเรียนรู้ด้วย ผมจึงดีใจที่มีคนจริงอย่างท่านเล่าฮูสู้ชีวิตให้เห็น อะไรที่สนับสนุนได้จะให้เต็มที่ แต่ตอนนี้เอาเขาควยไปก่อน ส่วนตัวควาย สังสัยว่าจะหายาก เพราะหลบเข้าป่าหายไปไหนก็ไม่รู้หรือโดนนักเลงบ้านนอกจับไปปาดเอาเนื้อทำกับแกล้มเสียก็ไม่รู้
  • งานพัฒนา งานวิจัยชุมชน ถ้าใครคิดว่าสำเร็จ ผมตั้งข้อสังเกตว่า ยังเป็นกบในกะลา ถ้าพิจารณาให้ดีมีงานวิจัยชุมชนเก่าใหม่ๆต้องโยนทิ้ง99% เพราะโจทย์มันเปลี่ยนแปลงเร็ว และหักมุม360องศา ทุกๆ5นาที จับต้นชนปลายไม่ถูก สังคมละครโรงใหญ่มันเป็นเช่นนี้เอง
  • จะพออาศัยคุยกันได้ก็เฉพาะในแวดวงชาวBlog นี่แหละ ที่เขาตรงไปตรงมายอมรับความจริงกัน ร่วมคิดและพิจารณา แกะรอยความคิดของกันและกัน เมื่อรักและเข้าใจกัน ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงใด จึงสื่อกันได้อย่างสะดวกใจและเป็นอิสระ เป็นมิตรเป็นญาติมิตรเพื่อการเรียนรู้ร่วมกันอย่างแท้จริง
  • ไม่ยังงั้นผมจะรักคนชื่อแสวงรึครับ
  • ถามว่าเพราะอะไรรึ
  • ก็ผมเห็นทองห่อผ้าขี้ริ้วนะสิ
  • ก้อนโตเสียด้วย แถมยังเป็นทองเนื้อแท้ผ่องแผ้วนพคุณ
  • อิอิ..

ขอบตุณครับครูบา ที่เข้ามาขยายความ และสนับสนุนงานที่ผมทำทุกด้าน ทั้งระดับเครือข่ายและระดับแปลง

ครูบายังไม่แก่หรอกครับ ยังเตะปีบดังได้อีกนานครับ

และครูบาก็ทำอย่างที่ผมทำอยู่จนเบื่อแล้ว

ผมเพิ่งได้ลิ้มรสความสนุกในการทำงานในนา ก็ดูหลงระเริงเป็นธรรมดา

ครูบาอยู่ระดับ ตีขิมบนเชิงเทิน นั่งชมผลงานของตัวเองอย่างสบายใจต่างหาก

เรื่องเครือข่าย เราคงต้องหาทางสะกิดคนที่เกี่ยวข้องให้ได้

ที่เราทำอยู่ก็ปลุกกระแสได้กว้างพอสมควร แม้จะไม้ได้ดังใจ

ความร้อนมันยังไม่พอจะแยกทองแท้ ออกจากเศษดิน หินนะครับ

แต่ผมไม่เคยยอมแพ้นะครับ มีแต่ถอยมาตั้งหลักเท่านั้น

บางที่เราก็ต้องทบทวนตัวเองอยู่บ่อยๆ

การอยู่ในสนามรบตลอดเวลา จะไม่ค่อยได้ทบทวน

ผมจะยังเต็มที่เหมือนเดิมครับ

อาจารย์ ดร.แสวงครับ

ปัญหาแบบนี้จะแก้อย่างไรดีครับ? เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติมากๆ เลยใช่ไหมครับ ไม่ว่าจะในหน่วยงาน ราชการ เอกชน หรือแม้แต่การใช้ชีวิตของเรา อะไรที่เราทำบ่อยๆ ทำอย่างตั้งใจ และเชื่อมั่น มันก็จะทำได้ดี อะไรที่ทำแบบเสียไม่ได้ เดี๋ยวก็ลืมไป จะมาทำอีกครั้งก็ต้องเคาะสนิมกัน

มีอาจารย์ท่านหนึ่งสอนในเรื่องการอบรมพนักงานว่า ทุกสิ่งในโลกมี เกิดมา ตั้งอยู่ ดับไป เหมือนที่เราเข้าใจในพุทธศาสนา วิธีที่จะทำให้พนักงานทำอย่างที่เราต้องการก็ต้องคอยดูกระแสนี้เอง ก่อนที่จะดับไป ก็ต้องกระตุ้นให้เกิดใหม่ เหมือนที่อาจารย์เปรียบกับการจุดไม้ขีด

เรื่องนี้เตือนใจผม ไม่เพียงในการทำงาน แต่รวมถึงการเอาใจใส่กับคนรอบข้าง การประคับประคองความสัมพันธ์กับมิตรสหายด้วยครับ คนเราห่างหายกันไปนานๆ ไม่แสดงน้ำใจให้กัน ไม่นานก็มีลืมเลือน จริงไหมครับ?

ขอบคุณครับ 

สวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์ดร.

* ก่อนอื่นขอเอ่ยความนัยก่อนนะคะ จะได้ไม่ต้องคาใจ

* ครั้งแรกที่เห็นภาพท่านอาจารย์ ทำให้ปูนึกถึง สรพงษ์ ชาตรี พระเอกคนโปรด ... ใส่หมวกแบบนี้ เท่ห์ มากค่ะ หนูช้อบ ชอบ

* * อ่านแล้วได้มุมมอง ขอบพระคุณค่ะ

  • ไม่มีการติดตามประเมินผล
  • ไม่มีกิจกรรมต่อเนื่อง
  • ไม่มีความเชื่อมโยงกับกิจกรรมอื่นๆ แต่แยกกันเป็นเรื่องๆ

* เสมือน Out of Sight, Out of Love - ...  ใช่ไหมค่ะ

และโยงถึงเรื่องงาน Out of Practice, Out of Skils .. 

ขาดการฝึกฝน ปฏิบัติ ก็ขาดทักษะ ...

* ไม้ขีดไฟก้านเดียวหุงข้าวไม่สุก ... รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เรากระจาย

* เชื่อมั่น ศรัทธา เป็นกำลังใจให้ท่านอาจารย์

* รักษาสุขภาพนะคะ  ขอบพระคุณค่ะ

 

คุณ

P

Poo ครับ

ตอนนี้อาจเรียกได้ว่าเป็น Out of knowledge outof understanding, out of practice and out of results and impact

 

ประมาณนั้นครับ

 

กราบสวัสดีครับ ท่าน อ.แสวง

  • เข้ามาในบทความนี้ หลายๆ ครั้งแล้วครับ
  • ชอบศาลานี้จริงๆ ครับ พร้อมๆ กับแนวคิดป่าล้อมนา ผมว่านาของอาจารย์ คงไม่ต้องรอสองสามปีแล้วมั้งครับ ที่จะให้สมบูรณ์ ผมว่าอีกไม่นานนี้ก็คงจะยั่งยืนได้ครับ เสถียรในระบบนิเวศน์ได้ครับ
  • ส่วนเรื่องไม้ขีดก้านเดียว เราต้องไม่ใช้ไม้ขีดก้านเดียวไปหุงข้าวนะครับ ผมว่าเราต้องบริหารจัดการไม้ขีดก้านนั้นเพื่อเป็นกองไฟ บริหารกองไฟ เพื่อส่งต่อพลังงาน ไปยังส่วนอื่นๆ ในการจุดประกาย
  • แม้ไม้ขีดก้านเดียวจะหุงข้าวได้ แต่ก็เผาป่ามาเยอะแล้วเหมือนกันใช่ไหมครับ
  • หากใช้ไม้ขีดก้านเดียวที่เหลือนั้น จุดประกายทางความคิดในสมอง คงดีมากๆ แล้วเอาไปจุดกันต่อ ผมมองว่าไม้ขีดก้านนั้นคือ แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ไม้ขีดก้านสุดท้ายก่อนจะไม่เหลืออะไร
  • ลองคิดกันเล่นๆ ครับผม ขอบคุณมากครับ 
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท