ประมาณ 13.30 น. ก็เดินทางถึงเมืองอาร์มิเดล เดิมมีโปรแกรมที่จะรับประทานอาหารกลางวันและเข้าร่วมการประชุมขอสัมมนาของUNE จัดโดยศาตราจารย์Minichiello แต่กิจกรรมดังกล่าวได้ยกเลิก ทางอาจารย์ประวิทย์จึงได้พาไปทานอาหารกลางวันที่ร้านแมคโดนัลด์ และได้พบคนไทยที่มาเรียนที่นี่ ได้คุยกัน
คุณแสนศักดิ์ ซึ่งเป็นนักศึกษาปริญญาเอก กำลังจะจบการศึกษาแล้ว ทำงานอยู่กรมปศุสัตว์ เคยทำงานที่ศูนย์เพราะพันธุ์สัตว์ตาก ระยะหนึ่ง แล้วสอบได้ทุนของUNEมาเรียน มาทั้งครอบครัวมาเช่าบ้านอยู่และเปิดร้านอาหารไทยอยู่ที่นั่น ทำให้อยู่ได้อย่างสบาย คุณแสนศักดิ์ยังบอกอีกว่าหากสนใจจะสอบมาเรียนก็สามารถติดต่อกันได้โดยให้ที่อยู่และอีเมล์ไว้ คือ
Sansak Nakavisut
AGBU,UNE
Armidale, NSW
Australia
2351
E-mail: [email protected] หรือ [email protected]
ได้พูดคุยกันสักพัก ทางทีมเราก็เดินทางต่อเพื่อไปให้ทันดูงานที่โรงพยาบาลคอฟส์ ฮาร์เบอร์ ตอน 5 โมงเย็น
ประมาณ 14.30 น. ออกเดินทางต่อไปเมืองคอฟฟ์ ฮาร์เบอร์ ไปตามเส้นทางถนนที่คดเคี้ยวเป็นรถวิ่งสองทาง เป็นถนนลาดยางเหมือนทางหลวงจังหวัดบ้านเราแต่ไม่มีหลุมบ่อ มีเส้นกลางและขอบถนนพร้อมสัญญาณจราจร ป้ายเตือนอย่างชัดเจน การเดินทางจากแทมเวอร์ธ ผ่านอาร์มิเดล ไปจนถึงคอฟฟส์ ฮาร์เบอร์ จะผ่านเมืองเล็กๆหลายเมือง รวมระยะทางประมาณ 334 กิโลเมตร ถนนสองเลนวิ่งลัดเลาะไปตามขอบภูเขา สองข้างทางมีเสาเล็กๆติดสีส้มสะท้องแสงเตือนตลอดแนว ทิวทัศน์สองข้างทางสวยงาม ถ้าจะเปรียบเทียบก็คล้ายๆกับถนนในเส้นทางตาก-เชียงใหม่หรือพิษณุโลก-หล่มสัก หรือบ้านตาก-แม่ระมาด หรือตาก-แม่สอด-พบพระหรือท่าสองยาง เส้นทางไม่ค่อยมีรถวิ่งพลุกพล่านนัก
ผมนั่งด้านหน้า ข้างคนขับเพื่อจะได้นั่งเป็นเพื่อคุยกับจอห์นไปด้วย ถือโอกาสฝึกพูดและฟังภาษาอังกฤษ ได้พูดคุยกับจอห์นไปเรื่อยๆ ก็ทราบว่าจอห์นเองเคยป่วยเป็นโรคกระดูกสันหลังเชื่อมติดกัน(Ankylosing spondylosis) ต้องหยุดรักษาเป็นปีพร้อมทั้งทำกายภาพบำบัดตลอด แต่ตอนนี้หายดีแล้ว ทำงานได้สบายไม่มีปัญหาอะไร เมื่อก่อนต้องไปออกกำลังกายโดยการว่ายน้ำด้วย
นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ผมก็นั่งหลับเป็นเพื่อนไปจนถึงเขตเมืองคอฟฟส์ ฮาร์เบอร์ จึงรู้ตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็เห็นโรงพยาบาลคอฟส์ ฮาร์เบอร์แล้ว แสดงว่าเพลียมากเลยหลับบนรถได้อย่างสนิท พอตื่นก็สดชื่นและเตรียมที่จะดูงานต่อไปได้ไม่มีความเห็น