ท่านปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้เร่งรัดให้หน่วยงานต่าง ๆ ใน สป. ทำรายงาน การใช้งบประมาณในไตรมาสที่ 4 เป็นรายสัปดาห์ตามนโยบาย "ล้างท่อ" ของรัฐบาล ผมขอขอบคุณฝ่ายนโยบายและพัฒนาวิชาการ รวมทั้งผู้อำนวยการโครงการทุกท่านที่ได้ร่วมมือกันวางแผนการใช้เงินในโครงการ ทำให้มั่นใจว่าการบริหารงบประมาณของสถาบันฯ จะเป็นไปตามแผนที่วางไว้
ระยะนี้ผมได้ประสานงานกับหลาย ๆ หน่วยงาน ภายนอกกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อชักชวนให้มาเป็นเครือข่ายในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นต้นว่า สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โดยผมได้ทำความตกลงกับนายแพทย์สมศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมสุขภาพ และแพทย์หญิงเพ็ญศรี กระหม่อมทอง หัวหน้ากลุ่มงานอนามัยวัยเรียน เพื่อจัดทำเครือข่ายโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพสถาบันฯ ได้แต่งตั้งให้ อ.สุพรรณี สมิธ เป็นหัวหน้าผู้บริหารโครงการเพื่อปรึกษาหารือกับคุณหมอเพ็ญศรี ซึ่งจะมีการประชุมวางแผนร่วมกันในวันที่ 30 เดือนนี้ ผมเองได้ไปช่วยพัฒนาบุคลากรให้กับสำนักส่งเสริมสุขภาพ 2 ครั้ง และเขาขอมาศึกษาดูงานที่สถาบันฯ ในเดือนกรกฎาคมในด้านการจัดการความรู้ การใช้ ICT การจัดโครงสร้างแบบ Matrix การสร้างภาวะผู้นำ และการจัดภูมิทัศน์
นอกจากนี้ผมยังมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับ ผอ. เตือนใจ ผู้อำนวยการสถาบันการประชาสัมพันธ์ ในการจัดทำหลักสูตรฝึกอบรมนักบริหารการประชาสัมพันธ์ระดับสูง ผมถือโอกาสเจรจาให้สถาบันการประชาสัมพันธ์มาเป็นเครือข่ายกับเราโดยตกลงที่จะมีการจัดอบรมหลักสูตร "เทคนิคการประชาสัมพันธ์เชิงรุก" ให้กับบุคลากรของสถาบันฯ ในต้นเดือนสิงหาคมนี้
ในวันที่ 24 - 30 กรกฎาคม คณะผู้บริหารของสถาบัน EMTC (Educational Management Training Center) ประเทศเวียตนาม จะมาเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตร Change Management in the 21st Century ที่สถาบันฯ ของเราโดยสถาบันฯ จะรับผิดชอบในเรื่องการจัดทำหลักสูตรการเป็นวิทยากรให้การอบรม รวมทั้งค่าใช้จ่ายทุกเรื่องขณะที่เขาอยู่ในประเทศไทย และจะส่งเจ้าหน้าที่ 2 คน มาวิจัยเรื่อง การปฏิรูปการศึกษาไทย เปรียบเทียบกับประเทศเวียตนามเพื่อหาจุดเด่น จุดด้อยของแต่ละประเทศ นำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาการศึกษาในประเทศของตน
ในวันอังคารที่ 28 เดือนนี้ จะมีพิธีลงนาม M.O.U. ระหว่างสถาบันฯ ของเรากับมหาวิทยาลัยอิสเทิร์น เอเชียเพื่อจัดทำโครงการเปิดการสอนระดับปริญญาเอก สาขาการบริหารการศึกษาขึ้นในกระทรวงศึกษาธิการ ตามนโยบายของท่านปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจะเปิดการสอนภาคเรียนแรกในเดือนตุลาคมนี้
สุดท้ายผมขอสรุปหนังสือที่ท่านนายกฯ แนะนำให้อ่าน ชื่อ Strategy Maps เขียนโดย Kaplan และ Norton ซึ่งเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาด หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับแนวทางที่จะทำให้ทรัพยากรมนุษย์ มีความสัมพันธ์กับยุทธศาสตร์และเป้าหมายขององค์กรมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจาการวิจัยพบว่า ทรัพย์สินที่จับต้องไม่ได้ มีมูลค่าสูงกว่าทรัพย์สินที่จับต้องได้ โดยเนื้อหาจะสอนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของคนในองค์กร สอนให้รู้จักคุณค่าของตนเองและสิ่งแวดล้อมในองค์กร แนวคิดคือการบริหารนามธรรมเชื่อมระหว่างทรัพย์สินที่จับต้องไม่ได้กับการเพิ่มมูลค่าขององค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ไม่มีความเห็น