เทคนิคพิชิตหัวข้อวิทยานิพนธ์
เมื่อวานได้เขียนบันทึกในเรื่องปัญหาของว่าที่ด็อกเตอร์ ในการหาหัวข้อวิทยานิพนธ์ วันนี้ก็เลยอยากจะถ่ายทอดประสบการณ์ของตนเอง ที่ว่ากว่าจะประสบความเร็จในการมีหัวข้อวิทยานิพนธ์เป็นของตัวเองได้ ได้ทำอะไรบ้าง เท่าที่จำได้ก็จะมีอย่างนี้ ค่ะ
1. ทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา ไม่ใช่แบบสร้างความวุ่นวายนะคะ คือ เริ่มตั้งแต่เรียนปี 1 เทอม 1 เลย ให้สงสัยทุกอย่างเข้าไว้ แล้วคิดไว้เสมอว่า จริงหรอ ทำไมอ่ะ ถ้าเป็นอีกอย่างไม่ได้หรอ พอมีปัญหาแล้วต้องหาคำตอบ วิธีการของดิฉันคือ หาอ่านจากที่ต่างๆ โดยเฉพาะในอินเตอร์เน็ต หาให้มันได้คำตอบ ถ้าอันไหนไม่มีคำตอบล่ะก็ เสร็จเรา มันอาจจะนำไปสู่หัวข้อวิทยานิพนธ์เราได้
2. ทำตัวเป็นเด็กช่างพูด พูดในเรื่องที่เรากำลังสนใจนี่แหละ เวลาคุยกับเพื่อนกับอาจารย์ ก็หาโอกาสคุยเข้าไปว่า หนูสนใจเรื่องนี้ค่ะพี่/อาจารย์ มันต้องมีซักคนแหละน่ะที่มีความรู้เรื่องที่เราสนใจอยู่ ซึ่งดิฉันพบเป็นประจำว่า พอบอกไป ก็จะมีเพื่อนบางคนบอกว่า อ๋อ เรื่องนี้หรอ พี่ไปอบรมมาเดี๋ยวหาเอกสารมาให้นะ หรือบางที อาจารย์ก็อาจจะมีข้อมูลที่บอกให้เราไปค้นคว้าต่อได้ เมื่อเป็นอย่างนี้ก็เสร็จเราอีก
3. ทำตัวเป็นเด็กย้ำคิดย้ำทำ คือว่าเมื่อสนใจเรื่องไหนแล้วให้ทิ้งดิ่งลงไปเลย เวลาอาจารย์ให้ทำรายงาน ทำวิจัยเล่นๆ ประกอบการเรียนรายวิชา (ป.เอก จะมีงานประเภทนี้เยอะ) ก็ให้ทำในเรื่องที่เราสนใจนี่แหละ แต่มันจะเป็นคนละแง่มุม หาไปเรื่อยๆ ข้อมูลจะสะสมอยู่ในตัวเราเอง ยิ่งทำมากยิ่งได้ข้อมูลที่หลากหลายมาก พอเป็นอย่างนี้พอเริ่มเขียนโครงร่างวิทยานิพนธ์ก็เสร็จเรา
4. ทำตัวเป็นเด็กหน้าด้านหน้าทน คือต้องทั้งด้านทั้งทน ต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ ของอาจารย์ เก็บข้อตำหนิมาปรับปรุงงานให้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าพออาจารย์บอกว่าเรื่องนี้ ไม่น่าสนใจก็ทิ้งแล้วไปทำเรื่องอื่น (คนส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนี้) ให้คิดว่าถ้าประเด็นนี้ไม่น่าสนใจ เราก็หาประเด็นใหม่(แต่เป็นเรื่องเดิมนะ) มานำเสนออาจารย์ใหม่ ซึ่งโดยส่วนตัวดิฉันคิดว่าการที่เราเสนอประเด็นไม่น่าสนใจ เกิดมาจากการค้นคว้าไม่มากพอ เพราะฉะนั้นจงอ่าน อ่าน และ อ่าน เพื่อค้นหาสิ่งที่น่าสนใจ แปลกใหม่ ให้ได้
5. เป็นเด็กขี้ขอ ขอคำปรึกษาทุกคนเพราะข้อมูลทุกข้อมูลมีค่าเสมอ
6. ทำตัวเป็นเด็กใจเร็วด่วนได้ เมื่อมีข้อมูลครบครัน รีบเขียนเป็นโครงร่างเลย เพราะบางทีสิ่งที่เราคิดกับสิ่งที่เขียนอกมาไม่เหมือนกัน เขียนแล้วเอาไปให้อาจารย์ ช่วยดูไปเรื่อยๆ
ก็คงประมาณนี้ ดิฉันใช้เวลาในการทำโครงร่างจนได้สอบเป็นเวลา ประมาณ 1 ปีครึ่ง แล้วได้สอบตอน ปี 2 เทอม 2 ซึ่งก็ถือว่า ไม่มากไม่น้อยในการเรียน แล้วอีกอย่างดิฉันอยากบอกว่า หลังจากสอบโครงร่างแล้วเวลาที่ยากยิ่งกว่าหาหัวข้อวิทยานิพนธ์ ก็คือดำเนินการวิจัยตามโครงร่างที่เราเขียนไว้ มันเหนื่อยกว่า 100 เท่า เพราะฉะนั้นอย่ามัวนิ่งนอนใจกับหัวข้อมากนัก ต้องเริ่มตั้งแต่ปี 1 เลย
แล้วอีกอย่าง คือ อยากบอกว่า หัวข้อวิทยานิพนธ์ไม่ได้หล่นมาจากฟ้า อยากได้ต้องหาเอาเอง ค่ะ
ความเห็น (14)
อยากบอกว่าชอบแนวคิดที่ให้ไว้มากค่ะ
ตอนนี้ตัวเองกำลังประสบกับปัญหาความไม่ลงตัวในการหาหัวข้อวิทยานิพนธ์อยู่ค่ะ
เอาเป็นว่าถ้ามีอะไรแนะนำเป็นพิเศษ รบกวนด้วยนะค่ะ
คิดซะว่าให้ความรู้เป็นทานอันประเสริฐ
ขอบคุณที่ให้แนวคิดดีๆ สำหรับการหาหัวข้อวิทยานิพนธ์ค่ะ
ส่วนตัวตอนนี้เรียน ป.โท ซึ่งกำลังแก้ไขหัวข้อค่ะ
สลับปรับเปลี่ยนไปมา กำลังเริ่มท้อมาแล้ว แต่อ่านแนวคิดนี้
ทำให้ต้องฮึดสู้อีกครั้งค่ะ
ขอบคุณนะคะ
ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำผมเพิ่งจบ ป.ตรี แต่สิ่งที่อยากสร้างมีเต็มหัวเลยยิ่งอ่านที่คุณพี่แนะนำแล้วยิ่งอยากคิดและอยากทำขึ้นไปอีกขอบคุณครับ
อ่าหัวข้อนี้แล้ว ค่อยมีกำลังใจหน่อย จบcross work แล้วค่ะ หัวข้อก็พอมีลางๆ แต่ที่กังวลคือ ตั้งหัวข้อเกินความสามารถของป.โทอ่ะ
อยากอบรมเรื่องของการพัฒนาตัวชี้วัด เพราะหัวข้อที่คิดไว้จำเป็นต้องใช้ แต่เหมือนไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลย ถ้ามีแนวทางช่วยบอกหน่อยนะคะ....ค่อยมีกำลังใจมาหน่อย
ประเสริฐมากค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีดีค่ะ..
08-0067-2646 หาคนแนะนำครับผมเรียนบริหารการศึกษาจบ
อืม...ยืนยันค่ะว่าเป็นดั่งที่คุณพูดมา สำหรับแป๋มแล้ว การพูดคุยกับผู้รู้ การจดบันทึกเป็นหัวใจสำคัญของการที่จะได้มาซึ่งหัวข้อการวิจัย ทุกอย่างต้องทำและสู้ด้วยตัวเองนะคะ แล้วทุกสิ่งก็จะดำเนินต่อไป..แม้จะช้าไปบ้างนิดนึง แต่เราจะได้ข้อมูลที่แน่นปั๋ง พร้อมสำหรับการสอบ"ออรัล" ด้วยความมั่นใจค่ะ
ขอเป็นกำลังใจครับ มันยากจริงๆๆ
ขอบคุณมากนะคะ เป็นประโยคกับตัวเอง ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ป.โท และอยู่ในช่วงหาหัวข้อค่ะ
ผมอ่านแล้วชอบมากๆ เลยครับ ได้หัวข้อแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำตัวเองให้มีนิสัย 6 ข้อ อย่างที่คุณทะเลใจบอกเลย ครับ คงต้องปรับปรุงอีกเยอะครับ ขอบคุณสำหรับข้อแนะนำดีๆ มีประโยชน์ครับ ขอให้โชคดีกับการทำวิทยานิพนธ์ ครับ
ขอบคุณมากๆนะคะ กำลังเริ่มคิดหัวข้ออยู่เลย
ขอบคุณครับ ที่มีไอเดียเจิดๆแบบนี้
เพราะตอนนี้กำลังจะจบตรี วุ่นกับการหาหัวข้อวิทยานิพนธ์
คิดไม่อออกอ่ะครับ
เร่งๆๆๆ
คิดหัวข้อไม่ออกจริงๆค่ะ
กรุณาขอความอนุเคราะห์ด้วยนะค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ