สวัสดีค่ะคุณเม้ง
รีบมาตอบการทดลองค่ะ เลยไม่ได้ล็อกอิน
การทดลองนี้มองได้หลายแบบเลยนะคะ และ " คม " มากเลย...แต่ขออนุญาตมองแบบ " ต่างมุม " ไปอีกนิดนะคะ เพราะเราน่าจะนำไป " ประยุกต์ใช้ " ในสังคมได้บ้าง ตามคำถามท้ายบทที่คุณเม้งทิ้งท้ายไว้
การใส่ " น้ำดี " เพื่อแก้ไข หรือทำให้ " น้ำขุ่น " นั้นมีคุณภาพดีขึ้น เป็นสิ่งที่เรา ควรกระทำ อย่างน้อยก็ทำให้คุณภาพน้ำดูดีขึ้น และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ตามสมควร
แต่สิ่งที่ " น่าจะทำ " มากกว่านั้นคือการ " จัดการกับปัญหา " ที่ทำให้น้ำขุ่น อย่างเช่นการทดลองที่คุณเม้งกำหนดให้มีบิ๊กเกอร์สองใบ ใบหนึ่งน้ำขุ่น ใบหนึ่งน้ำใส
ถ้าเราเอาน้ำขุ่นใส่สลับกับน้ำใสในบิ๊กเกอร์ใบที่สาม เราอาจพบว่าต้องใช้ปริมาณน้ำใสมากกว่าน้ำขุ่นเยอะเพื่อทำให้เจือจาง ( ก็ไม่ได้บอกนี่คะว่า " ขุ่น " ระดับใด อิ อิ อิ ) และน้ำที่ผ่านการเจือจางก็อาจจะไม่มีคุณภาพเพียงพอแก่การใช้งานได้ ถ้าน้ำขุ่นนั้นขุ่นเกินไป ขุ่นข้นจน " น้ำใส " ที่มีไม่สามารถทำให้เจือจางลงจนอยู่ในระดับ " ใช้งาน " ได้น่ะค่ะ
เมื่อเป็นแบบนี้เราก็อาจจะสูญเสีย " น้ำใส " ไปจนหมด แต่ได้น้ำที่มีคุณภาพที่ไม่ดีเพียงพอมาสองบิ๊กเกอร์ ( ขุ่นสองบิ๊กเกอร์ )
แต่ถ้าเรามีการ " จัดการ " ที่ " สาเหตุ " ของน้ำขุ่น ร่วมด้วย เราอาจไม่ต้องเสียน้ำใส ไปทั้งหมดก็ได้นะคะ และไม่จำเป็นต้องมี บิ๊กเกอร์ที่สาม มาใส่เพื่อเจือจางน้ำ อย่างเช่นการใส่สารบางอย่างที่มีคุณสมบัติทำให้น้ำขุ่นนั้นใสขึ้นได้ เช่น สารส้ม ซึ่งมีลักษณะ ขาว แข็ง และก่อให้เกิดการรวมตัวของอานุภาคขนาดใหญ่ในน้ำจนเกิดการ " ตกตะกอน " และทำให้คุณภาพของน้ำขุ่นดีขึ้น โดยไม่ต้องเสียน้ำใสในอีกบิ๊กเกอร์ไป รวมทั้งเราสามารถนำ " ตะกอน " ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ต่อได้อีกตามสมควร ( อย่างบันทึกรวมตะกอนเด็ด เป็นต้น ฮี่ ฮี่ ฮี่ )
ผลที่ได้รับคือเราอาจเสียสารส้มไปนิดหน่อย แต่ได้ " น้ำใส " สองบิ๊กเกอร์ ซึ่งสามารถอยู่ร่วมกันได้และได้ตะกอนมารวมเป็นตะกอนเด็ดๆอีกหลายๆบันทึก อิ อิ อิ
การทดลองนี้จึงสามารถสรุปผลการทดลองได้ว่า...การเอา " น้ำดี " เจือจางเป็นสิ่งที่ควรกระทำ ร่วมกับการ " จัดการ " กับสาเหตุที่ทำให้น้ำขุ่น เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเจ้าค่ะทั่น
การทดลองนี้จึงสามารถสรุปผลการทดลองได้ว่า...การเอา " น้ำดี " เจือจางเป็นสิ่งที่ควรกระทำ ร่วมกับการ " จัดการ " กับสาเหตุที่ทำให้น้ำขุ่น เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเจ้าค่ะทั่น