แปรงฟัน ระวังเหงือก


แนะนำให้แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง... แต่ไม่ควรแปรงฟันเกินวันละ 3 ครั้ง เนื่องจากการแปรงฟันมากเกินไปมีส่วนทำให้เกิดภาวะเหงือกร่นได้

Hiker

เราๆ ท่านๆ อาจจะสงสัยว่า เราควรจะดูแลสุขภาพช่องปากอย่างไร เช่น แปรงฟันวันละกี่ครั้งจึงจะได้ผลดี ใช้แปรงสีฟันอ่อนหรือแข็งดี ฯลฯ

อาจารย์จากเว็บไซต์ซิมเพิลสเท็พเดนทอลมีคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการรักษาสุขภาพช่องปาก ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ...
  • การดูแลเหงือกและฟันวิธีใดสำคัญที่สุด:
    การดูแลเหงือกและฟันที่สำคัญที่สุดได้แก่ การแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟัน (dental floss) ให้ถูกวิธีทุกวัน เพื่อลดโอกาสเกิดคราบจุลินทรีย์ (plague) ซึ่งประกอบด้วยเศษอาหาร และแบคทีเรีย

    เมื่อแบคทีเรียย่อยอาหารจะทำให้เกิดกรดที่เป็นอันตรายต่อฟัน คราบจุลินทรีย์มีส่วนทำให้เกิดโรคปริทนต์ (periodontal disease) ซึ่งมีการอักเสบเรื้อรัง และเกิดการทำลายเนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆ โคนฟัน

    โรคฟันผุและปริทนต์มีส่วนทำให้เกิดการสูญเสียฟันก่อนวัยอันควร
  • แปรงฟันวันละกี่ครั้งจึงจะดี:
    แนะนำให้แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยเฉพาะตอนเช้ากับก่อนเข้านอน

    การแปรงฟันตอนเช้าที่ดีที่สุดคือ การแปรงฟันหลังอาหารเช้า ถ้ามีเวลาจำกัด... จะแปรงฟันหลังตื่นนอน(ก่อนอาหารเช้า)ก็ได้

    แต่ไม่ควรแปรงฟันเกินวันละ 3 ครั้ง เนื่องจากการแปรงฟันมากเกินไปมีส่วนทำให้เกิดภาวะเหงือกร่นได้
  • แปรงฟันแรงเท่าไหร่จึงจะดี:
    การแปรงฟันแรงๆ (ออกแรงกด) มีส่วนทำให้เหงือกร่นได้ แนะนำให้เลือกแปรงที่ขนแปรงอ่อน (soft) หรืออ่อนมากเป็นพิเศษ (extra soft)

    ไม่ควรกำแปรงจนแน่น แต่ควรจับด้ามแปรงคล้ายกับการจับปากกา แปรงเบาๆ คราบจุลินทรีย์ที่จับอยู่รอบๆ ฟันค่อนข้างอ่อนนุ่มคล้ายกับแยมทาขนมปังที่ติดอยู่บนแท่งไม้ตักแยม

    แต่ถ้าทิ้งคราบจุลินทรีย์ไว้นานๆ (ไม่ทำความสะอาด) อาจทำให้เกิดการจับตัวแข็ง (calculus / tartar) ซึ่งจะแปรงให้หลุดไปจากฟันไม่ได้ จำเป็นต้องปรึกษาทันตแพทย์
  • แปรงฟันนานเท่าไรดี:
    แนะนำให้แปรงฟันอย่างน้อย 2 นาที แนะนำให้แปรงนาน 2.5-3.5 นาที(2 นาทีครึ่งถึง 3 นาทีครึ่ง) หรือนานประมาณเพลงตามสถานีวิทยุส่วนใหญ่จบ 1 เพลง เพื่อให้แปรงฟันทุกซี่ได้ทั่วถึง

    ควรหัดแปรงฟันให้ถูกวิธี และแปรงให้เป็นแบบแผนเดียวกันทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้พลาดการแปรงฟันส่วนใดส่วนหนึ่งไป
  • ใช้แปรงสีฟันทั่วไปดีหรือใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าดี:
    แปรงสีฟันทั่วไปมีประสิทธิผลพอๆ กับแปรงสีฟันไฟฟ้า

    สิ่งที่สำคัญมากคือ การหัดแปรงฟันให้ถูกวิธีจากทันตแพทย์ หรือผู้ช่วยทันตแพทย์
  • เลือกยาสีฟันอย่างไร:
    แนะนำให้เลือกยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ และไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง

    ทันตแพทย์หรือผู้ช่วยทันตแพทย์มีส่วนช่วยแนะนำยาสีฟันชนิดพิเศษได้ เช่น คนที่มีคราบบุหรี่อาจเลือกใช้ยาสีฟันชนิดช่วยกำจัดคราบสีจากบุหรี่ ฯลฯ

    การเลิกบุหรี่มีผลดีต่อสุขภาพเหงือกและฟันมาก
  • ใช้ไหมขัดฟันวันละกี่ครั้งจึงจะดี:
    แนะนำให้ใช้ไหมขัดฟันวันละ 1 ครั้งก่อนนอน ถ้าไม่สะดวกจะเลื่อนไปใช้ไหมขัดฟันเวลาอื่นก็ได้ แต่ควรทำให้สม่ำเสมอทุกวัน

     คนที่มีเศษอาหารติดตามซอกฟันมากจะใช้ไหมขัดฟันวันละหลายครั้งก็ได้
  • ใช้ไหมขัดฟันอย่างไร:
    ให้พันไหมขัดฟันรอบนิ้วกลางทั้ง 2 ข้าง แล้วใช้นิ้วชี้ช่วยประคองเส้นด้าย เลื่อนเข้าระหว่างซอกฟันเบาๆ เพื่อป้องกันอันตรายต่อเหงือก และเคลื่อนผ่านโคนฟันใต้แนวเหงือกกลับไปกลับมาเบาๆ เป็นรูปคล้ายตัวซี (C) ในแนวนอน

    ท้นตแพทย์และผู้ช่วยทันตแพทย์ให้คำแนะนำเรื่องไหมขัดฟันกับท่านได้

    การฝึกใช้ไหมขัดฟันก็คล้ายกับการสร้างสุขนิสัยอื่นๆ ที่จะต้องฝึกฝนกันประมาณ 3 สัปดาห์จึงจะเกิดความชำนาญ
  • แปรงลิ้น:
    การแปรงลิ้นมีส่วนช่วยลดแบคทีเรีย เศษอาหาร และเศษเยื่อบุช่องปาก ทำให้กลิ่นปากลดลง

    แนะนำให้แปรงลิ้นเบาๆ โดยใช้แปรงสีฟันวางในแนวขวาง แปรงเบาๆ และไม่วางแปรงไปทางด้านหลังมากเกินจนเกิดอาการอยากขย้อน (gag reflex)
  • แปรงซอกฟัน:
    ผู้ใหญ่ที่มีซอกฟัน(บริเวณระหว่างโคนฟัน 2 ซี่กันเหงือก)ห่าง โดยเฉพาะคนที่มีเหงือกร่นลงไปมากน่าจะได้รับประโยชน์จากแปรงซอกฟัน (interdental brush)

    แนะนำให้ใช้แปรงซอกฟันขนอ่อน แปรงเบาๆ แนะนำให้ท่านที่สนใจเรื่องแปรงซอกฟันขอคำปรึกษาจากทันตแพทย์ หรือผู้ช่วยทันตแพทย์

    แหล่งที่มา:                 

ชีวิต(รวมทั้งเหงือกและฟัน)เป็นเรื่องที่เราควรบริหารจัดการอย่างทะนุถนอม

การแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันก็มีลักษณะทำนองเดียวกัน เราควรใช้พลังแห่งความอ่อนโยน (soft power) ให้มากกว่าความแข็งแรง (hard power)

 แนะนำให้แปรงฟันเบาๆ เพราะเหงือกเขาไม่ชอบความรุนแรง...

  • แนะนำให้ใช้แปรงสีฟันขนอ่อน (soft) หรืออ่อนมากเป็นพิเศษ (extrasoft)
  • แปรงฟันเบาๆ
  • แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ไม่ควรแปรงฟันเกินวันละ 3 ครั้ง
  • แปรงฟันอย่างน้อย 2 นาที อย่างมาก 3 นาทีครึ่ง
  • แปรงลิ้นอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
  • ควรปรึกษาทันตแพทย์หรือผู้ช่วยทันตแพทย์ในเรื่องวิธีการแปรงฟัน
  • ควรใช้ไหมขัดฟันวันละ 1 ครั้ง
  • ท่านที่มีซอกฟันห่างมากควรใช้แปรงซอกฟันที่ออกแบบเฉพาะ (interdental brush)

    แนะนำให้อ่าน:              

    แหล่งที่มา:                 

  • ขอขอบคุณ > Taking care of your mouth (reviewed by the Faculty of Columbia university school of Dental & Oral Surgery). > [ Click - Click ] > http://www.simplestepsdental.com > December 26, 2005.
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ จัดทำ > ๒๗ ธันวาคม ๒๕๔๘ > ปรับปรุงแก้ไข > 29 เมษายน 2550.

หมายเลขบันทึก: 10739เขียนเมื่อ 27 ธันวาคม 2005 09:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีคะ อาจารย์หมอวัลลภ

วันนี้ดิฉันตามมาอ่านบันทึกเก่าๆ ได้ประโยชน์มากๆ คะ

สำหรับเรื่องแปลงลิ้น ดิฉันเคยเถียงกับเพื่อนว่าควรจะแปลง แต่เพื่อนบอกไม่ควร ด้วยเหตุและผล ก็เป็นอย่างที่อาจารย์หมอแจ้งไว้ในบันทึกคะ

ขอบคุณมากคะ

ขอขอบคุณ... คุณมะปรางเปรี้ยว

  • ขอขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนครับ
  • มีการศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า ลิ้นเป็นอวัยวะที่มีเชื้อโรคอยู่ชุกชุมที่สุด
  • นอกจากนั้นลิ้นยังอาจเสริมกลิ่นปากที่เจ้าของไม่ได้กลิ่น (จากความคุ้นเคย หรือเป็นกันเองกับกลิ่น)

การแปรงลิ้น...

  • การแปรงลิ้นเบาๆ ช่วยลดเชื้อโรคที่ลิ้นให้น้อยลง และเสริมบุคลิกภาพได้ครับ
  • เริ่มจากป้องกันกลิ่นปาก ป้องกันโรคในช่องปาก
  • ที่ลืมไม่ได้เลยคือ คนที่ปากแดง + ลิ้นแดงดูมีเสน่ห์ หรือสุขภาพดีมากกว่าคนที่ปากซีด + ลิ้นขาวมากๆ เลย
  • ลองสังเกตคนรอบๆ ข้างดูได้เลย...
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท