ภาษาสุโขทัย


ผ่มเป็นคนซุโข่ทัย

               เมืองสุโขทัย ถือเป็นราชธานีแห่งแรกของราชอาณาจักรไทย เมื่อ 7 ร้อยกว่าปีมาแล้ว โดยคำว่า สุโขทัย มาจากคำว่า สุข + อุทัย เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นรุ่งอรุณแห่งความสุข เป็นที่ก่อเกิดลายสือไทยตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชเมื่อปี พ.ศ. 1826 หลังจากอาณาจักรอยุธยาเข้มแข็งเมืองสุโขทัยก็อ่อนแอลงและถูกลดความสำคัญลงไปโดยทางอยุธยาได้ไปพัฒนาเมืองพิษณุโลกขึ้นแทน เพื่อกันการแข็งเมืองของสุโขทัย

                สุโขทัย ยุคใหม่ เมื่อเกือบร้อยปีก่อนเป็นจังหวัดสวรรคโลก ต่อมาได้ลดจังหวัดสวรรคโลกลงเป็นอำเภอ ละยกฐานะอำเภอสุโขทัยธานี เป็นจังหวัดสุโขทัย แทน ประวัติศาสตร์ในอดีตจึงเป็นเพียงตำนานแห่งความทรงจำ คนรุ่นใหม่จึงรู้จักแต่เพียงจังหวัดสุโขทัย แต่ก็คงไม่มีใครไปรื้อฟื้นจังหวัดสวรรคโลกขึ้นมาอีก เพราะอย่างไรก็ตามเราก็ภูมิใจในความเป็นจังหวัดสุโขทัย ในฐานะเมืองหลวงแห่งแรกของไทย

                ภาษาสุโขทัย มีความเป็นเอกลักษณ์ที่คนจากที่อื่นๆได้ฟังอาจสงสับเพราะมองว่าเป็นคำพูดเหน่อๆ เหมือนกับที่คนกรุงเทพฯบอกว่าสุพรรณบุรี อีสาน ปักษ์ใต้ คำเมือง เหน่อ แต่ก็ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ เป็นเสน่ห์ของความเป็นไทย  นอกจากสำเนียงที่เหน่อแล้ว เรายังมีคำศัพท์หลายคำที่แตกต่างไปจากที่อื่น ซึ่งตอนนี้ภาษาและสำเนียงสุโขทัยอาจจะค่อยๆเลือนหายไปเพราะเด็กยุคใหม่พูดสำเนียงกลางกันเกือบหมดแล้ว ส่วนผมตอนที่ไปเรียนเชียงใหม่ ถ้าเจอเพื่อนหรือคนสุโขทัยก็จะส่งสำเนียงสุโขทัยด้วยความภูมิใจทันที ทุกวันนี้ก็พูดภาษาสุโขทัยกับแม่ทุกวัน แต่พูดคำกลางกับลูกและภรรยา ส่งผลให้ลูกผมเกิดการพูดสำเนียงลูกผสมที่ไม่รู้ว่าที่ไหนแน่ระหว่างสุโขทัย ลำปาง บ้านตาก  เมื่อ 10 ปีก่อนผมเคยคิดที่จะทำพจนานุกรมภาษาสุโขทัยด้วยแต่ก็ไม่ได้ทำสักที

                พูดเรื่องศัพท์ก่อนมีคำเฉพาะบางคำที่เรียกไม่เหมือนภาษากลาง เช่น ขี้ปุ๋น หมายถึงฝรั่ง   ไน้ หมายถึงละลาย   มุ่นหมายถึงลอด   ส้มหมายถึงมะม่วง ถุงยาง = ถุงพลาสติก , เส้นแกงร้อน = วุ้นเส้น เป็นต้น

                ในส่วนของสำเนียงก็จะมีการเรียกที่ออกเสียงแตกต่างจากภาษากลาง เช่น มิด = มีด , ไร้ = ไร่ , เสือ = เสื่อ , เสื่อ = เสือ  , พู๊ด = พูด , เต๊ะ = เตะ

                ถ้าดูง่ายๆก็คือถ้าเสียงวรรณยุกต์ไม้เอก จะกลายเป็นเสียงไม้ตรี  ถ้าเป็นอักษรสูงจากเสียงสามัญจะกลับเป็นเสียงเอก ถ้าเป็นเสียงเอก จะกลับเป็นสามัญ เช่น

 

นั้งปูเสือใต้ต้นส้ม ระวังเสื่อมากั๊ดเนอ    = นั่งปูเสื่อใต้ต้นมะม่วง ระวังเสือมากัดนะ

เอามิดไปฟันต้นขี้ปุ๋นในไร้                 =  เอามีดไปฟันต้นฝรั่งในไร่

 

                 นอกจากนี้ยังมีคำลงท้ายของคำถามอีก แล้วแต่อำเภอหรือหมู่บ้านว่าจะใช้แบบไหน เช่น ไปไหนมาเล้า , ไปวัดมาเก๊ย , ไปวัดมาไก๊

                เป็นไงบ้างครับภาษาสุโขทัย น่าฟังไหมครับ ถ้าอยากรู้ว่าพูดภาษาสุโขทัยได้ไหม ลองถามดูครับว่าเป็นคนจังหวัดไหน  จะต้องตอบว่า ผ่มเป็นคนซุโข่ทัย ครับ
                วันที่ 19-20 ธันวาคม มีการประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดสุโขทัย ข่าวว่าจะพัฒนาการท่องเที่ยวให้รุ่งเรืองโดยการตัดถนนสี่เลนจากพิษณุโลก-อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มีการขุดลอกกคลองและทำอ่างเก็บน้ำเป็นแก้มลิงแก้น้ำท่วม เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดซ้ำซากทุกปี ก็หวังว่าคนสุโขทัย จะได้ไม่ร้องเพลง สุโขทัยระทม อีกต่อไปครับ ถ้าทำได้จริง

หมายเลขบันทึก: 10265เขียนเมื่อ 21 ธันวาคม 2005 09:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 กันยายน 2012 10:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (62)
ดีมากครับ ที่ช่วยเก็บบันทึกรวบรวม อย่างน้อยก็ระลึกถึง สิ่งที่นับวันคงจะสูญหาย ลบลืน ผมก็โตมากับภาษานี้ ตั้งแต่เด็ก เดี่ยวนี้คนโขทัย แถวนอกเมืองก็ยังพูดอยู่นะครับ
ผมเองก็พูดอยู่ทุกวันครับ กับแม่และน้องๆ รวมทั้งกับลูกเพราะบางทีลืมเปลี่ยนสำเนียงไม่ทัน

 

วันนี้นึกได้อีคำหนึ่ง "ระวังมันจะปุ้นเน้อ" เจ้าลูกชายจับปลามาได้ผมกลัวเขาจะทำหลุดมือไปก็เลยพูดขึ้น ลูกชายก็เลยงง ปุ้น เป็นยังไงพ่อ

 

ปุ้น หมายถึง หลุดไป หนีไป

 

หากคนโข่ทัย มีคำอะไรที่นึกขึ้นได้ เขียนลงมาไว้ด้วยนะครับ อนาคตผมอาจจะได้ทำพจนานุกรมภาษาสุโขทัยบ้างก็ได้

วันนี้เพิ่มศัพท์ภาษาสุโขทัย อีก 3 คำ ครับ

ปลาเกลือ = ปลาเค็ม

ต๊กก๊ะหยี   = จี้เอว ทำให้จั๊กจี้ ทำให้หัวเราะ

ติ๋น   = ติ่ง อย่างชื่อเล่นผม คนที่บ้านจะเรียกว่า ติ๋น ถ้าเป็นภาษากลางที่ใช้กันก็คือ ติ่ง (ปกติผมจะไม่ค่อยใช้ชื่อเล่นเพราะดูแล้วติ๋นกับติ่ง จะเป็นคนละคนกันก็ได้ ที่แม่และญาติๆเรียกผมว่าติ๋นหรือติ่ง ก็เพราะที่หูด้านขวาผมจะมีติ่งเล็กๆ ในภาษาแพทย์น่าจะเป็น skin tag

ทราบข่าวว่าอาจารย์หมอพิเชฐจะมาบรรยายที่คณะแพทย์ มอ. ปลายเดือนมกรานี้ ดิฉันคงต้องติดต่อคณะแพทย์ขอเข้าฟังด้วยแล้วละคะ เพราะจะได้ลปรร. กับอาจารย์ตัวจริงเสียงจริง วันก่อนที่งานมหกรรมฯ ก็ไม่เจออาจารย์ เนื่องจากอาจารย์ไปออสเตรเลีย
เช่นเดียวกันครับ เสียดายมากไม่ได้เจอตั้งหลายคนที่ได้อ่านจากบันทึกที่gotoknow เพราะไม่ได้เข้าร่วมมหกรรมครั้งที่ 2
ผมเป็นเยาวชนที่สนใจภาษาสุโขทัยเพราะย่าผมเป็นคนสุโขทัยและย่าก็อยู่เชียงใหม่ พูด ภาษาสุโขทัยรู้เรื่องกับเชียงใหม่โดยเฉพาะวรรณยุกต์ เช่น กัด เป็น กั๊ด เหมือนกันสิบเป็น ซิบ เหมือนกัน ย่าผมพูดสำเนียงบ้านท่าเกษมศรี ผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ และมีบางคำใช้เหมือนคำเมืองโดยเฉพาะที่แพร่ จะพูด ขนาดนัก เหมือน สุโขทัย เหมือน กัน  ผมอยากใช้อาจารย์ สืบทอดภาษาสุโขทัยต่อไปเรื่อย ๆ ครับ ส่งคำศัพท์ มาให้เมล์ผมจะดีมาก ครับ

ช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ ขอเรียนรู้จากคุณย่าเพราะจะได้จากแหล่งที่แท้จริงครับ เพราะอาจมีบางคำที่ผมลืมเลือนไปเพราะใช้ภาษากลางบ่อยกว่า หรืออัดเทปเสียงคุณย่าเก็บไว้ก็ได้ครับ

ผมตั้งใจว่าสักวันหนึ่งจะพยายามทำพจนานุกรมสุโขทัย เมื่อวานมีพี่จากพัฒนาชุมชนสุโขทัยมาบอกว่า กำลังหัดเรียนภาษาสุโขทัย ผมก็นึกว่าหัดพูด ปรากฎว่าไม่ใช่เป็นการหัดเขียนจากศิลาจารึก อันนี้ผมช่วยไม่ได้เลยเพราะผมจำไม่ได้เลย

อาจารย์ครับทำไมสำเนียงสวรรคโลก มีบางส่วนคล้ายคำเมือง ศัพท์ก็คล้าย เช่น ตวาน หมายถึงเมื่อว่านนี้  ก่วย หมายถึง ตะกร้าชนิดหนี่ง  และมีคำสร้อย ก๊า  ก๊าย กั๊ย แล้วแต่ย่าจะพูด นะครับ บางครั้ง พูด ท เป็น ต   วัว เป็น งัว เอิ้น หมายถึง เรียก หง่อม แปลว่าทวด ผมเปรียบเทียบคำเมืองแพร่แล้วมีส่วนคล้ายสุโขทัยเหมือนกัน และผมก็แปลกใจว่าแถวอำเภอเมือง ทำไมไม่ค่อยเหมือน แถวสวรรคโลก  และตอนนี้ผมไม่ค่อยจะมีเวลาเท่าไหร่ ผมกำลังจะเอ็น แต่ผมเรียนสายวิทย์ จะเอ็นสายวิทย์นะครับแต่ผมสนใจมากมันแปลกดี ตอนแรกผมคิดว่าภาษาสุโขทัยเหมือนภาษากลาง แต่ไปบ้านย่าต่างกันลิบลับเลยจะคล้ายล้านนามากกว่า  และผมไปฟังเด็กไทยวน สระบุรีพูด ไก๊ กั๊ย เหมือนกันเลยครับ

เพิ่มเติมครับ  ผ้าต้อย  แปลว่า  ผ้าเช็ดหน้า

อ้อย   แปลว่า  ชวนกันกลับ   ผมก็เป็นคนสุโขทัยดีใจที่มีคนสนใจภาษาที่บ้านความรู้ผมน้อยอาจออกความเห็นไม่ค่อยสุภาพ  ขออภัยด้วยครับ

 

ปลาเห้ด  ........ ทอดมัน

บ๋อน ........ ที่อยู่

โด๋หน่า ...... เห็นมั้ย

เอาม๊อ ....... เอามั้ย

เน๋าน่ะ ...... ว่าแล้ว

เอ๋อ......เออใช่

เก้ย ...... หรอจ้ะ

ก่าย ..... หรอจ้ะ

โผนเปล ....ไกวเปล

ถ๋าน .... ถ่าน

ลูกต๋อม ..... ช้างน้อย

กะจี้ .... ตะขบป่า

หนึ๋ง......หนึ่ง

ส่อง.....สอง

ส่าม .....สาม

สี๊ ..... สี่

ห๊ก ....... หก

เจ้ด .....เจ็ด

ซิบเบ็ด ....สิบเอ็ด

 หม่า .....หมา

นู๋ ....หนู

อี๊หนู่ ...... ลูกสาว

ไอ้หนู่ ... ลูกชาย

หนำแหน ...... น้อยหน่า

หยูด ...... เหี่ยว

นุง ...... นิ้ม เหนียว ไม่กรอบ

สั่น ...... ฉัน

หวั่นโลก ..... สวรรคโลก

สีสั๊ต ...... ศรีสัชนาลัย

ห่อย ..... หอย

 

 

ยู้ ....... เข็น

ผ้าห้อง ....... ผ้าเช็ดหน้า

อี๊น้วม ...... ผ้านวม

อี๊หนีด ...... จิ้งหรีด

เต๋า ... เต่า

เป้ด .... เป็ด

ไก๋ .......... ไก่

 

ได้หลายคำมากเลยครับ บางคำอาจแตกต่างกันไปบ้างในแต่ละอำเภอ ตำบล เช่น

บ้านผม(ป่ากุมเกาะ ออกเสียงป๋ากุมเก๊าะ) เรียกน้อยหน่าว่า น้ำหนา

จิ้งหรีด เรียก อี๊ดีด

มุด เรียก มุ่น

คนสุโขทัยท่านอื่นๆ ลองเข้ามาช่วยกันเขียนเยอะๆนะครับ นานๆไปจะได้รวบรวมเป็นพจนานุกรมได้

จัง ......... ชน

งวม.........ครอบ

ดีอก......ตุ้มหู

แมงบี้......แมลงปอ

เกียม.......เตรียม

ตะคืนนี้.........เมื่อคืนนี้

งัว.......วัว

ยอง หมายถึง ซ้อนท้าย  เช่นยองจักรยานมา หมายถึงซ้อนท้ายจักรยานมา

ไน่  หมายถึงละลาย เช่นน้ำแข็งไน่หมดแล้ว คือน้ำแข็งละลายหมดแล้ว

เคยมีคนถามว่า ขี้อะไรกินได้ คนสุโขทัยจะตอบว่า ขี้ปุ๋น ครับ เพราะขี้ปุ๋นก็คือฝรั่ง(ผลไม้) 

เพิ่มอีก 1 คำครับ ระลึกได้จากน้องขลุ่ย ลูกชายคนเล็ก บอกว่า อยากเล่นลักลื่น

ลักลื่น = กระดานลื่น

เท่าๆ ที่ทราบ นอกจากที่สุโขทัยเองจะพูดลักษณะนี้แล้ว คนแถว อ.พรหมิราม-วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก / คนแถว อ.พิชัย และอำเภอใกล้เคียงของ จ.อุตรดิตถ์ ก็พูดออกเน่อๆ แบบเดียวกันสำเนียงเหมือนกันเลยครับ เป็นไปได้นะครับนี่คือภาษาดังเดิมเพราะประชาชนอยู่มาตั้งแต่สุโขทัย-พิษณุโลก ซึ่งเป็นเมืองเก่าทั้งนั้น ส่วนภาษาพูดของคนกรุงเทพฯ ในปัจจุบันนั้นนั่นเองแหละที่เปลี่ยนแปลง เพี้ยนและพัฒนาไปอีกรูปแบบหนึ่งต่างหาก ที่สำคัญถ้าใครได้ฟังและพูดแบบเน่อๆ นี้ได้ ไพเราะชะมัดยากเลยครับจะบอกให้

ขอบคุณคุณนราที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นครับ

ก็ขอให้ฉวยกันตะพัดกันไว้  อย่าให้เตลิดเปิดเปิง...      ผีน้อง

หนูเป็นคนอุตรดิตถ์  ก็พุดเน้อเหมือนกานค่ะ เพราะพ่อเป็ฯคนพิชัย ยายเป็นคนหวั่นโลก  เป็นภาษาที่เพราะมากเลยค่ะ
เราน่าจะช่วยกันอนุรักษ์ไว้นะครับ ตั้งเป็นชมรมอนุรักษ์ภาษาถิ่นสุโขทัย ดีไหมครับ

เพิ่มคำนึงครับ สมัยเด็กๆ เรียนประถมอยู่โรงเรียนบ้านเกาะตาเลี้ยง(อำเภอศรีสำโรง)เพื่อนๆ เรียกลูกล้อรถว่า "โอ้ง" หรือ "ลูกโอ้ง" น่ะครับ

ซาวัดดีครับ ดีใจเน๊าะที้ผานมาเจอพอดี ผมนั๋งอ๋านแล้วอ๊ดยิ้มไม่ได้กั๊บภาษ่าบ้านเราแต๊ผ่มภูมิใจกั๊บภาษาพู๊ดมาตั้งแต๋เด๊กเด๊กครับ ผ่มหยูที้บ้านส่วน-ตาลเตี้ยครับ ภาษ่าอีบ๋อนนี้ ก็จ๊ะเหมื่อนๆกัน หยางเช่น กะไร้=ไง เอ็งซั่ว,เอ็งตัว=เออ หม่าหมวง=มะม่วง ผอ=พ่อ แหม=แม่ พ่อใหย=ตา แม่ใหย=ยาย ผ้าห่มเช้า=ผ้าเช้ดตัว ขะเบือ=พริกแกง เกิ่ด=แอบหรือโกยไว้ข้างๆ ยั้ง=หยุด มีอี๊กหล่ายคำที้คนเถ้าคนแก๋เข่าได้พู๊ดเอาไว้สืบกันมา

ฟังแล้วคิดถึงบ้าน จริงๆ เลย

จุดเริ่มต้นที่ได้มาเข้าดู web นี้ เพราะพูดคำว่า "เงิง" กับคนที่ทำงานแล้วไม่มีคนเข้าใจ ก็เลยลอง search ความหมายให้คนอื่นๆ ดูกัน

ดิฉันก็มีภาษาสุโขทัยเหมือนกันค่ะก็มีภาษามาฝากค่ะ

เช่น หนัง = นั่ง , ใช่ ป๋าว = ใช่ไหม ,แม๋ = แม่

พ๋อ =พ่อ ,ผี๋ = พี่ , น๋อง = น้อง ,พ่อแก่ พ่อใหญ๋ = ตา

แม่แก่ แม่ใหญ๋ = ยาย , เลื๋อด = เลือด ,กระได =บันได

หนังสื๋อ =หนังสือ ,เมาะ = ไหม , เป็นไงบ้าง =เป็นอะไรบ้าง

ฝากไว้แค่นี้ก่อนนะค่ะ

ดิฉันคิดว่าก็ดีเหมือนกันถ้าจะมีพจนานุกรมภาษาสุโขทัย

ดีใจจังที่มีคนชอบภาษาสุโขทัย เพราะเป็นคนสุโขทัย อยู่บ้านก็พูดภาษานี้แหละ น่าภูมิใจออก มีคำศัพท์มาฝากค่ะ 1.ไอ้แก้ม คือ จิ้งจก 2.ตอดตอ คือ ตุ๊กแก ลองเอาไปพูดกันนะ

เด๊กโข่ทัยเหมือนกัน..คนศีมโร๊ง (ศรีสำโรง)

ดีใจจังมีคนไม่ลืมภาษาบ้านเรา

เหยิ๊บ,กะเทิ๊บ ,กะเทิ๊ด = ขยับ

หง๋อม = ใช้เรียก คุณทวด (พ่อแม่ของ ปู่ ย่า ตา ยาย)

นุง = ขนมที่ไม่กรอบแบบว่ามีลมเข้า หน่มมันนุง

โดยปกติก็จะพูด กู มึง กับพี่กับน้องหรือญาติที่รุ่นราวคราวเดียวกันหรือเพื่อนๆที่สนิทกันด้วยล่ะ...(ภาษาพ่อขุน)ไม่ใช่การด่าทอกันนะแต่พูดคุยกันด้วยความสนิทชิดเชื้อ(ไม่มีใครถือสากัน แบบว่าเป็นกันเอง)

เรื่องข่องกินนี่คนโข่ทัยก็มีเอกลักษณ์มาก ที่แน่นอนที่สุ๊ดก็คือ ราดหน้าใส่ซอลพริกที่อื๋นเข่าไม่ใสกัน (สูตรดั้งเดิมต้องซอสพริกยี่ห้อศรีราชา)ขอบอกเห๊อะเวลาไปเที่ยวที่อื๋นสั๋งราดหน้ากิน ที่ร้านเข่าไม่มีซอสพริกให้อ่ะ...(แบบว่ามีแต๋โข่ทัยบ้านเราเท่านั้น)

วันนี้มาลูกเดินเล่น ผ่านต้นมะขามเลยบอกลูกว่ากิ่งมะขามนี่เอามาทำ "แง้มยาง" ดี เพราะไม้มันเหนียว ไม่หักง่าย

"แง้มยาง" ก็คือ หนังสะติ๊ก ครับ

ฉั่นก็เป็นคนสู๊โข่ทัยเหมื่อนกันจ้ะ บ้านยู๊สี่นครเอ๊ง  แต๋ว่าตอนนี้ยู๊ระยองจ้ะ

เราก็คนโขทัยอยู่ทุ่งหลวง อ.คีรีมาศ มีอีกคำที่จะเสนอ ยางวง=หนังยาง ภาษาโขทัยน่ารักใช่ไหม๊ล่ะ

รักสวรรคโลก

ขอให้คนสุโขทัยรักกันและไม่ลืมภาษา ซุ่โข่ทัย

คนศรีสัชค่ะ อยู่หาดเสี้ยวค่ะ ภูมิใจเหมือนกันกับภาษาสุโขทัย

แต่เป็นคนพูดภาษาสุโขทัยไม่เป็นเลยค่่ะ ฟังออกบางคำบางคำก็ไม่ออก

เพราะว่าที่บ้านคุยภาษากลางกันค่ะ อีกทั้งหนูเป็นเด็กรุ่นใหม่ด้วยละมั้งคะ

ส่วนที่อำเภอศรีสัช หนูเคยได้ยินเพื่อนๆ พูดหลายคำคะ อย่างเช่น กัน = ฉัน โต = เธอ

ไปกะเหร๋อ = ไปไหน หนูไม่รู้ว่าคือภาษาสุโขทัย หรือภาษาถิ่นของศรีสัชอ่ะค่ะ เพราะว่าเพื่อนๆที่มาจาก

ต่างตำบลก้จะมีคำบางคำที่ต่างกันออกไปอะค่ะ

อ๋อ บางทีเด็กแพร่ก็มาเรียนที่นี่ เค้าก็จะพูดภาษาแพร่ค่ะ เช่นจะลงท้ายด้วยคำว่า เม๊าะ ใช่เม๊าะ

เวลาหนูไปในตัวเมืองหนูจะมีความรู้สึกว่า บ้านหนูกับในตัวเมือง พูดต่างกันอยู่เหมือนกันนะคะ

หรือเป็นเพราะว่าที่ศรีสัชเค้าพูด ภาษาถิ่นกันคะ ช่วยตอบคำถามหนูหน่อยก็ดีนะค่ะ ^^

ตอนนี้เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ รู้สึกภูมิใจมากขึ้นอีกค่ะ เพราะว่าคนกรุงเทพเขามองว่า

ภาษาถิ่นของแต่ละจังหวัดน่ารัก และอีกอย่างพวกเขาไม่เคยสัมผัสชีวิตในมุมของเด็กต่างจังหวัดด้วยค่ะ

หนูเลยรู้สึกภูมิใจมากเลย ที่หนูเกิดเป็นคนสุโขทัยค่ะ :]

อีกอย่างที่สุโขทัยมีคือแต่ละอำเภอ หรือต่างที่กันหน่อยบางคำก้อพูดไม่เหมือนกันแล้ว เมืองเ่ก่า กะ บ้านกงก้อพูดไม่เหมือนกัน

บ้านสวนเหนือกับบ้านสวนใต้ยังพูดแตกต่างกันเลย ทุ่งเสลี่ยมนี่บางคนแทบฟังไม่เข้าใจก้อมี น่ารักดี

อยากกลับบ้านจัง อยากกับไปพัฒนาบ้านเกิดเราจังเลย

บ้านผม ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ก็พูดเหมือนกันครับ

ยังมีที่อื่นอีกแต่แตกต่างที่ศัพท์บางคำ

-ต.หาดกรวด

-ต.ทุ่งยั้ง

-ต.บ้านเกาะ

-ต.ป่าเซ่า

-----------------------------------------

ผมเคยได้ยินคนแก่บางคนพูดครับ

-ลูกหน๋อย=ลูกสุนัข

-ตุ๊กแก้ม=จิ้งจก

-ตั๊กกะเดี้ย=ลูกน้ำ(ยุง)

นึกไม่ออกแล้วครับ

ปล.เสียดายครับ ที่เด็กๆ/คนรุ่นใหม่ๆที่เข้าไปเรียนในตัวจังหวัด หรือต่างจังหวัด อายที่จะพูดภาษาถิ่น

ผ่มก็เป็นคนโข่ทัยครับ บ้านอยู๋หนองจิก คีรีมาศครับ เดี๋ยวนี้ห่าฟังคำบางคำเก๋า ๆ แท้ ๆ ย๊าก เดี๋ยวนี้เด๊กรุ๋นหลังมันคิดคำแปลกๆ มาพู๊ดกันเสียเยอะ บางคำที๋เราพู๊ดกันทุกวันก็เปลี๋ยนไปเหมื่อนกัน ต้องคำที๋ปู๋ ย่าตา ยาย เราพู๊ดกันจะมีแปลกๆเยอะ ตอนเด๊กก็ผ่มก็พู๊ด มีเยอะกว๋านี๊ อาจะลืมกันไปแล้ว อยากให้มีพจนานุกรมครับ อย๋าให้ภาษ่าบ้านเราห่ายไปนะครับ ผอ แม๋ พี๋ น้อง....

โปรดอ่ายเป็นภาษาซุโข่ทัย...เพื่อให้ได้อรรถรส(เขียนถูกเม๊าะแน๊ะ)

เอากันให้เหมาะ

ทุกวันนี้หนู๋มาเรียนอยู่พะเยา

ก็ยังพูดภาษาซุโข่ทัยอยู่เลย...พูดกลางกะเค้าไม่ค้อยจะได้...จนเพื่อนๆที่เค้าอยู๋ภาคเหนือ...พูดคำเมืองเหน่อกันหม๋ด

แต่ก็ภูมิใจที่เกิดเป็นคนโข่ทัย...ยิ่งคุยกะอาจารย์ที่พะเยา..เค้ายิ่งช้อบ...อิอิ

เพื้อนๆที่เป็นคนโข่ทัย...ไปอยู๋ที่ไหนก็ไม่ต้องอายกันเด้อ...พูดเข้าไปเหอะ...เดี๋ยวภาษาโข่ทัย..จะห้ายเสียก่อน

เหอะๆๆๆ..:))

สวัสดีค่ะ ฉันก็เป็นคนหวันโลกเมือนกันค่ะบ้านอยู๋หนองกั๊บ มีภาษ่ามาแนะนำ

ระทึบ=เข็มขัด

หอมแฝก=ตะไคร้

ปลาแกม=ปลาช่อน

สบู่ซุหั่ว=ยาสระผม

ชอบภาษาสุโขทัยมาก

เวลากลับไปบ้านที คน ที่บ้านพูดกันก็จะพูดตาม

ถึงจะไม่ได้เกิดที่สุโขทัย หรืออยู่สุโขทัยก็พอพูดได้อะค่ะ

อยากกลับไปอยู่เหมือนกันเน๊อะ

เพราะเป็นเมืองที่สงบร่มเย็นมาก

สมเป็นไทยจริงๆ

ภาษาสุโขทัยแปลกที่สุดแล้วครับในการพูด

ผมเรียนอยู่กรุงเทพเข้ามาใหม่ๆพูดกับเพื่อนที่มาจากต่างจังหวัด

ถึงกับงงครับ

มีอยู่ครั้งหนึ่งครับ เพื่อนช่วยนั้งรถไปด้วยกัน

มันถามผมว่า จะไปด้วยกันกับเรามั้ย ผมบอกว่า ไปเอ๊ง แล้วก็บิดรถหนีผมไปเลย

ผมก้ถามมันว่าเองบิดรถหนีเราทำไม มันบอกว่า เห็นผมบอกว่าจะไปเอง งงใช่มั้ยครับ

หนู่เป็นคนสุ่โข่ทัยแบบครึ๋งๆกลางๆ

แม่หนู่อยู๋สู่โขทัย

ตอนนี้หนู่อยู๋โคราช

นานๆทีจะได้พู๊ดภาษ่าสุ่โข่ทัย

แต๋ก้พู๊ดกับแม่ส่องคนบ๋อยๆ

ปีหนึ๋งจะกลับสุ่โขทัยที๋คิ้ดถึ่งสุ่โขทัยมากมาย

^^

ได้อ่านแล้วคิดถึงบ้านจังคะ

สำเนียง ของภาษาสุโขทัย จะแตกต่างกันตามแต่ละตำบลคะ อาจไม่เหมือนกัน ที่อำเภอศรีสัชฯ

ตำบลหาดเสี้ยว จะพูดภาษาไทยพวนคะ ตำบลปากคะยาง (พิมพ์ถูกหรือเปล่า) ก็จะพููดออกอีกแบบหนึ่ง และอื่น ๆ คะ

แต่ที่สารจิตร (สารจิ๋ต) จะพู๋ดสำเนียงซุโข่ทัย

น้อยหน่า - หนำหน๋า

เสียบ - จอบ

จอบ - กระเบอ

ผ่า - โบะ (ผ่าแตงโม - โบะแต็งโม)

มะเขือเทศ - มะเขื๋อส้ม

เมื่อคืน - ตะคื่น

เมืองสุโขทัย ถือเป็นราชธานีแห่งแรกของราชอาณาจักรไทย เมื่อ 7 ร้อยกว่าปีมาแล้ว

  • ผมไม่แน่ใจนะครับ ว่าตามแบบเรียนที่เรายึดถือกันนี้  จะสอดคล้องกับข้อมูลทางประวัติศาสตร์อื่นๆ ผมเชื่อว่าเมื่อ 1000 ปีหรือมากกว่านั้นในเขตดินแดนมีราชธานีอื่นๆเกิดขึ้นมากมาย(เราจะไม่ถือเขาเป็นราชธานีด้วยหรือ  หรือว่าเราจะไม่นับเขาเป็นไทยด้วย)
  • ตามทัศนะผมราชอาณาจักรไทยเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2483 นี่เอง(ตามชื่อจริงๆนะครับ) ก่อนหน้านี้เราเรียกราชอาณาจักรสยาม
  • ราชอาณาจักรสยามจริงๆ(ราชอาณาจักรเดี่ยวๆ)ก็พึ่งเกิดขึ้นเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนเมื่อปี พ.ศ.2435
  • ตามทัศนะผม(เน้นนะครับทัศนะผม)บ้านเมืองไทยเราหรือสยามบ้านเรา สร้างขึ้นมาจากความหลากหลายแบบผสมผสาน  ในรูปเครือข่ายเมืองหรือสหพันธ์เมืองต่างๆ ไม่มีเมืองใดเมืองหนึ่งเป็นราชธานีหลักราชธานีเดียวที่มีบทบาทการนำที่ยาวนานชัดเจน   หากแต่ผลัดกับมีบทบาทนำ  แต่อาจมีช่วงเวลาหนึ่งในห้วงเวลาสั้นๆที่มีเมืองใดเมืองหนึ่งมีบทบาทนำที่ชัดเจน เช่นเมืองสุโขทัยในสมัยพ่อขุนรามคำแหง
  • ตามทัศนะผม บ้านเมืองไทยเราหรือสยามบ้านเรา บรรพบุรุษของพวกเขาได้ร่วมกันสร้างบ้านสร้างเมือง ทั้งบนฐานความมีเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละเมืองแต่ละถิ่นฐาน เเละบนฐานการบูรณาการหลอมรวมกันจนมีเอกลักษณ์ร่วมจากแต่ละเมืองแต่ละถิ่นฐาน จนกลายเป็นเอกลักษณ์ร่วมแห่งความสยามหรือความเป็นไทย(พึ่งเป็นชื่อเรียกในภายหลังเมือ ปี 2483)
  • ถ้าเป็นตามทัศนะที่ผมกล่าวไว้อาณาจักรศรีโคตรบูรณ์  อาณาจักรสาเกตนครเมื่อ กว่า2000ที่แล้ว หรือ อาณาจักร หรืออาณาจักรเก่าแก่อย่างอาณาจักรลังกาสุกะ หรืออาณาจักรศรีวิชัย (อาณาจักรศรีโพธิ์ )ซึ่งเกิดราวปี(พ.ศ. 1202 - ราวพุทธศตวรรษที่ 18) ก็จะเป็นส่วนร่วมหนึ่งในหลายๆส่วนของการร่วมหลอมรวมในความเป็นสยามหรือไทย  อาณาจักรเหล่านี้แต่จะมีความเป็นอิสระต่อกันแต่มีความเป็นวัฒนธรรมแบบสยามร่วมกันแบบหลวมๆ
  • หากเป็นไปตามแบบเรียนของรัฐไทย เราก็นับญาติความเป็นไทยแค่ 700 ปีมานี่เองโดยนับญาติจากแค่สุโขทัยและอยุธยาแล้วมารัตนโกสินทร์เท่านั้น ปล่อยให้อาณาจักรอื่นๆที่เกิดก่อนหน้านั้นเป็นส่วนเกินหรือนับเป็นส่วนอื่นไป 
  • ศรีโคตรบูรณ์ สาเกตนคร ถูกไล่ต้อนไปเป็นพวกลาว  ศรีวิชัย(ศรีโพธิ์ ) ลังกาสุกะ ก็เป็นพวกแขกมาลายู ที่ถูกสยามไปตีมาเป็นเองขึ้นเท่านั้น ไม่ใช่สยาม  ไม่ใช่พวกที่ร่วมสร้างความเป็นไทย(ไม่ใช่เลือดไทยแท้_ถูกตั้งคำถามเป็นคนไทยหรือเปล่า)
  • ทัศนะของผมนี้ คงจะไม่ทำให้คนสุโขทัยลดความภาคภูมิใจลงนะครับ หากเป็นเช่นนั้นผมต้องกราบขอโทษเป็นอย่างแรง
  • ครับ แม้อาณาจักรเหล่านั้นเลือดความเป็นไทยอาจไม่เข้มข้น แต่ผมว่าเมืองเหล่านั้นอาณาจักรเหล่านั้นก็เป็นส่วนหนึ่งในการหลอมรวมในความเป็นสยามครับ ดีเสียอีกทำให้เรามีความเป็นไทย หรือความเป็นสยามที่หลากหลายมากขึ้น ในทัศนะที่กว้างขึ้น
  • ครับเมืองเหล่านั้นอาณาจักรเหล่านั้นเป็นราชธานีร่วมของสยาม(ไทย)มาก่อน 700 ปีแล้วอย่างแน่นอน  ว่าแต่ว่าหรือเราจะไม่นับญาติเขาเป็นไทยจริงๆหรือ

ภาษาสุโขทัยในแต่ละพื้นที่จะพูดสำเนียงต่างกันนะครับ

อ.เดียวกันแต่นละตำบลสำเนียงยังไม่เหมือนกันเลยครับ

มีความซับซ้อนมากๆตัวอย่างนะครับ

แถวๆศรีสำโรงหรือแถวๆบ้านกล้วยบ้านกงเนี่ยคำบางคำจะขึ้นเสียงสูง

แต่ถ้าแถบทุ่งหลวงหรือบ้านสวนเนี่ยจะลงเสียงต่ำใครอยากรู้จิงๆลองมาศึกษาดูครับ

คำส่วนใหญ่จะคล้ายกันแต่ต่างกันที่สำเนียงในแต่ละพื้นที่

คนสุโขทัยด้วยกันจะรู้ครับว่าพูดสำเนียงนี้เป็นคนแถบไหน(แก๋เป๋นคนต๋ำไหน)

และยังมีสแลงบางคำเช่น ไก๊ เก๊ย เอ๊ง เช่น

ใช๋ไก๊(สำเนียงบ้านสวน)

ใช่เก๊ย(สำเนียงบ้านกง)

มีอีกเยอะเลยฮะ

.....คนทุ๋งหล่วง

อยากได้ข้อมูลของภาษาสุโขทัยแบบละเอียดค่ะ

นักวิชาการ โรคจิตร แบบคุณสุเทพ นี่ ชอบ อย่างเดียวคือ อัตตา พวกที่เขาภูมิใจในบ้านเกิด มาคุยกัน คุณก็ลากเข้าไปหา ความขัดแย้ง ซะงั้น

คำถามแบบคุณ ใครๆ ก็ถามได้ครับ ถ้าอยากจะ หาเรื่อง เพราะ มันเอาแค่ ตัวเองไปวัดคนอื่น

ถ้าผมถามคุณว่า เอ๊า แล้วถ้าคุณย้อนแค่ พันปี มันจะถูเหรอ แล้วคุณ จะไม่กล่าวถึง อีก ห้าพันปี ก่อนนั้นเหรอ คุณจะตอบว่าไงครับ?

ผ่มเป็นคน หวั่นโลก อยากจะรู้ จริงๆ ว่า ส่ำเนียง ซุโข่ทัย มีที่มา หยังไง

ผ่มว่า ออกเหมื่อน กั๋บ โคราช ก็ เหมื่อน

สั่งเกตดู หล่ายอย๋าง คนโคราช พูด ออกคล้าย กั๋บซุโข่ทัย

อย๋าง

มดง่าม ยู้รถ เป็นต้น

แต๋ มีอยู๋เรื่อง ทีอยาก ถ่าม

รู้จัก ต้น กระจี๊ ไหม

ผ่ม เถี่ยง กั๋บคนภาคอื๋นว่า มันเรียก "กระจี๊" ไม่ใช่ "ตะข๋บ"

เพราะ ตะข๋บ มันต้องมีหน่าม ลูกออกสีม่วง เล็กกว๋า มะนาว ถ้าไม่สุ๋ก จ๋ะ ฝ่าด

แล้วเวลาเด๋กเกิด เข่าจ๋ะเอารก ไปฝั่งไว้ที่โคนต้น เป็นเคล็ดว่า จะได้ฉลาดแหลมคม เหมื่อน หน่าม ต๋ะข๋บ

ใครที่รู้ ช่วยแจงหนอย

เออ แต๋ ข่ำ ที่ ว่า

"ไปไม๊.

พอ ตอบ

"ไป เอ๊ง"

เพื่อน บิ๋ดรถไปเลย !!

ถู่กทั้งสองคน !

1.ไปไหน๋กันเงาะ+ไปไหนกัน 2.ไปโด๋แนะ+ไปตรงนี้นี่แหละ 3.อยู๋ไหนเงาะแนะ+ยุไหนหรอ 4.กินข้าวกันเม้า+มากินข้าวด้วยกันไหม 5.ไปซื้อขนมให้หน๋อยฮิ้+ไปซื้อขนมให้หน่อย 6.หิวข้าวอะหล่าว+หิวข้าวจังเลย 7.เยนนี้กินไรกันดีเล่า+เย็นนี้กินอะรกันดี 8.อยากกลั๊บบ้านอะ+อยากกลับบ้านจัง 9. อ๋วยต่าย....ลากยาวนะ+ ทำไรที่ไม่ได้ดั่งใจเราเลย

ผ่มตามอ๋านทุกอันเลยครับ เห่นแล้วชื่นใจ คนซุโข่ทัยไม่ลืมบ้านเกิด ไม่ลืมภาษ่า ผ่มมาอยู๋กรุงเทพก็พูดภาษ่าบ้านบ๋อยๆ บางคนก็ว่าผ่มลาว แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ ผ่มดูรายการชิงร้อยชิงล้าน เห่น เท่ง กับ ส้มเช้ง พูดในรายการข่นลุกทุกทีเลย คิดถึ่งบ้านแบบกระทันหั่น ยั๋งไง๊ก็เป็นคนซุโข่ทัย ถึ่งจะมาทำงานในเมืองก็เฮอะ เห่นกระทู้อันนี้แล้ว คนซุโข่ทัย อย๋างผมมันฮึดครับ มีแรงสู้งานอีกเยอะเลย.....จาก คนบ้านไกร ต.ไกรนอก อ.กงไกรลาศ......

สวัสดีค่ะ หนู่ก็เป็นคนซุโข่ทัย เหมื่อนกัน แต๋หนู่อยู๋ บ้านหน่องตาโชติ ตำบล วังทองแดง อำเภอเมือง นี่และ

หนู๋ไม่เคยจะอายภาษ่าซุโข่ทัย เสียเลย ภาคภูมิใจแท้ๆ ที่จังวั๊ดข่องเรามีภาษ่าพูด ไม่เหมื่อนเข่า แต๋ละอำเภอก็พูดแตกต๋างกันไป

ยิ่งเฉพาะคำสับ ข่องภาษ่าซุโข่ทัย มีจิงจัง ( จิงจัง = มากมายเยอะแยะ ) วันนี้หนู๋อยากนำเสน่อ คำสับ หนอยนะคะ

1. ขน่มมันนุง = ขนมมันไม่กรอบ

2. บุ๊ดิ๊น = ผืนดิน

3. แง้มยาง / แง้มลุ๊กก๊ะสุ่น = หนังกะติ๊ก

4. กะบวก = หลุม

5. โอ้งรถ = ล้อรถ

6. ยู้ = เข็น

7. ยางวง = หนังยาง

8. ปุ้น = หลุดออก

9. คุถั่ง = ถัง

10.หยูด = เหี่ยว

11. ง้อม = เหงา

ฮะ = โบก ( ฮะรถ = โบกรถ )

ผมเป็นโขทัยดีใจที่พวกคุนทามให้ภาษาโขทัยไม่ศูนย์หายผมดีใจจริงๆ

 

คนบ้านกล้วยเอ๊งแน่ะ

อ๋านแระ คิดถึ่งบ้าน อยู๋ไก๊ ห่าคนพูดด้ายไม่ด้ายเอ็ง อยู๋ภูเก๊ดแฟนคนอี๋สาน ไนบ้านเลยต้องพูดคล้าย เด๋วลูกงงเอ็ง บางคำก๊อลืมเอ็ง พออ่านเจ๊อแง้มยางหั่วเราะท้องแข่งเลยแน่ะ รักบ้านกล้วย คิดถึ่งซุโข่ทัย แต๊อยู๋ไก๊ถึ่งภูเก๊ด

สำเนียงสุโขทัย มันเป็นเอกลักษณ์ของคนซุโข่ทัย ที่ไม่มีที่ไหนเหมื่อนอีกแล้ว

นุง = มันเคยกรอบ แล้วไม่กรอบ หรือ จากแข็งกระด้าง เป็น นิ่มลง (เพราะมีความชื้นจากอากาศจึงทำให้ไม่กรอบ หรือนิ่มลง)

เช่น ขนมปังกรอบกินไม่หมด เปิดถุงไว้ มันจะนุง!

  เอาใบยาสูบที่แห้งกรอบ มาเพิ่มความชื้น มันจะได้นุง 

สุโขทัย มีทั้งหมด 9 อำเภอ แต่ละอำเภอพูดไม่เหมือนกันเลย อย่าแค่แต่ละอำเภอเลย ในอำเภอเดียวกันก็ยังพูดไม่เหมือนกัน จะเอาตรงไหนมายึดเป็นแบบแผนไม่ได้ คำศัพท์บางคำที่มีคนนำเสนอมาฉันเองก็ไม่รู้จักก็มี ทั้งที่เป็นคนสวรรคโลก เกิดที่นี้ โตที่นี้ ทำงานที่นี้
แง๊ะ=หรอ แมงบี้=ผีเสื้อ ยู้=ดัน พลัก หยู=อยู่ ไหม=ใหม่ ส่งใส่=สงสัย นุง=ไม่กรอบ

มุ่น = ลอด มุด

น้ำพริกส๊ด = น้ำพริกหนุ่ม

กะมัง = กะละมัง

แม่แก่ = ยาย

 

จากที่ผมอ่านกระทู้มาแล้วสำเนียงคนสุโขทัย หรือคำพูดที่ได้เขียนมานี่ คล้ายกับสำเนียง หนองบัว นว. บ้านผมเลย

ไม่ว่าจะ ศัพท์ สำเนียง ที่ได้อ่านมา

และตามประวัติหนองบัวก็เปนคนสุโขทัยอพยพลงมา ถึงว่า สำเนียงไม่ต่างกันเลย

แต่ปัจจุบันใช้ภาษากลางกันซะเยอะ เหลือไว้แต่คนโต คนแก่ เพราะคนรุ่นหลังเข้ากรุงหมด เดียวอีกไม่นานก็เปนแค่ ทรงจำ

 

อยากเรียนรู้คำศัพท์ภาษาสุโขทัยแท้โบราณ ที่ยังพอได้ยินอยู่บ้างในชนบท เพราะคำบางคำถ้าเราไม่เห็นในขณะนั้นเราจะนึกไม่ได้ว่าคำที่เขาพูดคืออะไร เช่น โอ้งรถมันปุ้นอ้อยไปไก๊ ได้ฟังครั้งแรกมึนเลย

หนู่ก้อคนซุโข่ทัยแท้ๆเลยจ้าา ดีใจที่ได้อ๋านเว๊บนี้ รักซุโข่ทัย อยากให้ภาษ๋าบ้านเรายังอยู๋ตลอดไป

เพลง คนหนองกลับ......สำเนียง ซู้โขทัย ครับ


แถ่วบ้านเรียกหนั่งยางรัดถุ่งแกงว่ายางวงอ้ะถู่กเมาะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท