อาหารถนอมดวงตา(สายตา)


ท่านผู้อ่านอาจจะทักว่า คุยกันทีไรดูจะมีแต่เรื่องดีๆ นโยบายของเรา (บ้านสุขภาพ) คือ จะไม่นำเรื่องร้ายมาฝาก...เพราะเราทุกคนต่างก็ฟังเรื่องร้ายๆ มามากพอแล้ว...

Hiker 

เราๆ ท่านๆ คงจะอยากมีอายุยืนและมีสุขภาพดี แต่คนที่มีอายุยืนมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะตาบอดจากเรตินาส่วนกลางเสื่อม (macular degeneration) และอาจทำให้ตาบอดได้

ท่านผู้อ่านอย่าเพิ่งตกใจ เพราะมีข่าวดีเกี่ยวกับดวงตามาฝาก...

ท่านผู้อ่านอาจจะทักว่า คุยกันทีไรดูจะมีแต่เรื่องดีๆ

นโยบายของเรา (บ้านสุขภาพ) คือ จะไม่นำเรื่องร้ายมาฝาก ถ้ามีเรื่องร้าย...เราจะทำให้มันบรรเทาเบาบางลง หรือไม่นำมาเล่า เพราะเราทุกคนต่างก็ฟังเรื่องร้ายๆ มามากพอแล้ว...

โรคจอรับภาพส่วนกลาง (macular) เสื่อมเป็นสาเหตุนำที่ทำให้คนสูงอายุตาบอดในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ฯลฯ

คนผิวขาว(ฝรั่ง)ที่มีอายุเกิน 80 ปีจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ 1 ใน 10 นั่นคือ 10 คนเป็นโรคที่อาจทำให้ตาบอด 1 คน

 

โรคนี้จะทำให้เกิดเส้นเลือดใหม่ขึ้นในจอรับภาพส่วนกลาง (macular) เส้นเลือดที่เกิดขึ้นเป็นเส้นเลือดที่ผิดปกติ จึงมีของเหลวและเลือด “รั่ว” ออกมา การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีส่วนทำให้ตาบอดได้ในที่สุด

อาจารย์ ดร.เรดเมอร์ วาน ลิวเว็น แห่งศูนย์การแพทย์อีราสมัส ในร็อทเทอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ทำการศึกษาคนสูงอายุในเมืองร็อทเทอร์ดามมากกว่า 4,000 คนเป็นเวลา 8 ปี

การศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่กินอาหารที่มีกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) ได้แก่ วิตะมินซี วิตะมินอี เบต้าแคโรทีน และสังกะสีสูงมีความเสี่ยงจากโรคจอรับภาพส่วนกลางเสื่อมลดลงถึง 35 % หรือประมาณ 1 ใน 3

ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่กินอาหารที่มีสารอาหาร 4 ชนิดนี้ต่ำมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นถึง 20 %

อาจารย์ ดร.เรดเมอร์กล่าวว่า การได้รับสารอาหารจากธรรมชาติดีกว่าสารสกัดเม็ด และแนะนำให้กินอาหารต่อไปนี้ให้เพียงพอ

  • วิตะมินอี:                                                          
    วิตะมินอีมีมากในธัญพืชครบส่วน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีตหรือขนมปังสีรำ ฯลฯ น้ำมันพืช ไข่ นัต(เมล็ดพืชกระเทาะเปลือก) เช่น อัลมอนด์ ถั่วลิสง ฯลฯ
  • สังกะสี:                                                             
    สังกะสีมีมากในเนื้อแดง เช่น วัว หมู ฯลฯ เนื้อสัตว์ปีก เช่น ไก่ เป็ด ฯลฯ ปลา ธัญพืชครบส่วน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ฯลฯ และผลิตภัณฑ์นม
  • เบตาแคโรทีน:                                                  
    เบต้าแคโรทีนมีมากในแครอท ผักขม เคล(kale เป็นพืชชนิดหนึ่งในตระกูลมัสตาร์ด)
  • วิตะมินซี:                                                          
    วิตะมินซีมีมากในผลไม้ตระกูลส้ม บร็อคโคลี มันฝรั่ง พริกเขียว (green pepper) 

    แหล่งที่มา:                 

  • ขอขอบคุณ > Andrew Stern. Vitamin-rich diet cuts risk of vision malady: study. > http://go.reuters.com/newsArticle.jhtml?type=healthNews&storyID=10703531&src=eDialog/GetContent > December 29, 2005. (source: JAMA, December 2005).
  • คำอธิบาย kale (Brassica oleracea var. acephala)” ค้นจาก www.dictionary.com > December 29, 2005.
  • ขอขอบพระคุณ > โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี + อาจารย์เทวินทร์ อุปนันท์ IT
  • ขอขอบพระคุณ > ศูนย์มะเร็งลำปาง + อาจารย์ ณรงค์ ม่วงตานี และอาจารย์เทพรัตน์ บุณยะประภูติ IT
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ จัดทำ > ๒๙ ธันวาคม ๒๕๔๘ > ปรับปรุงแก้ไข > 7 พฤษภาคม 2550.
หมายเลขบันทึก: 10939เขียนเมื่อ 29 ธันวาคม 2005 12:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

แวะมาเก็บสาระดี ๆ ค่ะ

อาจารย์หมอวัลลภค่ะ

  • ตามมาอ่านครับ
  • กลับมาเมื่อไรครับ
  • ชาวบ้านเขื่อว่ากินผักบุ้งทำให้สายตาดีจริงหรือไม่ครับ
  • ขอบคุณคุณหมอมากครับ

ขอขอบคุณ... คุณมะปรางเปรี้ยวและท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • เพิ่งกลับจากศรีลังกา > "อายุบวร" (= สวัสดี ขอท่านพึงมีอายุยืน) + "อิสตูติ้" (= ขอขอบคุณ)...
  • ขอขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน
  • ขอขอบคุณที่ให้กำลังใจ

ขอขอบคุณอาจารย์ขจิตและท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • เพิ่งกลับจากศรีลังกา > "อายุบวร" (= สวัสดี ขอท่านพึงมีอายุยืน) + "อิสตูติ้" (= ขอขอบคุณ)...
  • ขอขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน
  • ขอขอบคุณที่ให้กำลังใจ

ผักบุ้ง...

  • ผักบุ้งมีวิตะมินเอสูง มีส่วนทำให้สายตาดีได้จริง...
  • ผักบุ้งจีนมีแคโรทีน 2,573 ไมโครกรัม วิตะมินเอ 429 ไมโครกรัม (จากอาหาร 100 กรัม)
  • ผักบุ้งไทยมีแคโรทีน 889 ไมโครกรัม วิตะมินเอ 148 ไมโครกรัม (จากอาหาร 100 กรัม)
  • ผักบุ้งไทย-ต้นแรงมีแคโรทีน 691 ไมโครกรัม วิตะมินเอ 115 ไมโครกรัม (จากอาหาร 100 กรัม)

ที่มา:

  • Thai food composition. สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • คุณสุภา เกียรติก้องแก้ว เอื้อเฟื้อข้อมูล

วิตะมินเอ:

  • วิตะมินเอช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรคเยื่อบุ เช่น เยื่อบุตา เยื่อบุทางเดินอาหาร เยื่อบุทางเดินหายใจ ฯลฯ

หวาดเด่คับคือผมอยากทราบว่าผมไปตรวจสายตามาร้านแว่นบอกผมว่าผมมีอาการแพ้แสงมากคับ เวลาผมมองที่ที่มีแสงมากๆจะเกิดอาการแสบตามากเลยคับจนน้ำตาไหลออกมาเองเลยคับ ผมอยากทราบว่าจะมีวิธีรักษาไมคับ เช่นกินผัก วิตามินอาไรพวกนี้อะคับ  เพาะผมไม่อยากใส่แว่นอะคับ  ช่วยตอบคำถามผมด้วยนะคับ ส่งเมลมาที่เมลผมนะคับ        

[email protected] 

ขอขอบคุณ... คุณเพชร

  • วิธีลดอาการแพ้แสงมีอย่างนี้ครับ...
  1. สวมแว่นกันแดดเมื่อออกไปที่จ้า
  2. ใช้ที่บังแดด หมวก หรือร่มเมื่อออกไปกลางแดด เพื่อลดแสงกระเจิง
  3. เลี่ยงลม และฝุ่น เนื่องจากคนที่แพ้แดดมีแนวโน้มจะแพ้ลม และฝุ่นด้วย
  4. บางคนทุเลาลงด้วยการใช้น้ำตาเทียม (เปิดแล้วควรเก็บในที่เย็น และใช้ได้ไม่เกิน 1 เดือน) ถ้าอายุน้อย... น้ำตาเทียมไม่ค่อยมีความจำเป็น

วิตะมินเอ (A) และธาตุสังกะสี (zinc / Zn) อาจมีส่วนช่วยให้เยื่อบุตาทำงานได้ดีขึ้น

  • อาหารต่อไปนี้ช่วยได้...
  1. พืชผักสีเหลือง - ส้ม เช่น ฟักทอง ข้าวโพด แครอท ฯลฯ
  2. เมล็ดพืช เช่น เมล็ดฟักทอง ฯลฯ (ไม่ควรกินทุกวัน เนื่องจากอาจทำให้อ้วน หรือได้รับไขมันมากเกิน) กินสัปดาห์ละครั้งก็พอ
  3. ผักใบเขียว กินผักหลายๆ อย่างสลับกัน หมุนเวียนเปลี่ยนชนิดกันไป

สวัสดีค่ะ อาจารย์

สายตาสั้นมากว่ายาว ไม่ใส่แว่นอ่านหนังสือค่ะ พยายามถนอมดวงตาค่ะ  เห็นอาจารย์เงียบไปค่ะ ไม่อยู่นี่เอง

  • สวัสดีค่ะ เข้ามาพบบันทึกดีๆมีประโยชน์มากค่ะ
  • ดิฉันเป็นโรคตาแห้ง  คุณหมอให้น้ำตาเทียมมาหยอดวันละ 4 ครั้ง  และไปพบหมอทุก 2 เดือน
  • มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ไหมคะ
  • ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

ขอขอบคุณ... อาจารย์ลำดวน

  • โรคตาแห้ง หรือตามีน้ำตาน้อยลง... ส่วนใหญ่รักษาไม่หายขาด
  • การรักษาเป็นเพียงบรรเทาอาการ เช่น ใช้น้ำตาเทียม ฯลฯ
  • การหลีกเลี่ยงแดด ฝุ่น ลม โดยเฉพาะลมแห้งที่มาจากเครื่องปรับอากาศไม่ให้ส่องมาตรงหน้ามีส่วนช่วยได้
  • ผมเองก็มีปัญหาตาแห้งเช่นกันครับ...
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท