กิจกรรม 5 ส นี้ผมถือว่ามีความสำคัญมากเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพ นำไปสู่เป้าหมายสำคัญคือวินัยของเจ้าหน้าที่ หากจัดกิจกรรมอย่างเหมาะสมสามารถสร้างวินัย 5 ประการตามแนวคิดของ Peter M. Senge ได้ด้วย
ผมได้รับเชิญจากศูนย์อนามัยที่ 8
นครสวรรค์ให้ไปเล่าเรื่องการพัฒนาHAให้ทีมงานของศูนย์ โดยจัด 2 รุ่น เช้า-บ่าย
ที่ห้องประชุมของศูนย์
ซึ่งผมเองก็มักใช้สไลด์บรรยายเดิมแต่จะปรับเปลี่ยนไปบ้างตามสถานที่หรือจุดเน้นของผู้เชิญรวมทั้งเวลาที่ต้องบรรยาย
ส่วนใหญ่ผมจะเตรียมไว้เกินมากกว่าขาด
เพราะถ้าขาดแล้วกลัวว่าไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
แต่เหตุการณ์แบบนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้น ส่วนใหญ่จะเลยเวลามากกว่า
แสดงว่ายังเป็นผู้บรรยายที่ไม่ดีเพราะควบคุมเวลาไม่ได้
ทั้งภาคเช้าและบ่าย ผมใช้สไลด์และการบรรยายชุดเดียวกัน
ตอนบ่ายขณะพูดๆอยู่
บางครั้งก็รู้สึกงงๆเหมือนกันว่าอันนี้พูดไปแล้วหรือยัง
เพราะรู้สึกเหมือนจะพูดไปแล้ว
เนื่องจากเวลาพูดเช้ากับบ่ายห่างกันไม่มากนัก
เท่าที่สังเกตผู้ฟังทั้งเช้าและบ่ายก็หลับน้อยมาก (คิดว่าไม่เกิน 5 คน
หากพิจารณาเฉพาะเวลา)
เนื้อหาหลักที่ผมพูดก็จะเป็นการโน้มน้าวให้เห็นความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพ
การเกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่างๆที่กำลังนิยมกันอยู่ในปัจจุบันและเน้นหนักไปที่ตัวแบบบ้านคุณภาพ
ที่มีการพัฒนาคุณภาพ 10 ขั้นตอน คือ
- เริ่มต้นที่ฐาน ก็เน้นการทำ 5 ส แบบเข้าใจ
เข้าถึงแนวคิดหลักการที่ถูกต้อง ทำให้ลึกลงไปถึงเนื้องานประจำ
ไม่ติดที่รูปแบบกิจกรรม ขีดสีตีเส้นและเน้นการทำเป็นทีม ซึ่งกิจกรรม 5
ส นี้ผมถือว่ามีความสำคัญมากเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพ
นำไปสู่เป้าหมายสำคัญคือวินัยของเจ้าหน้าที่
หากจัดกิจกรรมอย่างเหมาะสมสามารถสร้างวินัย 5 ประการตามแนวคิดของ
Peter M. Senge ได้ด้วย
ส่งผลให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ง่ายขึ้น
- สร้างบ้านน่าอยู่ ทำโรงพยาบาลให้เหมือนบ้านหลังที่สอง
ทำที่ทำงานให้น่าอยู่น่าทำงาน สร้างบรรยากาศความเป็นกันเอง
จัดสวัสดิการให้เหมาะสม
กฎกติกาของโรงพยาบาลให้ปฏิบัติเสมอหน้ากัน
- ผู้บริหารต้องรู้ ยอมรับที่จะทำ ไม่ใช่พยักหน้ายอมรับแต่ไม่ทำจริง
ต้องทำหน้าที่ทางการบริหารได้ครบ วางแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการได้
กำหนดทิศทางขององค์การได้ชัดทั้งในระดับโรงพยาบาล
และระดับหน่วยงาน
- นำสู่เจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่มีความมุ่งมั่นที่จะทำ
ให้ความรู้ตามความจำเป็นที่ต้องใช้ สร้างความฝันร่วมกัน
- สามัคคีคือพลัง สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
รักกันโดยใช้กิจกรรมโอดีและมินิโอดี
- ตั้งทีมพัฒนา ใช้หลัก 3 ประสานคือทีมนำ ทีมทำ ทีมหนุนหรือทีม 3
ฝัน ตั้งกรรมการอย่างเหมาะสม ไม่มากเกินไป กำหนดบทบาทที่ชัดเจน
ติดตามงานอย่างเหมาะสม
ทีมต่างๆต้องสอดคล้องกับการจัดการกระบวนการของโรงพยาบาล
- ค้นหาหลักการ เน้นหลักการง่ายๆคือลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง,
ทำงานเป็นทีม, พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
โดยทบทวนความเสี่ยงสำคัญก่อนแล้ววางระบบแก้ไข
เมื่อทำได้ดีก็จัดทำเป็นเอกสารเพื่อประกันคุณภาพ
เมื่อทำไประยะหนึ่งแล้วก็คิดหาวิธีการให้ดีมากขึ้นด้วยกระบวนการCQI
- สานสู่การปฏิบัติ โดยทำงานประจำให้ดี มีอะไรให้คุยกันและขยันทบทวน
ซึ่งก็เป็นการใช้หลักPDCAนั่นเอง
ในส่วนทบทวนความเสี่ยงเริ่มต้นจากการทบทวน 12 กิจกรรมเน้นทำเป็นทีม
ประเมินตนเองเพื่อดูว่าตนเองเป็นอย่างไรบ้าง เขียนUnit profileเพื่อให้รู้จักตนเองมากขึ้น
หลังจากนั้นก็ดูว่าในแต่ละขั้นแต่ละส่วนมีระบบควบคุมเพื่อป้องกันความเสี่ยงครบถ้วนหรือยังและเมื่อมีครบแล้วอันไหนที่ควรทำให้ดีขึ้นอีก
อย่าทำกิจกรรมตามคนอื่นเพียงเพื่อให้มีกิจกรรมเท่านั้น
จะทำอะไรต้องดูว่าได้ประโยชน์จริงหรือไม่
เหมาะกับโรงพยาบาลตนเองหรือไม่
ฟังคำแนะนำจากคนภายนอกแต่อย่าทำตามทั้งหมดต้องคิดดูก่อนว่าได้ประโยชน์จริงและปฏิบัติได้จริงในโรงพยาบาลของตนเอง
- จัดการประเมิน มีการประเมินทั้งจากภายในและภายนอก
จากบุคคลภายในเช่นตนเอง,หัวหน้า,ตัวชี้วัด,IS,
Facilitators จากลูกค้า เช่นตู้รับฟังความคิดเห็น,
แบบประเมินความพึงพอใจ จากบุคคลที่สามเช่นที่ปรึกษา,
ผู้เชี่ยวชาญ,ผู้ประเมิน,ผู้เยี่ยมสำรวจ,ทีมนิเทศ
- เดินสู่จุดหมาย มองให้ชัดว่าจุดหมายที่แท้จริงคืออะไร
การได้ใบรับรองคุณภาพไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริง
หากทำเพื่อหวังใบรับรองจะทุกข์เพราะต้องเร่วรัด
ต้องคอยระแวงว่าจะไม่ผ่าน ทำให้ต้องยึดตามเกณฑ์ จะเป็นการบีบความคิด
หากทำไปเองก็กลัวว่าจะไม่ผ่าน
ทำให้ลืมมองความสุขที่เกิดขึ้นในทุกขณะที่ทำเพราะตาและใจมองไปที่ใบรับรองที่ยังมาไม่ถึง
และเมื่อได้แล้วก็ทุกข์อีกเพราะกลัวจะต่อใบรับรองไม่ผ่าน
ดังนั้นเป้าหมายที่แท้จริงจึงควรมองไปที่ประชาชน
เจ้าหน้าที่และโรงพยาบาล
ผมได้ใช้เวลาบรรยายในทั้งสองช่วงเกือบ 3 ชั่วโมงเต็ม
แต่ก็ไม่รู้สึกเหนื่อยอะไร
เพราะมีความปิติที่ได้เล่าประสบการณ์ที่ทำมาให้เพื่อนร่วมทางหรือกัลยาณมิตรฟัง
และหากมีส่วนทำให้โรงพยาบาลอื่นๆสามารถพัฒนาคุณภาพไปได้ดีขึ้นก็จะเป็นสุขมาก