ชอบปวดท้อง


ถ้าไม่อยากเป็นโรคกระเพาะอาหารให้ปฏิบัติ 2 อ. ครับ คืออาหาร กับอารมณ์ เพราะเป็นสาเหตุสำคัญ อาหารเน้นที่การกินตรงเวลาทุกมื้อและทานครบทุกมื้อ ส่วนอารมณ์ก็ลดเครียดลดวิตกกังวล

           ในการตรวจผู้ป่วยของแพทย์ทั่วไป แทบทุกวันมีอาการหนึ่งที่มักพบอยู่เสมอ คนไข้ที่มาตรวจมักจะมาบอกว่า หมอป้าเป็นอะไรก็ไม่รู้ ชอบปวดท้อง ผมมักจะถามซ้ำอีกว่าตกลงป้าเป็นอะไรครับ ถึงมาหาหมอวันนี้ ป้าก็บอกว่า ก็ปวดท้องนะสิ ถึงมาหาหมอ บางทีผมก็คิดในใจแบบกวนๆว่า ก็ชอบแล้วจะมาหาหมอทำไมหรือบางทีเจอคนไข้ที่คุ้นเคยกันพูดเล่นกันได้ ผมก็มักจะพูดเล่นตอบไปว่า อ้าวก็ชอบแล้วจะมาหาหมอทำไม (ถ้าไม่คุ้นเคยกัน คงถูกด่าหรือไม่พอใจแน่) ป้าก็ยิ้มๆแล้วก็บอกว่า หมอนี่ชอบพูดเล่น จริงๆแล้วก็เป็นคำในภาษาไทยเรานั่นเอง ที่คนเรามักพูดว่า ไม่รู้เป็นอะไร ชอบเป็นโน่น ชอบเป็นนี่ แต่ในความเป็นจริงนะไม่ได้ชอบ มันเป็นของมันเอง

             อาการปวดท้อง นี่จะพบได้บ่อยในการตรวจผู้ป่วยนอก และที่วินิจฉัยมากที่สุดก็คือโรคกระเพาะอาหาร บ่อยครั้งที่แพทย์ได้ฟังอาการแล้วก็วินิจฉัยได้เลยว่าเป็นพร้อมทั้งสั่งยาให้ โดยที่ยังไม่ได้ตรวจคนไข้ เพราะคิดว่าถึงตรวจก็ไม่เจออะไร แต่คนไข้กลับไม่คิดอย่างนั้น ไปคิดว่าหมอไม่ได้ตรวจแล้วรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคกระเพาะ สงสัยจะมั่ว(ละมั้ง) พอได้ยาไปกินสักมื้อสองมื้อแล้วยังไม่หายก็เลย เปลี่ยนไปหาหมอคนใหม่ ทิ้งยาไปเสีย

             เมื่อคนไข้มาด้วยเรื่องปวดท้อง ที่เราซักประวัติแล้ว พอแยกโรคอื่นๆไปได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคร้ายแรงต่างๆแล้ว และคิดว่าน่าจะเป็นกลุ่มโรคกระเพาอาหาร ผมจะต้องตรวจร่างกายคนไข้ทุกราย เพื่อสร้างความมั่นใจในการวินิจฉัยทั้งของแพทย์เองและความเชื่อมั่นของคนไข้ เนื่องจากจะมีผลต่อการร่วมมือกินยาที่เราจ่ายให้ไป

             กลุ่มโรคกระเพาะอาหาร จะมีอาการได้หลายแบบ หลายอย่าง ที่อาจแตกต่างกันไปได้ในคนไข้แต่ละคน บางคนแค่จุกแน่นใต้ลิ้นปีธรรมดาหรือบางคนแค่รู้สึกเหมือนมีก้อนหรือเม็ดอะไรคาคอ(Dyspepsia) บางคนมีร้อนท้อง แสบท้อง (Acute gastritis) บางคนมีปวดบิดท้องเป็นพักๆ อาจมีอาเจียนหรือถ่ายเหลวร่วม (PUหรือDU) ด้วย บางคนอาจมีอาการอิ่มปวด หิวปวด บางคนอาจมีปวดท้องร่วมกับถ่ายดำหรืออาเจียนเป็นเลือด (Upper GI bleeding) บางคนรู้สึกแสบร้อนขึ้นมาที่กลางหน้าอก (Reflux esophagitis) บางคนมีเรอบ่อย บางคนมีจุกแน่นใต้ลิ้นปีและรู้สึกหายใจอึดอัด หายใจไม่เต็มอิ่ม บางคนแน่นมากจนหน้ามืดใจสั่นหรือเป็นลมก็มี (อันนี้ต้องตรวจแยกโรคจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดซึ่งเจอได้ เป็นภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดชนิด Silent MI) จะเห็นได้ว่ามีอาการได้หลายรูปแบบ ถ้าเป็นดาราก็ต้องบอกว่ากลุ่มอาการโรคกระเพาะเป็นดาราเจ้าบทบาท ยอดนักแสดงเลยทีเดียว

            ในการรักษาโรค แม้จะเป็นโรคกระเพาะเหมือนกัน อาจได้ยาไม่เหมือนกันได้ ในการรักษาที่ผมให้ผู้ป่วยจะดูว่าเป็นกลุ่มย่อยๆอะไร ถ้าเป็นกระเพาะอาหารอักเสบเฉียบพลันมักสัมพันธ์กับการกินยาแก้ปวดอักเสบ (NSAID) ถ้าจุกแน่นมักให้ยาลดการจุกแน่นแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ถ้าปวดบิดมักให้ยาลดการหดเกร็งของลำไส้ ถ้ามีเลือดออกในกระเพาะอาจต้องให้นอนโรงพยาบาลเพื่อสวนล้างกระเพาะอาหาร ถ้ามีแสบร้อนท้องเราเปรี้ยว ปวดท้องมักให้ยาลดการหลั่งกรดด้วย ถ้ามะอืดผะอมอยากอาเจียนหรือแน่นเหมือนมีอะไรดันขึ้น (ภาษาชาวบ้าน) มักให้ยากลุ่มแก้อาเจียนด้วยเพื่อลดการเคลื่อนไหวของลำไส้ เป็นต้น จะเห็นว่าการเลือกใช้ยาก็เป็นศิลปะเหมือนกัน หากคนไข้ไปซื้อยาเองก็อาจได้ยาไม่ครบตามลักษณะของโรคแล้วทำให้ไม่หายขาดได้

            ที่สำคัญต้องลดสาเหตุการเกิดโรค ที่ผมมักอธิบายบ่อยๆคือผมจะบอกว่าถ้าไม่อยากเป็นโรคกระเพาะอาหารให้ปฏิบัติ 2 อ. ครับ คืออาหาร กับอารมณ์ เพราะเป็นสาเหตุสำคัญ อาหารเน้นที่การกินตรงเวลาทุกมื้อและทานครบทุกมื้อ ส่วนอารมณ์ก็ลดเครียดลดวิตกกังวล (จากงานวิจัยล่าสุดพบว่าอวัยวะในร่างกายคนที่ไวต่อความเครียดมากที่สุดคือลำไส้ ในอนาคตการจับเท็จอาจจะใช้การตรวจวัดการเคลื่อนไหวของลำไส้ก็ได้เพราะการวัดอัตราการเต้นของหัวใจจะไวน้อยกว่า หากผู้ร้ายปากแข็งฝึกมาอย่างดี อัตราการเต้นของหัวใจอาจไม่เปลี่ยนแปลงได้ในขณะเข้าเครื่องจับเท็จ) ส่วนเรื่องยารักษานั้นต้องรับประทานจนหมดในระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่ใช่ทานยาแค่มื้อสองมื้อ พออาการทุเลาก็หยุดทานอย่างนี้ ถ้ากระเพาะอาหารเป็นแผลก็จะยังไม่ทันหายดี เดี๋ยวก็เป็นมาอีก

หมายเลขบันทึก: 10833เขียนเมื่อ 28 ธันวาคม 2005 09:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 ตุลาคม 2012 13:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีครับ คุณหมอ คือผมอยากทราบว่าคุณหมอรักษาอยู่ที่ไหนหรือเปล่าครับ คือตอนนี้ผมมีอาการเหล่านี้ที่คุณหมอบอกแล้วมันทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของผมแย่มากๆเลยครับ ผมพยายามไม่เครียดไม่คิดว่ามันเป็นอะไร แต่มันไม่ได้ผลครับ ผมเลยอยากจะรักษาให้มันหายครับ 086 7208442 หรือ [email protected] ครับ

- ปวดท้องร่วมกับมีไข้ มีอาการปวดเจ็บในท้องร่วมกับตัวร้อน อุณหภูมิของร่างการสูงกว่า

37.5 องศาเซลเซียส โดยการวัดทางปาก สาเหตุที่พบบ่อยคือ ท้องเดิน ไข้เลือดออก ปวดท้องแบบเป็นๆหายๆ ไทฟอยด์ ท้องเดิน

ไส้ติ่งอักเสบ

- ปวดท้องแบบเป็นๆหายๆ มีอาการปวดท้องเป็นครั้งคราวหรือเป็นเรื้อรัง หลายวัน

หรือเป็นสัปดาห์ บางคนอาจนานเป็นเดือนหรือปี สาเหตุที่พบบ่อย อาหารไม่ย่อย ปวดประจำเดือน ถ้าเป็นเรื้อรังในเด็ก อาจมีสาเหตุจาก โรคพยาธิไส้เดือน

ด้วยความปรารถนาดีจาก โรงพยาบาลสมิติเวช

ปวดร้อนท้องมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ และมีอาการแน่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เหมือนมีก้อนจุกในท้อง

หายใจลำบาก กินอะไรนิดเดียวก็อิ่ม แต่น้ำหนักไม่ลดสักนิดค่ะ ทั้งๆ ที่กินได้มื้อละไม่เกินห้าคำ ก็แน่นลำบาก ไม่ทราบว่าทานยาอะไรดีคะคุณหมอ ตอบเอาบุญด้วยนะคะ เพราะทรมานเหลือเกิน

ผมมีอาการปวดแสบท้อง ส่องกล้องแล้วพบว่ากระเพาะเป็นแผล แต่ทำไมมันปวดแสบไปทั่วท้องเลยครับ ทรมานมาหลายเดือนแล้ว ไปหาหมอมาเป็นสิบสิบที่แล้วยังไม่หาย ทรมานมากครับ ทั้งยาสมุนไพร ยารพ.อาการก้อยังไม่ทุเลาเลย

อ่านแล้วได้ประโยชน์ค่ะแต่อยากทราบว่า

เมื่อปวดท้องและแสบร้อนที่ลิ้นปี่

จะมีอาการปวดหัวมากแบบไมเกรนขึ้นมาร่วมด้วย

อย่างนี้จะแก้ไขอย่างไรคะนอนก็ไม่ได้

อยากจะให้เรอเอาลมออกมาก็ไม่ได้ค่ะ

กรุณาตอบด้วยค่ะเป็นวิทยาทาน

เพราะตอนนี้กำลังเป็นอาการนี้มาสามวันแล้วค่ะ

ไปพบแพทย์แล้วได้ยามาทานรู้สึกว่ายังได้ยาไม่ครบค่ะ

อยากทราบอาการเเสบท้องของคุณตา เค้าบอกว่ารู้สึกเเสบท้องเวลานอน เเสบทั้งข้างในข้างนอกบริเวณผิวหนัง เคยไปหาหมอที่คลินิก เค้าบอกว่าให้ลองกินยาของเค้าก่อนถ้ายังไม่หายดีให้ไปตรวจฮอร์โมน ซึ่งหลังจากกินยาเเรกๆ อาการก็ดีขึ้น เเต่พอยาหมดซักพัก ก็กลับมาเป็นอีก จึงอยากทราบว่ามันเป็นที่อะไร เเล้วเจาะฮอร์โมนจะทำให้เราทราบอะไรบ้างค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท