เสียงจากปราชญ์เดินดิน เป็นใครเอ่ย


สวัสดีครับทุกท่าน

         เมื่อสองสามวันก่อนผมได้มีโอกาสรับข้อความเสียงจากปราชญ์ท่านหนึ่ง เป็นปราชญ์เดินดิน ทำการทดลองเองหลายๆ อย่าง ผมได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนกับปราชญ์ท่านนี้ตามวาระและโอกาสที่เหมาะสม

ผมได้มีแฟ้มเสียงของปราชญ์ท่านนี้มากฝากให้ท่านให้ฟังกันนะครับ คือผมฟังแล้วผมก็มีความรู้สึกดีๆ จินตนาการเห็นถึงความสุขในการทำงาน ในการเดินดิน เดินในนา อยู่กับธรรมชาติ ทดลองกับธรรมชาติ ซึ่งเป็นธรรมนูญผืนใหญ่ที่วางอยู่ให้เราศึกษา มาลองฟังดูนะครับ

ปราชญ์ ท่านบอกว่า ดาวน์โหลด ทำให้ผมต้องจินตนการไปยังที่นาของท่านแล้วไม่พอ ท่านยังส่งมาให้อีกแฟ้มครับ

ปราชญ์ ท่านทำให้ผมเคลิ้มไปในแฟ้มแรกแล้ว ปราชญ์ท่านนี้ ก็ส่งมาให้ผมอีกแฟ้ม พร้อมเสียงจิ้งหรีด การอยู่ร่วมกัน พร้อมการใช้สรรพสิ่งในท้องนาเป็นเครื่องชี้วัด ความสมบูรณ์ ท่านบอกว่า ดาวน์โหลด

ทำให้ผมคิดถึงท้องทุ่งหน้าบ้านผมขึ้นมาถนัดตาครับ คิดถึงสระน้ำ หนองน้ำ ข้างบ้าน คิดถึงนาผักบุ้ง และวิถีแบบนั้นจริงๆ ครับ

ว่าไปแล้ว การสื่อสารแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกว่า มีสีสันและมีรสของความจริงใจถึงกัน ไม่แบ่งแยกแบ่งชั้น ได้รับรู้สัมผัสระหว่างกันครับ และนั่นคือ มิตรภาพที่ผมรู้สึกว่ามีจริง

ผมเลยมีความคิดว่า หากเรามี สำนักงานปราชญ์ของภาคหรือจังหวัด ก็คงดีนะครับ ในการติดต่อกับปราชญ์ หมอดิน น้ำ ลม ไฟ ผัก ปลา สัตว์ ข้าว และอื่นๆ แล้วเชื่อมเข้าสู่กับบล็อกเป็นบล็อกเสียงผสมข้อความ นำไปสู่การเพิ่มสีสัน ซึ่งต่อไปอาจจะมีการกดปุ่มแล้วอัดเสียงเข้าบล็อกได้เลย ประหยัดเวลาในการพิมพ์ด้วยครับ ซึ่งในอนาคตผมเชื่อว่าต้องเกิดขึ้นแน่นอนครับ

ปราชญ์ -----> สำนักงานปราชญ์ ------> บล็อก -----> Web Blog/ Internet

ทำให้ปราชญ์ไม่ต้องเสียเวลาในการมานั่งพิมพ์ เพราะบางครั้งปราชญ์ จำเป็นต้องอยู่ในท้องทุ่งหรือทำการทดลองอยู่อย่างตัวอย่างที่ผมยกมาไงครับ

สำหรับปราชญ์ท่านใดที่ท่านสามารถ จัดการเรื่องไอทีได้ด้วยก็นับว่ายอดมากๆ ครับ ค่อยเรียน ค่อยเป็นค่อยไปครับ แต่สำหรับปราชญ์ที่ท่านไม่รู้สึกว่าถนัด ก็มี สำนักงานปราชญ์จัดการให้ ในการอำนวยความสะดวกนะครับ

สำหรับในบทความนี้ ปราชญ์ที่ว่านั้นคือใคร ก็ให้ท่านๆ เดากันดูนะครับ ผมเลยให้ท่านไปค้นหาดูเองนะครับ ว่าสุดยอดปราชญ์เดินดินคนนี้คือใคร ครับ 

กราบขอบพระคุณมากครับ

เม้ง

หมายเลขบันทึก: 116696เขียนเมื่อ 3 สิงหาคม 2007 22:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:45 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สวัสดีค่ะ คุณเม้ง

  • ไม่ได้คุยด้วยนานแล้ว....สบายดีนะคะ...
  • ดิฉันพยายามจะดาวน์โหลดมาฟัง...ไม่ได้เลยค่ะ  ไม่ทราบว่าทำไม

สวัสดีค่ะ คุณเม้ง

  • สบายดีนะคะ
  • ดิฉันไม่สามารถดาวน์โหลดมาฟังได้ค่ะ

สวัสดีครับพี่สาว

สบายดีไหมครับ พอดีแปลกครับ เอาแฟ้มขึ้น gotoknow ไม่ได้ครับ สงสัย เนื้อที่จะเต็ม อิๆ ได้แค่ 0 ไบต์ แต่ตอนนี้ ได้แล้วนะครับ ลอง รีเฟรสอีกรอบ แล้วจะได้ครับผม ย้ายที่อยู่ของแฟ้มแล้วนะครับผม

ผมสบายดีครับ งานเยอะหน่อยครับ รักษาสุขภาพนะครับผม ขอบคุณมากครับ

คุณเม้งอย่าเป็นศัตรูกับพวกนี้นะครับ

ธรรมชาติเป็นสิ่งสวยงาม  จรรโลงโลก  วัฎจักรที่สมบูรณ์  สร้างความสมดุลย์ในห่วงโซ่ชีวิต 

สบายใจมากครับ

ขอบคุณครับที่ยกย่อง ผมยังไม่กล้ารับเกียรติจากคำนี้หรอกครับ และคิดว่าอาจจะมีคนไม่เห็นด้วยอีกพอสมควรครับ

ผมเพียงทำงานทุ่มเทนำร่องให้คนอื่นได้เรียนรู้ เพราะผมเสี่ยงลองได้ แต่เกษตรกรส่วนใหญ่จะเสี่ยงไม่ได้ และไม่มีโอกาสได้ลองได้เรียนรู้

ตอนนี้กำลังขยายแนวคิดในการทำงานพัฒนาระบบทรัพยากรพื้นฐานแบบพึ่งตนเอง โดยการลงทุนน้อยที่สุด ไม่ให้ใครมาเกี่ยงเรื่องทุนไม่มี หรือไม่พอ

สมาชิกที่กล้าลองเล็กๆน้อย ก็เริ่มมีมากพอสมควร

จะพยายามขับเคลื่อนเชิงนโยบายให้ได้ครับ

ก็กำลังรอให้คุณเม้งกลับมาเป็นแนวร่วมต่อไปครับ

 

ที่สำคัญ

นาคุณเม้งที่ทุ่งโพธิ์ เป็นนาแห่งความฝันของผมเลยครับ มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์มาก ไม่ทราบว่าใช้เวลากี่ปี และดูแลอย่างไร

ผมพยายามดึงภาพขึ้นยังไม่ได้ แต่จะลองพยายามวันหลัง

 

P

สวัสดีครับพี่เหลียง

  • ขอบคุณมากครับพี่ ใช่แล้วครับ อย่าเป็นศัตรูกับพวกเค้าเลย เพราะเค้าคือตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ในนาข้าวและระบบนิเวศน์ที่แท้จริงครับ
  • อยู่ร่วมเพื่อ พัฒนา เรียนรู้ สู่การเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ตามคำสอนของในหลวงครับ
  • ขอบคุณมากครับ
P

กราบสวัสดีครับท่านอาจารย์แสวง

   ผมขอวาดแผนที่ภาพบริเวณบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการอธิบายที่เข้าใจได้ง่ายขึ้นนะครับ พร้อมการมองภาพง่ายๆ เห็นภาพรวม แม้ว่าอัตราส่วนจะไม่ค่อยดูเท่าไหร่ เอาแค่พอได้ไอเดีย จนกว่าอาจารย์จะมีภาพมาแสดงประกอบนะครับ ผมมีภาพที่เก่าไปหน่อยครับ เพราะภาพที่ผมมีนั่นเมื่อปีก่อนครับ สภาพต่างไปในบางพื้นที่ครับ

จากภาพนะครับ แต่ละหมายเลขมีคำอธิบายดังต่อไปนี้นะครับ

  • เลข 0 คือทางเข้าบ้านครับ
  • เลข 1 คือบ้าน
  • เลข 2 คือบริเวณสวนยางใหม่ที่เพิ่งปลูกครับ เป็นยางประมาณ 2-3 ชั้นนะครับ ผสมกับสวนกล้วย และพริกขี้หนู มะเขือ ตะไคร้ และหลายๆ อย่างตามรูปแบบ เป็นผักสวนครัว
  • เลข 3 นั่นคือโซนคอกหมูนะครับ
  • เลข 4 คือบริเวณสระพักน้ำ เพราะจะมีสายน้ำเป็นเหมือนห้วย เมื่อมีฝนตกจะมีน้ำไหลมาจากหมายเลข 10 วิ่งมายังบ่อพักน้ำหมายเลข 4 แล้วในบ่อพักเลข 4 นี้ จะมีเป็นแอ่งน้ำที่มีผักกะเฉด ปลาไหล ปลาต่างๆ หอยโข่ง และอื่นๆ ผสมอยู่ในนั้นครับ
  • หมายเลข 5 เป็นสระน้ำใหญ่ เอาไว้เก็บน้ำตลอดทั้งปี สระน้ำจะสูงอย่า บ่อพักหมายเลข 4 และสูงกว่าที่ใดๆ ก็จะมีปลาพื้นบ้าน ปลาช่อน ปลาหมอ ปลาดุก ปลาหมอเทศ และหลายๆ ชนิด ปล่อยตามธรรมชาติ เป็นสระดินปลาหากินตามธรรมชาติครับ
  • เลข 6 เป็นบริเวณปลูกแบบสมรม ตามใจฉัน มีพวกกล้วย แนวรั้วชะบา ฝรั่ง หมาก และอื่นๆ
  • เลข 7 เป็นที่ต่ำที่สุดในพื้นที่ นั่นคือ ที่นานั่นเองครับ จะเห็นว่าเมื่อน้ำในสระหมายเลข 4, 5 ล้น น้ำก็จะถูกผ่อนลงมาพักเก็บไว้ในนาตรงนี้ ประกอบกับมูลหมูที่ปล่อยหลังจากการล้างคอก ก็จะมีการส่งผ่านให้ไหลมายังที่นาเช่นกันครับ เพราะน้ำจะช่วยพัดพาตะกอนและธาตุอาหาร ผ่านการกรองด้วยหญ้าในคูร่องน้ำมาเป็นอย่างดีครับ ไหลผ่านมาลงที่นาอย่างช้าๆ และยังมีทางน้ำอีกสายหนึ่งจากทางหมายเลข 11 ครับไหลลงมาสู่ที่นา ตรงนี้เช่นกันครับ เมื่อก่อนทำนาข้าว ตอนนี้แปลงนาข้าวเป็นนาผักบุ้ง ซึ่งจะเก็บขายได้ตลอดตามรูปแบบ จะได้ผลกว่าทำนาข้าวจริงๆ เพราะนาข้าวใช้นาอีกแปลงที่ห่างไปจากบริเวณบ้านครับ
  • เลข 8 เป็นสวนยางรุ่นพี่ จากแปลงหมายเลข 2 ตรงนี้เป็นที่สำหรับยางโดยเฉพาะครับ มีตะไคร้และผักสวนครัวตามวาระปลูกระหว่างแถวของต้นยาง
  • เลข 9 เป็นเหมือนป่าต้นขี้เหล็กครับ เอาไว้ให้เป็นที่พักพิงของนกไว้นอนและอาศัยตามธรรมชาติ เมื่อก่อนจะมีพวกนกกระยางมานอนบ่อยครับ ก็จะมีนกอื่นๆ เช่น นกเขา นกกรง นกอื่นๆ ครับ ในสระก็อาจจะมีพวกนกเป็ดน้ำ บินไปมา จริงๆ จะมีสระอีกลูกอยู่ทางซ้ายมือของทางเข้าบ้านหมายเลข 0 แต่ตรงนั้นเป็นที่สาธารณะก็จะใส่ปลาไว้เช่นกันครับ ใครมีความสามารถก็ไปจับเอาเองครับ อิๆๆ
  • หมายเลข 10, 11 เป็นทางน้ำไหลครับ เมื่อไหลลงที่นาหมายเลข 7 แล้วหากเกิดน้ำล้นขึ้นมาก็จะปล่อยให้ไหลลงท่อไปยังทุ่งนาใหญ่ของพี่น้องเพื่อนบ้าน ทางหมายเลข 12 ครับ
  • ส่วนต้นไม้ ก็จะกระจายอยู่ทั่วไปบริเวณรอบสระน้ำ และแนวเขตแดน เมื่อก่อนสวนยางหมายเลข 2 สมบูรณ์มาก ก่อนที่จะโค่นสวนยาง ตอนนี้ต้องเริ่มสร้างระบบกันใหม่ครับ
  • จะเห็นว่าในพื้นที่ไม่ค่อยมีอะไรมากครับ เพียงแต่ปล่อยให้มันเป็นไปตามระบบครับ ในนาผักบุ้งหมายเลข 7 หากน้ำล้นสระหมายเลข 4, 5  ปลาเหล่านั้นก็จะมาอยู่ในนาเช่นกันครับ หากน้ำล้นมาก ก็ปล่อยปลาไปบ้างให้ไปโตในนาของเพื่อนบ้าน ไปแพร่พันธุ์กันต่อไปครับ

 สำหรับคำถามของท่านอาจารย์

นาคุณเม้งที่ทุ่งโพธิ์ เป็นนาแห่งความฝันของผมเลยครับ มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์มาก ไม่ทราบว่าใช้เวลากี่ปี และดูแลอย่างไร

จริงๆ แล้วระบบมันมีมานานเป็นแบบนี้ครับ เพียงแต่ที่นาจะได้รับสารอาหารจะคอกหมู และการชะล้างของสารอาหารผิวดินจากสายน้ำไปกองรวมกันในที่นา จะทำให้บริเวณที่นา มีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นครับ เพราะเป็นที่ต่ำครับ จริงๆ แล้วเมื่อก่อน จะเป็นนาที่มีคันนา จะมีอยู่ 7 แปลงย่อยๆ ครับ มาตอนหลัง หลังจากที่มีการขุดสระรื้อใหม่ ระบบที่นาก็ยังทำแยกส่วนตอนปลูกข้าว พอมีแนวคิดใช้การปลูกผักบุ้งในนา ก็เลยเปลี่ยนแนวมาเป็นไถให้เข้าด้วยกัน ลบพื้นที่คันนาออกนะครับ

จริงๆ แล้วที่บ้านก็ตามกระแสการใช้ปุ๋ยเคมีมาก่อนเหมือนกันครับ พูดได้ว่า ชาวนาทุกคนในพื้นที่นั้น ต้องพึ่งพาปุ๋ยเคมีกันจริงๆ นะครับ แต่พื้นที่ในนาหน้าบ้าน โชคดีที่ไม่ต้องใช้ปุ๋ยมากครับ เพราะเราติดกับดักแบบนี้จริงๆ เพิ่งจะมาฟื้นตัวภายในไม่นานนี้ ครับ ที่หันมาสู่การหันมาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปล่อยแบบธรรมชาติ

หลักๆ แล้วก็ประมาณนี้นะครับผม ขอบพระคุณอาจารย์มากนะครับผม สำหรับคำว่าปราชญ์ นั้นผมก็ถือว่า ท่านอาจารย์ก็คือปราชญ์คนหนึ่งครับ วันหน้าผมก็ต้องทำแบบนี้บ้างเช่นกันครับ ผมมาอยู่นี่ที่เยอรมัน ก็ได้เพียงแค่ให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษากับคุณพ่อแม่และน้องๆ ที่บ้านผ่านโทรศัพท์เท่านั้นครับ เพราะผมเชื่อว่าแนวทางการเกษตรทำให้เรามีกินครับ แม้ว่าจะไม่ร่ำรวยเงินทอง แต่เรื่องน้ำใจเราก็ไม่น่าจะแห้งแล้ง เน้นการเกื้อกูลนะครับ ผมว่าผมช่วยได้เท่าที่ช่วยได้ อย่างน้อยผมไปตกรถแถวๆ ไหนก็ยังมีคนชวนเราไปดื่มน้ำซักขันก็นับว่ามีมิตรภาพที่ดีเยี่ยมแล้วครับ

ขอบพระคุณมากครับ

เม้ง

   แหม ว่าจะทายเสียหน่อย .. ชนิดไม่มีพลาด เพราะผมเพิ่งได้มีโอกาส ไปนั่งเสวนากับท่าน "ปริศนา" อย่างค่อนข้างจุใจ แต่รู้สึกว่ายังไม่พอ ... ตั้งใจว่าจะไปให้ถึงแปลงนา ให้ได้สักครั้งในไม่ช้า  เพราะเที่ยวคุยให้นักศึกษาและอาจารย์ฟังหลายหนแล้ว ทั้งๆที่ไม่เคยไป

P
Handy  

สวัสดีครับพี่บ่าว

  • อิๆๆ ขอบคุณมากครับ พลาดไปครับ ปราชญ์ของผมเข้ามาเสียก่อนครับ อิๆๆ ครั้งหน้าจะเอาปราชญ์ท่านอื่นมาให้ทายกันอีกครับ เราโชคดีครับ เมืองไทยมีปราชญ์อยู่เยอะแยะมากมายครับ เพียงแต่เราไม่ได้มีโอกาสเข้าถึงปราชญ์เหล่านั้น เพื่อนำความรู้ดีๆ มาบอกเล่าแล้วนำไปประยุกต์ใช้กันอย่างจริงจังครับ
  • ผมเสนอให้ตั้งสำนักงานปราชญ์แผ่นดินแห่งชาติ (สปผช.) ในการบูรณาการปราชญ์เข้าด้วยกันเพื่อทำแผนพัฒนาชาติอย่างแท้จริงครับ เพราะเราจะเข้าถึงชุมชนมากขึ้นครับ
  • ปัจจุบันเรามีปัญหาคือ เราลงไม่ถึงหัวใจของชุมชุน เมื่อลงไม่ถึงหัวใจของชุมชนก็อย่าหวังที่จะได้ สัมผัสกับชาวบ้านด้วยหัวใจ เลยครับ
  • บ้านผมยินดีต้อนรับพี่ๆ ปราชญ์ และกำลังจะเป็นปราชญ์ ตลอดทั้งญาติมิตรสหายทั้งหลายนะครับ
  • ขอบพระคุณมากครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท