ฝนตก..
ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย
ในช่วงฤดูฝน............... ผู้ที่ขับขี่รถคงจะหลีกเลี่ยงการขับรถในช่วงที่ฝนตกไม่ได้ ซึ่งการขับขี่รถในช่วงดังกล่าว นอกจากถนนจะลื่นกว่าปกติแล้ว ทัศนวิสัยในการมองเห็น ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้น..... จึงมีข้อแนะนำสำหรับการขับขี่รถขณะฝนตกให้ปลอดภัยมาฝาก ดังนี้
ลดความเร็ว ........จากผลการศึกษาพบว่าช่วงที่ฝนเริ่มตกใน 10 นาทีแรก เป็นช่วงที่รถมีโอกาสแฉลบหรือลื่นไถลได้มากที่สุด เพราะเป็นช่วงที่ฝนชะล้างคราบดิน ฝุ่นละอองที่ติดอยู่บนพื้นถนนคล้ายกับละเลงโคลน การลดความเร็วของรถลง จึงเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งระดับความเร็วที่จะทำให้รถไม่ลื่นไถล ก็คือ 60 กม./ช.ม.
เปิดไฟหน้า-หลังรถ..... สภาพอากาศช่วงที่ฝนตก มักมืดครึ้มคล้ายช่วงหัวค่ำ ทำให้ผู้ขับขี่ การเปิดไฟทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นทางดีขึ้น แล้วยังช่วยให้ผู้ขับขี่รถคันอื่นสังเกตเห็นรถของเราได้ชัดเจนมากขึ้นด้วย
ไม่ขับรถชิดคันหน้ามากเกินไป........ เพราะสภาพถนนที่เปียกลื่น ทัศนวิสัยการมองเห็นที่ไม่ชัดเจนทำให้มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุในลักษณะลื่นไถลไปชนรถคันหน้าได้ง่าย ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้ามากกว่าการขับขี่ในช่วงเวลาปกติ 10-15 เมตร จะทำให้ปลอดภัยมากขึ้น
เปิดใบปัดน้ำฝน ........โดยปรับระดับความเร็วของใบปัดน้ำฝน ให้สัมพันธ์กับความรุนแรงและปริมาณฝนที่ตกลงมา
การใช้น้ำฉีดกระจก ....... ในช่วงที่ฝนเริ่มตก น้ำที่กระเด็นจากการดีด จะมีลักษณะเหนียวคล้านโคลน ซึ่งกรณีนี้แม้จะใช้ก้านน้ำฝนปัดก็ไม่สามารถปัดออกได้หมด ควรใช้น้ำฉีดกระจกช่วยชะล้างคราบโคลนเหล่านี้ แต่สิ่งที่ต้องระวังก็คือ ไม่ควรฉีดขณะที่ขับด้วยความเร็วสูง เพราะจะทำให้มองไม่เห็นเส้นทาง
ยาง ..... การขับขี่ช่วงหน้าฝน ควรเลือกใช้ดอกยางละเอียด จะทำให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะและการรีดน้ำดีขึ้น นอกจากนี้ควรเพิ่มแรงดันลมให้มากกว่าปกติ 2-3 ปอนด์/ตารางนี้ว เพื่อให้หน้ายางแข็ง จะช่วยให้ยางมีกำลังในการรีดน้ำดียิ่งขึ้น
ประการสำคัญ ถ้าในขณะที่ขับขี่แล้วรถเกิดการลื่นไถล ห้ามเหยียบเบรกจนล้อหยุดหมุนในทันที เพราะจะทำให้รถพลิกคว่ำได้ ให้แก้ไขโดยถอนคันเร่ง ควบคุมพวงมาลัยให้มั่นคง แล้วพยายามลดความเร็วโดยใช้เกียร์ต่ำ จนกว่ารถจะทรงตัวได้ จึงค่อยเยียบเบรก...............เพื่อหยุดรถ เพียงเท่านี้คุณก็จะปลอดภัย.................ไม่มีความเห็น