เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2550 ทางคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้เรียนเชิญ คุณนิพัทธ์ กานตอัมพร และคุณศิรินทร พงษา วิทยากรอิสระ จากสถาบัน META FORUM มาให้ความรู้ในเรื่อง เทคนิคการสื่อสารและการนำเสนออย่างมีประสิทธิผล
เป็นอีก 1 วัน ที่ผู้เข้าอบรมรู้สึกว่า เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ท่านวิทยากรทั้ง 2 ท่าน ได้ถ่ายทอดเทคนิค วิธีการ และกลยุทธ์ต่าง ๆ มากมาย ในการสื่อสารและการนำเสนอให้ได้ดี หลาย ๆ เทคนิคใช้วิธีการเรียนรู้ผ่านกระบวนการทำกิจกรรมกลุ่มร่วมกัน ซึ่งผู้เข้าอบรมต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง
หลาย ๆ เรื่องที่เป็นทฤษฎี ท่านสามารถหาอ่านได้จากหนังสือหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งในที่นี้ดิฉันจะไม่กล่าวถึง ดิฉันจะนำเสนอประเด็นที่ท่านวิทยากรได้ถ่ายทอดให้พวกเราได้รับฟัง จากประสบการณ์ของท่าน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ควรมองข้ามเวลานำเสนองาน แต่หลายครั้งทีเดียวที่เราอาจละเลยไปโดยคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ ที่สำคัญเราสามารถเรียนรู้ได้โดยอาศัยการฝึกฝน สิ่งเหล่านี้ คืออะไร ตามมาเรียนรู้ด้วยกันนะคะ
1. short note ควรทำให้เป็น short note จริง ๆ มิใช่ long note คือต้องทำให้ย่อจริง ๆ และต้องสามารถซ่อนในฝ่ามือได้
2. น้ำเสียงในการนำเสนอ ซึ่งอุปกรณ์ที่จะส่งผลต่อน้ำเสียงของเรานั่นคือ ไมค์โครโฟน ดังนั้น เราควรจับไมค์โครโฟน ใต้คางให้ห่างหนึ่งฝ่ามือเอียงทำมุม 45 - 60 องศา เพราะการเอียงอย่างงี้ เสียงจะเข้าเต็มไมค์โครโฟน จะเป็นระยะที่เป็นธรรมชาติที่สุด จะเป็นระยะที่เสียงดี และใบหน้าสวย เวลาจะถ่ายรูป ไมค์โครโฟนจะไม่บังใบหน้า และน้ำเสียง ต้องเป็นธรรมชาติ เช่น เสียงสูง เรียกความสนใจ ความมีส่วนร่วม ของผู้ฟัง ใช้กระตุ้น เร้า ท้าทายผู้ฟัง ควรใช้น้ำเสียงให้ถูกกับเรื่องราวที่เราจะนำเสนอ เพื่อดึงดูดผู้ฟังให้สนใจ
3. การแต่งกาย ควรลดสิ่งรบกวนร่างกายและสายตาจากผู้ฟังให้มากที่สุด เช่น ไม่ควรแต่งกายสีฉูดฉาด ไม่ควรใส่เครื่องประดับที่มีประกายวูบวาบ เพราะจะทำให้ผู้ฟังสนใจเครื่องแต่งกายมากกว่าผู้พูด
4.การยืน
สุภาพบุรุษ วางเท้าให้เป็นรูปตัววี ส้นเท้าชิด ปลายเท้าเปิดประมาณหนึ่งคืบ ทิ้งมือข้างลำตัว ไหล่ยกขึ้น แขม่วพุง หน้ามองตรง
สุภาพสตรี ยืนได้หลายลักษณะเช่น
ยืน สิบเอ็ดนาฬิกา
ยืนเท้าซ้ายเลขสิบ เท้าขวาเลขสิบสอง
ยืนเท้าซ้ายเลขสิบสอง เท้าขวาบ่ายสอง
การวางมือ
ท่าที่หนึ่ง คว่ำ ๆ
ใช้นิ้วก้อยซ้าย จับที่กระดูกข้อมือขวา วางฝ่ามือทั้งสองตรงระดับสะดือ
ท่าที่สอง หงาย ๆ
มือสองข้างซ้อนกันตรงระดับสะดือ
5. การเตรียมตัว ต้องชัดเจนว่าเราจะพูดอะไร ใครเป็นผู้ฟังของเรา และมีเวลาเท่าไหร่ ต้องบริหารเวลาเป็น คือ รู้ว่าจะต้องพูดอะไร ในเวลาเท่าไหร่ และที่สำคัญต้องใช้ body language ในการทำให้ผู้ฟังยอมรับและเข้าใจ และที่สำคัญในการนำเสนอต้องเรียบเรียงเป็นลำดับ อย่าวกไปเวียนมา การสร้างแรงจูงใจในการนำเสนอ หรือ สร้างความเชื่อมั่นในการนำเสนอถือเป็นสิ่งที่สำคัญ
6. สายตา keep eye contact สำคัญมาก ต้องสามารถสบสายตากับผู้ฟังทุกคนได้อย่างเป็นระยะ ๆ หลักการใช้ eye contact เวลายิงสายตา ให้มองไปเป็นกลุ่ม ๆ แล้วเวลายิงสายตา ให้สบตาคนเป็นระยะสั้น ๆ แล้วค่อยเปลี่ยนมุมมอง ซึ่งต้องทำให้เป็นธรรมชาติ
7. ใช้หลักเทคนิคจินตภาพ คือ การใช้เทคนิคสร้างจินตนาการก่อนวันจริง เพื่อลดความตื่นเต้น
ท่านวิทยากร ได้ยกตัวอย่างวิธีฝึกจินตภาพให้พวกเราเข้าใจดังนี้
ยืนกางเท้าเล็กน้อย พอสบาย ความกว้างของปลายเท้าเท่ากับหัวไหล่ ตามองตรงไปข้างหน้า เอานิ้วชี้ขึ้นมา ให้สายตาและสมาธิอยู่ที่ปลายเล็บ กวาดปลายเล็บไป และสมาธิให้สายตาอยู่ที่ปลายเล็บตลอดเวลา เท้าอย่าขยับ กวาดมือไปให้สุด จำจุดนั้นไว้ ค่อย ๆ หมุนกลับมา สายตาสมาธิอยู่ที่ปลายนิ้ว จนมาถึงข้างหน้า เอามือลง
รอบที่สอง ไม่ต้องทำท่าทางประกอบ ให้หลับตา และจินตนาการตามสิ่งที่เราทำเมื่อสักครู่นี้
เป็นอย่างไรบ้างค่ะ สำหรับ trick เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ควรมองข้ามก่อนจะนำเสนองานต่าง ๆ ไม่ยากเลยใช่ไหมค่ะ
หวังว่า ในการนำเสนอของท่านครั้งต่อไป tirck เล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ คงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ในการทำให้การนำเสนอของท่านน่าสนใจมากยิ่งขึ้นนะคะ ทั้งในส่วนของเนื้อหา และวิธีการนำเสนอ
ขอบคุณน้องแป๊ดมากค่ะ ขออนุญาต copy ไว้ฝึกและนำไปสอนนักศึกษาด้วยค่ะ อยากทราบกระบวนการกลุ่มที่ใช้สำหรับการฝึกค่ะ พี่จะได้ไปฝึกเองและฝึกนักศึกษาด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะพี่แป๋ว
ด้วยความยินดีค่ะ สำหรับการฝึก ขอรื้อฟื้นสักระยะนะคะ เพราะวันนั้น อยู่ในฐานะผู้จัด ซึ่งต้องวิ่งเข้า วิ่งออก เก็บประเด็นได้ไม่ครบค่ะ ไว้จะถามผู้เข้าให้อีกทีนะคะ
สวัสดีคะ พี่แป็ด
เข้ามาเก็บเกี่ยวเทคนิกการนำเสนอ ได้ทบทวนตนเองและจะลองนำไปปรับใช้เมื่อมีโอกาสได้นำเสนอ ขอบคุณพี่แป็ดมากคะ
ฮัลโหล เทส อิอิ ก๊ากส์ ไมค์มันหอน นะแป๊ด ฝากความคิดถึง อ้วน-ผอม ด้วย อีกหน่อยจะส่งน้าอึ่งไปอุ้ม ต่อไปโตขึ้นค่อยอุ้มน้าอึ่งคืน อิอิ