การเลี้ยงลูกด้วยนำนมแม่


น้ำนมแม่ช่วยสร้างไอคิวและอีคิวและยังมีสารอาหารวิเศษช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ให้ลูกอีกด้วย
 เทรนด์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กำลังมาแรงสุด ๆ สำหรับคุณแม่ผู้รักและห่วงใยในสุขภาพของลูกน้อย ในงาน "นมแม่แฟร์ 2005" ที่โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล ลาดพร้าว เมื่อเร็ว ๆ นี้ พ.ญ.พรรณพิมล หล่อตระกูล จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล มาให้ความรู้แก่บรรดาคุณแม่คุณพ่อในการบรรยายเรื่อง "เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างไร ให้ไอคิวและอีคิวดีที่สุด" ว่า ไอคิวหรือความฉลาดทางสติปัญญา และอีคิวหรือความฉลาดทางอารมณ์นั้น ต้องพัฒนาควบคู่กันไปตั้งแต่แรกเกิด ถ้าคิดว่าพัฒนาอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วค่อยไปพัฒนาอีกอย่างตอนโตจะไม่สามารถทำได้ เพราะสมองเป็นกลไกมหัศจรรย์มาก เมื่อเซลล์สมองส่วนใดไม่ได้ใช้งาน ส่วนนั้นจะใช้การไม่ได้หรือหายไป ส่วนไหนที่ใช้งานประจำจะยิ่งแข็งแรง
                ช่วงแรกเกิดนั้น การมองเห็นเป็นการรับรู้ข้อมูลที่สำคัญมาก เมื่ออายุ 1 เดือนเด็กทารกจะมีความสามารถในการจ้องมองสิ่งที่สนใจ การกระตุ้นให้เกิดการส่งผ่านข้อมูลจากการพูดคุยของแม่และการให้นมแม่ ซึ่งมีไขมันชื่อไมอิลีน ที่จะไปห่อหุ้มเส้นใยประสาทในสมองลูกจะมีการสร้างเครือข่ายใยประสาทที่แข็งแรงและเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทำให้ส่งผ่านข้อมูลได้รวดเร็วราบรื่น เป็นผลให้ลูกตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถพัฒนาการเคลื่อนไหว การมองเห็น การได้ยิน พัฒนาภาษาและโครงสร้างอื่นที่สำคัญสำหรับชีวิตทั้งด้านอารมณ์ สังคมและสติปัญญา     "ความผูกพันทางอารมณ์มีผลต่อพัฒนาการของเด็กอย่างมาก จะเกิดขึ้นช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด ซึ่งตรงกับช่วงที่ให้นมลูก ถ้าเด็กได้รับนมแม่ในช่วงนี้อย่างต่อเนื่องจะเกิดความมั่นคงทางอารมณ์ เด็กจะอารมณ์ดี มีความเชื่อมั่นในตัวเอง พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ รอบตัวเพราะรู้สึกว่าในโลกนี้มีคนที่รักเขา นั่นคือแม่  เพราะการให้นมแม่มีกระบวนการโอบอุ้มและโต้ตอบระหว่างแม่และลูกขณะลูกดูดนมจากอกแม่ ได้สบตาแม่ จมูกได้กลิ่นกายแม่ ลิ้นรับรสน้ำนม หูได้ยินเสียงหัวใจแม่และเสียงรอบตัว จะเกิดความรู้สึกอิ่มสบายและผ่อนคลาย ส่วนเด็กที่ไม่ได้นมแม่จะเกิดสภาวะที่เรียกว่าหลีกเลี่ยง ซึ่งมักจะพบในกลุ่มเด็กที่ถูกละเลย อย่างเช่น ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กเหล่านี้จะหลีกเลี่ยงการมีความผูกพันกับคนอื่น"
                การให้นมแม่นอกจากจะช่วยสร้างไอคิวและอีคิวให้ลูกแล้ว น้ำนมแม่ยังมีสารอาหารวิเศษที่ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ให้ลูกน้อยด้วย ปัจจุบันคาดว่าเด็กไทยมากกว่าร้อยละ 50 มีภาวะแพ้ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะแสดงอาการเมื่อโตขึ้น โรคที่พบบ่อยได้แก่ แพ้อาหาร ผื่นแพ้ผิวหนัง โรคหืดและโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ ซึ่งโรคเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นเรื้อรังจนถึงวัยผู้ใหญ่ในงานเดียวกันนี้ รศ.นายแพทย์สุวัฒน์ เบญจพลพิทักษ์ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มาให้ความรู้เรื่อง "นมแม่กับโรคภูมิแพ้" ว่า เด็กเริ่มมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ได้ตั้งแต่ระยะที่เป็นทารกในครรภ์มารดา ไม่ใช่เริ่มตั้งแต่เกิดมา
                คุณหมอยกตัวอย่างงานวิจัย 12 ชิ้นซึ่งมีเด็กเข้าร่วม 8,183 คน พบว่าเด็กที่กินนมแม่อย่างเดียวนาน 1 เดือน มีอัตราการเป็นโรคหืดน้อยและยังพบน้อยกว่าเมื่อแยกวิเคราะห์เฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ (มีพันธุกรรมของโรคในครอบครัว) และล่าสุดจากการทบทวนผลงานวิจัยทั้งหมด 4,000 ชิ้นพบว่าการกินนมแม่อย่างน้อย 4-6 เดือน จะลดโอกาสการเกิดโรคหืดในเด็กเล็กได้ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะไม่เป็นโรคตอนโตขึ้นเพราะอาจมีปัจจัยอื่นๆ มาเกี่ยวข้อง เช่น สารก่อแพ้จากไรฝุ่น รังแคสัตว์เลี้ยง เกสรพืช สำหรับความเชื่อที่ว่า ขณะกำลังตั้งครรภ์และให้นมลูก คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงอาหารก่อแพ้ เช่น นมวัว ไข่ ถั่วและอาหารทะเลนั้น คุณหมอบอกว่า ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะสรุปว่าการงดอาหารอย่างนั้นสามารถป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้ในลูกได้ จึงไม่ควรทำ แถมยังทำให้เด็กขาดสารอาหารด้วย
                นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดของทารกและมีประโยชน์มากมาย เพราะมีสารอาหารที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอย่างเหมาะสมตามอายุลูกซึ่งจะช่วยให้ลูกฉลาดและแข็งแรง โดยเฉพาะโปรตีนในนมแม่ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้ในเด็ก มีสารต้านการอักเสบและภูมิคุ้มกันจากแม่ที่จะถ่ายทอดโดยตรงถึงลูกผ่านทางน้ำนม ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและไม่สบาย ทำให้เด็กไม่เสียโอกาสในการพัฒนาความสามารถไปกับความเจ็บป่วย ข้อมูลจากหลายประเทศยืนยันแล้วว่าเด็กที่ได้รับนมแม่จะมีระดับสติปัญญาสูงกว่าเด็กที่กินนมผสม และเด็กที่กินนมแม่จะลดโอกาสการเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ โรคระบบทางเดินอาหารและโรคภูมิแพ้
คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 11496เขียนเมื่อ 6 มกราคม 2006 16:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)
เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการเลี้ยงลูกด้วยนำนมแม่  นอกจากจะทำให้ลูกแข็งแรงแล้วยังทำให้ลูกมีภูมิต้านทานโรคที่ดีอีกด้วย  คุณแม่สมัยใหม่ไม่ต้องอายที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นะคะ
ทารกแรกเกิด-6 ปีจำเป็นต้องได้รับนำนมแม่อย่างเต็มที่เพื่อที่เด็กจะได้รับสารอาหาร วิตามิน และนำนมแม่ยังมีภูมิคุ้มกันโรคได้อีกด้วย
เห็นด้วยกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพราะนมแม่มีสารอาหารที่จะเป็นภูมิค้มกันให้กับลูกและยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแม่กับลูก
นมแม่เป็นสิ่งที่เด็กทุกคนควรได้รับเพราะในนมแม่มีประโยชน์สำหรับเด็กมากมาย  อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กได้ด้วย  การที่เด็กจะได้รับนมแม่จนถึงช่วงเวลาอันควรจึงเป็นสิ่งที่ดี  นอกจากนี้การให้นมแม่ยังเป็นสิ่งที่จะช่วยเสริมสร้างความรักของแม่ที่มีให้กับลูกได้อีกด้วย
เห็นด้วยกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะว่าน้ำนมแม่มีประโยชน์กับลูกมากที่สุด และยังทำให้ลูกแข็งแรงแล้วยังมีภูมิต้านทานโรคได้ดี อยากให้คุณแม่ทุกคนเห็นความสำคัญแล้วหันมาเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่กันนะคะ
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นก่อให้เกิดประโยชน์มากมายทั้งต่อตัวแม่และต่อตัวเด็กดังนั้นเห็นว่าเราควรที่จะสนันสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นอย่างยิ่งค่ะ
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นดีที่สุดเพราะว่านมแม่มีสารอาหารที่เด็กควรจะได้รับนั้นมีครบสมบูรณ์ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับลูก

บทความนี้เป็นอีกหนึ่งบทความที่ยืนยันได้ดีเกี่ยวกับประโยชน์อันมหาศาลของน้ำนมแม่และจากประสบการณ์จริงในการเติบโตมาโดยการรับประทานนมแม่ของข้าพเจ้าเอง  จะทำให้เห็นความแตกต่างว่าในวัยเด็กนั้นจะเป็นเด็กที่แข็งแรงและแจ่มใสเสมอ  ถ้าเทียบกับเพื่อนๆในวัยเดียวกันที่รับประทานนมผง  ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกหนึ่งคำยืนยันในการส่งเสริมให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมของแม่เอง  และยังเป็นการช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ของแม่กับลูกในขณะที่รับประทานนมด้วย

บทความนี้เป็นบทความที่เป็นประโยชน์เพราะการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นดีที่สุดเพราะน้ำนมแม่นั้นมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ลูกและทำให้ร่างกายของลูกแข็งแรงด้วย

เห็นด้วยยจากบทความเกี่ยวกับนมแม่เพราะนมแม่เป็นอาหารที่มีประโยชน์มากที่สุดสำหรับทารก ในนมแม่มีสารอาหารที่สร้างภูมคุ้มกันโรคต่างๆให้กับทารก  นมแม่มีสารอาหารที่ครบสมบูรณ์ช่วยให้เด็กร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง

จากบทความนี้ถ้ามีลูกก็จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แน่นอนค่ะ

เห็นด้วยกับบทความนี้ค่ะเพราะอาหารที่มีประโยชน์ต่อเด็กมากที่สุดคือนมแม่

 ต้องขอบคุณจริงๆสำหรับบทความที่เป็นประโยชน์เช่นนี้เพราะทำให้ผู้อ่านเข้าใจและเล็งเห็นคุณค่าของการให้นมแม่  สามารถทำให้ผู้ที่อ่านเกิดความรู้และสามารถนำข้อคิดจากบทความไปใช้ได้ในภายภาคหน้า
นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดของทารกและมีประโยชน์มากมาย เพราะมีสารอาหารที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอย่างเหมาะสมตามอายุลูกซึ่งจะช่วยให้ลูกฉลาดและแข็งแรง โดยเฉพาะโปรตีนในนมแม่ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้ในเด็ก ได้ค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท