กลเม็ดในการเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กดี


การเลี้ยงลูก
   
     
 
 
พ่อแม่ทุกคนย่อมปรารถนา จะเห็นลูกหลานของตนเป็นเด็กดี ประพฤติตัวเป็นเด็กที่น่ารัก เพื่อที่จะได้รับความเมตตาเอ็นดู จากผู้ที่พบเห็น ซึ่งโดยธรรมชาติเด็ก ในช่วงปฐมวัยจะมี ความน่ารัก ไร้เดียงสา เป็นทุนในตัวเองด้วย ฉะนั้นหากพ่อแม่มีความตั้งใจจะ อบรมสั่งสอนให้เด็กมีพฤติกรรมที่เหมาะสมกับวัยอย่างต่อเนื่อง ลูกก็จะ สามารถซึมซับสิ่งที่พ่อแม่จะ นำมาใช้เป็นข้ออ้างอยู่ร่ำไปเมื่อลูกมีปัญหาด้านพฤติกรรม ที่ไม่เหมาะสม
 
แม้ว่าลักษณะของครอบครัวไทยเปลี่ยนไป ภาระของพ่อแม่เปลี่ยนไป สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป สังคมมีการต่อสู้มากขึ้น
 
     
  พ่อแม่ยิ่งต้องมีความเข้าใจในความเป็นมนุษย์การรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพื่อเป็นพื้นฐานของการบ่มเพาะนิสัยให้ลูกรู้จักเรื่องของ กาลเทศ ะ อันจะนำไปสู้ขั้นตอนของการรู้จักคิดวางตนให้มีพฤติกรรมที่เหมาะสม ก่อเกิดเป็นความน่ารักหรือ ความมีเสน่ห์ในตัวของเด็กคนนั้น  
     
 
โดยปกติแล้วช่วงระยะเวลาที่เด็กมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว จะเริ่มตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึงอายุราว 6 ปี แรกของชีวิต จกนั้นจะเริ่มช้าลง ถ้าจะเปรียบกับการก่อสร้าง ช่วง 6 ปีแรกของชีวิตเทียบ ได้กับช่วงที่กำลังเทปูน ซึ่งปูนยังไม่ทันที่จะแข็งตัว จึงสามารถปรับแต่งรูปทรงได้ตามที่ต้องการ พอช่วงอายุ 7 ปี ขึ้นไป เทียบได้กับช่วงระยะที่ปูนแข็งตัวแล้ว ยากที่จะปรับแต่งให้เป็นไปตามรูปทรงที่ต้องการได้ ดังนั้น ในช่วงอายุ 6 ปีแรกของชีวิต จึงเป็นระยะที่สำคัญที่สุดใน การวางรากฐานและสร้างเสริมคุณภาพของคน เพราะช่วง 6 ปีแรกของชีวิตสมองจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เด็กจึงมี ความรู้สึกรับรู้ สัมผัสทั้งรูป รส กลิ่น เสียง กายสัมผัส เด็กมี
 
 
     
 
 
ความสามารถเลียนแบบอย่างตั้งแต่แรกเกิด ทั้งยังสามารถที่จะเรียนรู้จากสภาวะแวดล้อม ซึ่งเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงได้อย่าง รวดเร็วและฝังรากลึกในจิตใจ ดังนั้นพ่อแม่เป็น ตัวอย่างที่ดีอย่างสม่ำเสมอลูกจะเข้าใจ และมีพฤติกรรมดังเช่นพ่อแม่ของตนนั่นเอง
 
หากขณะนี้ลูกมีนิสัย ที่ไม่ต้องประสงค์ ประการแรกพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ ที่อยู้รอบข้างของลูกต้องปรับตัวและเป็น ตัวอย่างที่ดีในเรื่องที่ต้องการจะแก้ไขให้ลูกเสีย ก่อน จากนั้นพึงพร่ำบ่ม อบรมเรื่องนั้นๆ อย่างต่อเนื่อง
 
     
  ซึ่งผลการวิจัยของนักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ได้ศึกษาค้นพบว่า ถ้าต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงนิสัยเด็ก ต้องอบรมเด็กตั้งแต่เล็ก เพราะ  
     
 
คนที่มีอายุไม่เกิน 5 ปี จะต้องใช้เวลาอบรมเรื่องที่ต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมนานถึง 1 เดือน
คนที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี จะต้องใช้เวลาอบรมเรื่องที่ต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมนานถึง 2.5 เดือน
คนที่มีอายุไม่เกิน 20 ปี จะต้องใช้เวลาอบรมเรื่องที่ต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมนานถึง 5 เดือน
คนที่มีอายุไม่เกิน 30 ปี จะต้องใช้เวลาอบรมเรื่องที่ต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมนานถึง 11 เดือน

คนที่มีอายุไม่เกิน 40 ปี จะต้องใช้เวลาอบรมเรื่องที่ต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมนานถึง 23 เดือน

คนที่มีอายุไม่เกิน 50 ปี จะต้องใช้เวลาอบรมเรื่องที่ต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมนานถึง 50 เดือน

คนที่มีอายุไม่เกิน 60 ปี จะต้องใช้เวลาอบรมเรื่องที่ต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมนานถึง 100 เดือน

 
     
 

ดังนั้น หากพ่อแม่อยากจะเปลี่ยนแปลงนิสัยของลูกรักแล้ว ก็พึงต้องใช้ความอดทนในการอบรมสั่งสอนซ้ำในเรื่องเดิมนานต่อเนื่องกันตามแต่ละช่วงวัยอายุข้างต้นนั่นเอง

 
 

 

 
 

ข้อมูลจาก : ทีมงานศูนย์สร้างสรรค์เยาวชน (กระจ่างนิติเกษตร) โทร 0-2437-2490

หมายเลขบันทึก: 112513เขียนเมื่อ 18 กรกฎาคม 2007 14:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 11:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

กลเม็ดนี้ค่อนข้างดีมากๆค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท