ข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา (6)
ความเห็นของรัฐมนตรี
ในตอนที่แล้ว เล่าความเห็นในที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.48 โดยถอดเทปความเห็นของ ศ. สุมน อมรวิวัฒน์กับความเห็นของผม ที่จริงประธานหรือรัฐมนตรีจาตุรนต์ ฉายแสง ได้ให้ความเห็นที่ดีมาก หลังจาก ศ. สุมน พูดจบ จึงขอถอดเทปเรียบเรียงมาลงบันทึกไว้ ดังนี้
"ที่เสนอมา ผมเห็นด้วยส่วนหนึ่ง แต่ก็เห็นว่ามีความจำเป็นต้องใช้ส่วนกลางเข้าไปช่วยส่วนข้างนอก ที่จริงการดำเนินการที่กำหนดโดยส่วนกลางก็เอามาจากส่วนข้างนอก คิดว่าบางเรื่องจะยังคงมีปัญหาอีกต่อไป เช่นเรื่องหลักสูตร คำว่าหลักสูตรมีปัญหาคือ โรงเรียนหนึ่งมาบอกผมว่าหลักสูตรท้องถิ่น คือสอนเด็ก...(ฟังไม่ชัด) อีกโรงเรียนหนึ่งบอกว่าสอนเรื่องเกลือสินเธาว์ ครูโรงเรียนหนึ่งบอกว่าหลักสูตรสถานศึกษาหมายความว่าสถานศึกษาต้องคิดหลักสูตรเองทั้งหมด ซึ่งในกฎหมายก็ผิด เพราะว่าสถานศึกษามีหน้าที่จัดหลักสูตรเกี่ยวกับเรื่องของชุมชนท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่น และก็มีหลักสูตรแกนกลางอยู่แล้ว ครูยังอธิบายอีกว่า หลักสูตรแกนกลางกับหลักสูตรท้องถิ่นแบ่งเป็น 70:30 โดยที่ 70:30 ต้องมีอยู่ในทุกวิชา วิทยาศาสตร์ก็ 70:30 คณิตศาสตร์ 70:30 เขาบอกว่าเขาทำได้ โดยใส่เนื้อหาท้องถิ่นเข้าไป ยิ่งเขาอธิบาย ผมก็ยิ่งเป็นห่วง คือเข้าใจผิดทั้งนั้น ซึ่งสะท้อนออกมาที่การเรียนการสอน ในงานศพแห่งหนึ่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนในกรุงเทพแห่งหนึ่งนั่งใกล้ผม บอกว่าจะต้องรีบกลับจากงานศพเพราะจะต้องกลับไปเขียนรายงานให้เด็กอ่านในวิชาที่จะสอนเพราะไม่มีหนังสือ ผู้ปกครองมาบอกว่าสอนลูกไม่ได้แล้ว เพราะไม่มีหนังสือ ไม่รู้ว่าครูจะสอนอะไรต่อไป มีปัญหาความเข้าใจไม่ตรงกัน มีปัญหาจากเอกสารเล่มนี้ (หมายถึงเอกสารหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 ของกระทรวงศึกษาธิการ) ไปสู่สิ่งที่เด็กอ่าน ยังมีปัญหาอยู่ ไม่ได้ต้องการให้ส่วนกลางไปทำแทนหมด แต่ต้องไปทำให้เข้าใจชัดร่วมกันว่าควรจัดหลักสูตรท้องถิ่นอย่างไร บางโรงเรียนบอกว่าหลักสูตรท้องถิ่นคือให้กรรมการโรงเรียนช่วยกันคิด ผู้ปกครองมาบอกว่าทำไมโรงเรียนที่สมุทรสาครให้นักเรียนเรียนเรื่องประมงชายฝั่งที่สมุทรสาครเท่านั้น ทำไมไม่ให้นักเรียนเรียนเรื่องประมงอย่างกว้างขวาง นักเรียนควรได้เรียนกว้างขวางกว่าเรื่องแคบ ๆ เช่นชาวเขาอาจเรียนเรื่องชาติพันธุ์ วัฒนธรรม มีเนื้อหาสาระให้เรียนได้กว้างขวางมากมาย คำว่าหลักสูตรตามความเข้าใจของผมเข้าใจว่ามันโยงกันไปได้ตลอด พอหยิบหนังสือภาษาอังกฤษของโรงเรียนสตรีวิทย์มีเรียนจากละครบ้าง จากเพลงบ้าง เป็น Communicative English ดีมาก แต่ไปรอเพื่อนเป็นหมอ ลูกกำลังทำแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษอยู่ ผมเปิดหนังสือดู เป็นแกรมม่าร์ทั้งเล่มเหมือนสมัยผมเรียน ซึ่งจะเห็นว่าแม้ในกรุงเทพฯ ก็ลักลั่นกันมาก ไม่ต้องพูดถึงต่างจังหวัด ครูมาบอกว่าในต่างจังหวัดที่เขาทำได้โดยให้เด็กดูโทรทัศน์จากวังไกลกังวล ปรับเสาอากาศให้รับได้ ครูก็หมดเวลาแล้ว เป็นปัญหาทั้งการเรียนการสอนและปัญหาหลักสูตร
ปกหนังสือ
เล่มนี้ (หมายถึงเอกสารหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544) มีปัญหาคือไม่มีวิจัยและพัฒนา ที่เขียนมาไม่มีอ้างผลการวิจัย ในขณะที่ของต่างประเทศผมเคยเห็นของอเมริกา ทุกหน้ามีอ้างอิงผลการวิจัยว่าทำไมให้เรียนอย่างนี้ ผมจึงว่าส่วนกลางต้องวิจัย
ผมเสนอว่าต้องให้เขตพื้นที่ทำงาน แต่จะให้เกิดตามธรรมชาติที่เดียวก็ไม่ได้ เพราะเข้าใจต่างกันมากเหลือเกิน ก็จะต่างคนต่างทำกันไป ตรงนี้จะทำอย่างไรจะหาความพอดีได้อย่างไร"
เมื่อท่านพูดจบ ผมก็ยกมือขอเสนอความเห็นตามที่ได้ลงบันทึกไว้แล้วในตอนที่ 5
ในตอนที่ 7 จะลงบันทึกเรื่อง ข้อเสนอเรื่องผลการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาหลักสูตร
ข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา (1)
ข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา (2)
ข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา (3)
ข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา (4)
ข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา (5)
วิจารณ์ พานิช
30 ธ.ค.48
ไม่มีความเห็น