จากวันนั้นจนถึงวันนี้ต้องกล่าวได้ว่า Apple Inc. คือบริษัทชั้นนำด้านนวัตกรรมแห่งยุคสมัย ซึ่งเมื่อพูดถึงเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้นมาในอดีตจนถึงปัจจุบันแล้ว Apple คือบริษัทเดียวที่เป็นทั้งผู้ผลิตฮารด์แวร์ และซอฟท์แวร์ และถือได้ว่าเป็นต้นแบบของอุปกรณ์ที่มีระบบการติดต่อสั่งงานที่สะดวกและง่ายที่สุด (User Friendly) จนมีคนเคยกล่าวไว้ว่า ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ลึกซึ้งอะไรเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่ไม่เคยเรียนรู้มาก่อนก็ตาม ก็สามารถจะเริ่มต้นใช้งานได้อย่างสบายๆกับคอมพิวเตอร์ของ Apple นอกจากนั้นระบบปฏิบัติการที่มีอานุภาพสูง สวยงาม และน่าดึงดูดใจที่สุดจนถึงปัจจุบันก็ยังคงเป็นระบบปฏิบัติการ Mac OS ถึงแม้ว่าค่าย Microsoft จะพัฒนา Vista ขึ้นมาเทียบรัศมีแล้วก็ตาม
สิ่งซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีคือ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้ในการแสดงภาพและเสียงของค่าย Apple สู่ตลาดในวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 2001 ในชื่อไอพอด iPod ซึ่งมีขนาดเล็ก บาง พกพาสะดวก คุณภาพเสียงสุดยอดแบบทิ้งคู่แข่งทุกยี่ห้อของเครื่องเล่น MP3 แบบกระจุยไม่เห็นฝุ่น เหมือนกับที่ Sony เคยทำได้ในอดีตครั้งเปิดตัว Walkman นั่นเอง นอกจากความโดดเด่นในเรื่องรูปลักษณ์ที่ไฮโซสุดๆแล้ว เทคโนโลยีที่ Apple ใส่ไว้ในเครื่องเพื่อใช้ในการควบคุมสั่งการก็ถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง นับตั้งแต่รุ่นแรกที่ใช้การควบคุมแบบ scroll wheel ซึ่งผลิตโดยบริษัท Synaptics จนมาถึงการควบคุมแบบ clickwheel ใน iPod รุ่นที่ 4 นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องความจุ และความสามารถเพิ่มเติมด้านภาพและเสียงที่คู่แข่งยังตามไม่ทัน จนถึงปัจจุบันที่ได้พัฒนาต่อเนื่องเข้าสู่ยุคที่ 5 (5th Generation) แล้ว
Apple เลือกนวัตกรรมของระบบการควบคุมสั่งการที่โดดเด่นแตกต่าง ออกไปจากคู่แข่งที่ยังมุ่งเน้นไปที่การใช้ปุ่มกดเหมือนกันทุกรุ่นทุกยี่ห้อ การคิดออกนอกกรอบนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งซึ่งสะท้อนถึงการเป็นองค์กรนวัตกรรมอย่างแท้จริง “เพราะถ้าทำเหมือนกับที่บริษัทอื่นๆทำก็ไม่ใช่ Apple น่ะสิ” ดูจะเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงเลย
นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ Apple ยังคงมุ่งมั่นทำให้โลกตะลึงอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์ตระกูล MAC ที่ใช้ซีพียู (CPU) ใหม่ของ Intel เฉกเช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ทั่วไปในค่าย PC ทำให้ความสามารถของเครื่อง MAC ก้าวกระโดดขึ้นไปอย่างมากทั้งในเรื่องความเร็วที่เพิ่มสูงขึ้น ความร้อนของเครื่องที่ลดลง และที่เหนืออื่นใดคือสามารถติดตั้งระบบปฏิบัติการได้มากกว่า 1 ระบบ นั่นหมายความว่ากลุ่มลูกค้าที่คุ้นเคยกับ Microsoft แต่แอบมองด้วยความอิจฉาไปยังเครื่อง MAC จะได้ร้องเฮ เพราะสามารถซื้อเครื่องเดียวเหมือนได้ 2 เครื่อง (2 in 1) เปรียบได้กับการพกทั้งเครื่อง PC และเครื่อง MAC ไปในคราวเดียว
ล่าสุด Apple ยังคงเดินหน้าต่อเนื่องด้วยการกระโดดเข้าสู่ตลาดโทรคมนาคม ด้วยการแนะนำโทรศัพท์มือถือ iPhone ที่เพียงแค่เปิดตัวให้ชมรูปลักษณ์ และสมรรถนะบางอย่างก็ทำเอาค่ายมือถือที่เป็นเจ้าตลาดอยู่เดิมถึงกับตะลึง และเชื่อได้ว่าจะเป็นโทรศัพท์ที่จะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากผู้นำตลาดเดิมอย่างแน่นอน ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า iPhone ไม่มีปุ่มกดใดๆทั้งสิ้น แต่ใช้การควบคุมสั่งการผ่านการสัมผัสที่หน้าจอขนาดใหญ่ นับได้ว่าเป็นการปฏิวัติรูปแบบของโทรศัพท์มือถือ “ทำไมโทรศัพท์มือถือต้องมีปุ่มด้วย ถ้าไม่มีปุ่มมันจะไม่ใช่โทรศัพท์มือถือหรือไง” โดย iPhone จะเริ่มวางจำหน่ายในยุโรปและอเมริกาก่อนในปี 50 นี้ ส่วนเอเชียคงต้องรอปีหน้า
และนี่แหละคือคุณค่าของนวัตกรรม การคิดนอกกรอบ คิดไม่เหมือนใคร แหวกกฏเกณฑ์ความซ้ำซากจำเจแบบเดิมๆ แน่นอนถ้าทำได้ดีได้เนียบ ถูกอกถูกใจลูกค้า เงินทองย่อมไหลมาเทมาแน่นอน