ข้อเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา (5)
ความเห็นของกรรมการ
คณะกรรมการชุดนี้ประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.48 เวลา 09.30 - 12.30 น. โดย รมต. ว่าการกระทรวงศึกษาฯ เป็นประธาน ผมไปประชุมสายเนื่องจากติดงานของ สสส. คือไปถึงประมาณ 10.30 น. โชคดีที่ทันได้ฟังข้อเสนอของ ศ. สุมน อมรวิวัฒน์ ดังนี้
"ดิฉันเห็นว่าการทำยุทธศาสตร์นั้น เราอย่าพัฒนากระดาษมากกว่าพัฒนาคน ควรเน้นยุทธศาสตร์ที่ 2 (พัฒนากระบวนการเรียนการสอน) และยุทธศาสตร์ที่ 3 (พัฒนาครู) โดยใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง อย่าลุยไปจากว้งจันทร์เกษม ให้ไปลุยที่เขตพื้นที่ 175 แห่ง ใช้ยุทธศาสตร์การสร้างชุมชนคนทำดี (Community of Practice) แสวงหาครูที่สอนดี ผู้บริหารที่บริหารเก่ง ซึ่งมีอยู่มาก แต่อย่าเอามาลงกระดาษเล่มหนา ซึ่งจะไม่มีคนอ่าน ต้องเอาไปสร้างเครือข่ายและขยายเครือข่ายออกไป อย่าเน้นการฝึกอบรมแต่ไม่ทิ้งการฝึกอบรม สิ่งที่จะทำประการแรกคือหาชุมชนคนทำดี ทั้งครู คณาจารย์ ผู้บริหาร ประการที่ 2 ให้ครูเกิดแรงกระตุ้นที่จะพัฒนาตนเองโดยไม่ทิ้งชั้นเรียน ต้องเป็นการพัฒนาที่โรงเรียน กระตุ้นโดยเปิดช่องทางและสนับสนุนครู เปิดช่องทางที่กว้างโดยระดมราชการและเอกชนที่ quality (สมศ. อาจเป็นผู้ certify) จะเป็นผู้เปิดการฝึกอบรมทักษะเฉพาะด้านได้ เช่นอบรมคอมพิวเตอร์ ประการที่ 3 สร้างความเข้มแข็งให้สถานศึกษา โดยผู้ช่วยสร้างความเข้มแข็งเป็นคนในพื้นที่ ได้แก่ครูในชุมชน ครูปราชญ์ชาวบ้าน ครูสื่อ เป็นต้น โดยเน้นการบริหารแบบลงป่า ให้ป่าล้อมวังจันทร์เกษม ไม่ใช้วิธีบริหารสายอำนาจดิ่งเดี่ยวลงไปจากส่วนกลาง เพราะจะไปสร้างอุปสรรคมาก"
เอกสารชิ้นหนึ่งที่แจกในที่ประชุมคือ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 จัดพิมพ์โดยกระทรวงศึกษาธิการ ท่าน รมต. เล่าว่าท่านไปเยี่ยมโรงเรียน พบว่าครูตีความเรื่องหลักสูตรแตกต่างกัน มีการตีความผิด ๆ จึงคิดว่าบทบาทของส่วนกลางมีความสำคัญ จะต้องหาความพอดีระหว่างบทบาทของส่วนกลางและการส่งเสริมการดำเนินการในระดับเขตพื้นที่และโรงเรียน
ผมได้เสนอความเห็นดังนี้ "ผมขอสนับสนุน ศ. สุมน โดยจะต้องหา "หัวใจ" ของยุทธศาสตร์ให้พบเสียก่อน ว่าจะใช้ยุทธศาสตร์อะไร เสนอให้ใช้ยุทธศาสตร์ที่กลับหลังหันกับยุทธศาสตร์ที่ใช้อยู่เดิม แต่พูดอย่างนี้อาจผิดหรือแรงเกินไป คือจริง ๆ แล้วหายุทธศาสตร์ใหม่เข้ามาเป็นยุทธศาสตร์หลัก ส่วนยุทธศาสตร์เดิมก็คงไว้บ้าง ให้เกิดความพอดี เพราะของเดิมไม่ผิดทั้งหมด มีบางส่วนที่ยังใช้ได้ ในแนวทางเดิมเรามีสมมติฐานว่าครูไม่มีความรู้ จึงต้องจัดการฝีกอบรมหรือเอาความรู้ไปให้ ความรู้ที่เอาไปให้ส่วนใหญ่มีธรรมชาติเป็นความรู้เชิงทฤษฎี เวลาเอาไปใช้ครูจะต้องเอาไปปรับให้เหมาะสมต่อบริบทของโรงเรียนที่ไม่เหมือนกัน ในยุทธศาสตร์ความดีเชื่อว่า มีโรงเรียนที่มีความสำเร็จหรือผลงานเด่นเป็นด้าน ๆ โรงเรียนละด้านหรือหลายด้าน เมื่อทางกระทรวงฯ มีความต้องการให้เกิดผลเรื่องใด อย่างไร ก็ประกาศเป็นนโยบายผลสำเร็จ ระบุผลสำเร็จที่ต้องการให้ชัดเจนในแต่ละด้าน แล้วกระทรวงศึกษาฯ ส่วนกลางตามออกไปค้นหาว่ามีโรงเรียนใดบ้างที่มีผลงานความสำเร็จแต่ละด้านที่ประกาศ เท่ากับว่าใช้ยุทธศาสตร์ค้นหาความสำเร็จ ภายใต้ความเชื่อว่ามีความสำเร็จอยู่แล้วตามโรงเรียนต่าง ๆ เดิมเราใช้วิธีคิดว่าไม่มีความสำเร็จอยู่ตามโรงเรียน ต้องเปลี่ยนใหม่เป็นเชื่อว่ามี และวิธีการจัดการของส่วนกลางต้องเปลี่ยนจากการสั่งเป็นตามไปดู ตามไปหาให้พบ ส่วนกลางต้องเปลี่ยนภารกิจจากการสั่งเป็นไปหาความดี ต้องไม่เน้นไปหาข้อบกพร่อง แต่เน้นไปหาความดี ความสำเร็จ สำหรับเข้าไปหนุนความดีและขยายเครือข่ายไปยังโรงเรียนอื่น ๆ ภายในเขตพื้นที่และข้ามเขตพื้นที่ โดยวิธีนี้จะเป็นการส่งเสริมศักดิ์ศรีของครู ที่ผ่านมาความล้มเหลวของการพัฒนาครูประจำการก็คือ ครูประจำการที่ทำความดีไม่ได้รับการดูแลมากเท่าที่ควร เราไปเอาใจใส่หรือเน้นการแก้ปัญหามากกว่า เช่น แก้ปัญหาหนี้สินและปัญหาอื่น ๆ ของครู ไม่ได้มียุทธศาสตร์ส่งเสริมครูดีให้ขยายความดี จึงเสนอให้กำหนดเป็นยุทธศาสตร์หลักว่าในการพัฒนาครูจะเดินเรื่องด้วยความสำเร็จและความดีเป็นหลักใหญ่ ส่วนยุทธศาสตร์แก้ปัญหาและฝึกอบรมถือเป็นยุทธศาสตร์รอง และจะต้องไปสนับสนุนกิจกรรมเครือข่ายความดีของครู ซึ่งหมายความว่ากระบวนทัศน์ของการพัฒนาครูจะเน้นพัฒนา ณ จุดที่ตั้ง พัฒนาโดยการทำงาน พัฒนาโดยการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของความสำเร็จของงาน เราจะทำได้เร็วมาก แต่คนที่จะต้องเปลี่ยนหรือพัฒนาก่อนคือคนตรงกลาง"
ผมถอดเสียงการประชุมโดยปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ นี่คือข้อดีของการมีเครื่องบันทึกเสียงติดตัวอยู่ตลอดเวลาไว้บันทึก "ความรู้ฝังลึก" ครับ
ข้อเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา (1)
ข้อเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา (2)
ข้อเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา (3)
ข้อเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา (4)
วิจารณ์ พานิช
30 ธ.ค.48
ไม่มีความเห็น