เมื่อตอนที่แล้วได้กล่าวถึงพงศาวดารจีนเรื่อง "ซวยงัก" ซึ่งก็น่าจะแปลได้ทำนองว่า "สรรเสริญคนตระกูลงัก" อะไรทำนองนั้น ในตอนนี้เรามาทราบชีวประวัติของขุนพลงักฮุยกันหน่อยครับ
ชีวะประวัติ เทพเจ้าขุนพลงักฮุย (เย่ว์เฟย/เยยะเฟย)
ทารกน้อยงักฮุย ถือกำเนิดตามปฏิทินจีน เมื่อวันที่ 15 เดือนที่ 2 ของศักราช จงหนิน (จงเล้ง) ปีที่ 2 ในรัชสมัยของพระเจ้าซ่งเฟยจง (ซ้งฮุยจง) พ.ศ. 1646 บริเวณฝั่งเหนือของแม่น้ำ หวงเหอ (อึ่งฮ้อ) ณ เมือง เซี่ยนโจว (เซียงจิว) ตำบล ทงอินเสี้ยน (ทึงอิมกุ่ย) ปัจจุบันคือเมือง ทงอินเสี้ยน (ทึงอิมกุ่ย) ในมณฑล เหอหนาน ณ หมู่บ้าน หย่งเหอเซียน (ย่งฮั่วเฮีย) หมู่เสี้ยวทุยหลี่ (เฮ้าทุยลี่) ณ บ้านชาวชนบทธรรมดาหลังหนึ่ง เด็กทารกคนหนึ่งเปล่งเสียงออกมาดูโลก เป็นเวลาเดียวกับที่พญาอินทรีย์ตัวหนึ่ง แผ่กางปีกผงาดบินข้ามกระท่อมน้อยที่เด็กทารกถือกำเนิด สร้างความตกตะลึงแตกตื่นแก่ผู้เป็นบิดาคือ เย่ว์เหอ (งักฮั้ว/งักหัว) จึ่งได้ตั้งชื่อนามแก่เด็กทารกว่า เฟย (แปลว่าบิน) นามรองว่า ฟ่งจวี้ (พ่งกื๋อ)
เมื่อเขาได้ถือกำเนิดมาในเวลาใกล้เดือนที่ 3 ซึ่งมักจะเป็นเทศกาลน้ำท่วมจากแม่น้ำหวงเหอ เกือบทุก ๆ ปี ปีนี้ดูเหมือนว่าน้ำจะท่วมรุนแรงกว่าทุกปี สายน้ำอันเขี่ยวกราดได้ไหลกระหน่ำจากทางทิศตะวันออกสู่ทางทิศตะวัตตก ได้กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง ไร่นาและะต้นไม้ใหญ่น้อย ล้วนล้มเป็นแถบ ๆ พื้นที่อันอุดมสมบูรณ์กลายเป็นผืนน้ำอันเวิ้งว้าง แม่น้ำ หวงเหอ อันตรายยิ่ง
บนระดับน้ำที่ท่วมเอ่อนี้
เต็มไปด้วยซากสัตว์ขึ้นอืดลอยตามน้ำมา และซากของต้นไม้ใบหญ้า
แต่ก็ยังมีชาวบ้านที่ใช้เรือช่วยชีวิตผู้คนที่ลอยเท้งเต้งอยู่บนสายน้ำ
ทันใดนั้น เสียงทารกน้อยร้องดังลั่นก้องกระหึ่ม
เสียงร้องก้องของทารกน้อยนี้อยู่บนเนินที่มีน้ำรายรอบ บนเนินนั้น
ในอ้อมอกของหญิงวัย 30 กว่าปี ปรากฏเป็นเด็กทารกน้อย
ซึ่งต่อมาก็คือเทพเจ้าขุนพลงักฮุยที่ยิ่งใหญ่นั่นเอง....
เมื่องักฮุยอายุได้ 23 ย่าง 24 ปี
(ตอนเด็กได้เรียนตำราพิชัยสงครามและฝึกการใช้อาวุธอย่างคล่องแคล่ว)
อยู่ที่เมืองทึงอิมกุ้ย
มีคนเอาของกำนัลมาให้เพื่อเกลี้ยกล่อมงักฮุยให้ไปเป็นกำลังของผู้ที่จะตั้งตัวเป็นใหญ่
(กบฏ) แต่งักฮุยโกรธไม่ยอมไป นางเอียวสีมารดางักฮุยมีความยินดี
ให้งักฮุยจัดเครื่องบูชามาวางที่หน้าโต๊ะเทพยดาในตึกที่อยู่
แล้วจึงใช้เหล็กแหลมและหมึกจีนสลักหลังงักฮุยเป็นอักษร 4 ตัวว่า
จินจงเป้ากว๋อ | แปลความว่า เก่งกล้าภักดีพลีชีพเพื่อชาติ/มีความกตัญญูต่อเจ้านายไปจนตลอดชีวิต | ||
ขณะนั้นมีขุนนางในพระเจ้าซ้องเกาจงฮ่องเต้ ถือหนังสือรับสั่งมาเรียกงักฮุยไปช่วยการแผ่นดิน นางเอียวสีมารดาจึงบองให้งักฮุยไปทำราชการอาสาแผ่นดิน เริ่มด้วยตำแหน่งแม่ทัพหน้า โดยมีทหารคู่ใจ 800 คน ภาระกิจหลักคือทำการต่อสู้กับกองทัพของอริราชศัตรูคือกองทัพของ "กิมงิดตุด"
พองักฮุยมาเป็นแม่ทัพหน้า ก็มีนายทหารฝีมือดีหลายคนอาสามาอยู่ในบังคับของงักฮุยจำนวนมาก งักฮุยนำทหารกองหน้า 800 คน ใช้กลอุบายและฝีมือเข้าต่อสู้และขับไล่กองทัพหน้าของกิมงิดตุดที่มีกำลังพลถึง 50,000 คน ให้ถอยทัพไปได้ ครั้งต่อมางักฮุยผู้เดียวก็ไปโจมตีกองทัพหน้าของกิมงิดตุดแต่ผู้เดียวเพื่อล่อกองทัพเข้ามาในซอกเขา แล้วก็ใช้ไฟคลอกเผากองทัพข้าศึกล้มตายเป็นอันมาก เมือหนีลงน้ำ ก็ปล่อยน้ำที่ทดเอาไว้มาท่วมทหารข้าศึก
สรุปว่า กำลังทหารของงักฮุยเพียง 800 คน สามารถตรึงกำลังพลของกิมงิดตุด 300,000 คน ไม่ให้ยกทัพข้ามแม่น้ำอึ้งโหไปได้......
ไม่มีความเห็น