คนกรุงเทพฯ ออกกำลังกายแบบไหน


ผู้ชายกรุงเทพฯ ชอบวิ่งมากที่สุด... ผู้หญิงกรุงเทพฯ ชอบเต้นแอโรบิคมากที่สุด...

      

อาจารย์ภูสิต เพ็ญศิรินำผลการศึกษาเกี่ยวกับการออกกำลังกายของคนกรุงเทพฯ ของบริษัท นาโนเซิร์ช จำกัด (www.nanosearch.co.th) ที่ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างอายุ 20-50 ปีที่ออกกำลังกายเป็นประจำ 200 คนในเขตกรุงเทพฯ

กลุ่มดังกล่าวเป็นผู้ชาย 59.5 % ผู้หญิง 40.5 % เป็นพนักงานบริษัทเอกชน 55 % ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ 29 % มาเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

การศึกษาพบวัตถุประสงค์ของการออกกำลังกายที่สำคัญได้แก่ เพื่อสุขภาพ 38 % เพื่อเข้าสังคม(พบปะสังสันทน์) 16.5 % และการควบคุมน้ำหนัก 16.5 % อาจารย์ท่านกล่าวว่า ประเด็นที่น่าสนใจคือ เพื่อความสวยงาม(ควบคุมน้ำหนัก)

      ผู้ชายกรุงเทพฯ ชอบวิ่งมากที่สุด (38.7 %) รองลงไปคือเล่นฟุตบอล (22.7 %)

ผู้หญิงกรุงเทพฯ ชอบเต้นแอโรบิคมากที่สุด (58 %) รองลงไปคือวิ่งจ๊อกกิ้ง (17.3 %)

กลุ่มตัวอย่างนิยมติดตามข่าวสารกีฬาทางโทรทัศน์มากที่สุด (96%) รองลงไปคือหนังสือพิมพ์ (2 %) อินเตอร์เน็ต (1 %) และวิทยุ (1 %)

กีฬาในดวงใจของกลุ่มตัวอย่างมากทุ่สดคือฟุตบอล (49.5 %) รองลงไปเป็นเทนนิส (7.4 %) ว่ายน้ำ (7.4 %) และมวย (6.8 %)

      ขอแสดงความชื่นชมกับท่านผู้อ่านทุกท่านที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ผู้เขียนเองก็พยายามเดินเร็ว เดินเร็วปานกลาง และเดินช้าเป็นประจำ เสริมด้วยเดินขึ้นลงบันได ออกกำลังต้านแรง และยืดเส้น (stretching) สลับกันเท่าที่จะทำได้...

ถ้าช่วงที่ต้นไม้ขาดน้ำจะยกน้ำหนักด้วย โดยการใช้ถังฝักบัวรดน้ำใส่น้ำ เดินไปรดแทนการใช้น้ำฉีด

โรงพยาบาลที่ผู้เขียนทำงานมีที่ว่างเหลือพอให้ปลูกพืชสวนครัว เช่น มะละกอ กล้วย ฯลฯ มีพยาบาลท่านหนึ่งกับคนขับรถอีกท่านหนึ่งใจดี ปลูกพืชสวนครัวไว้แจกเป็นทาน นับเป็นการดำเนินความดีตามรอยพระอินทร์

  ประวัติของพระอินทร์ท่านชอบทำสาธารณทาน เช่น ปลูกต้นไม้ให้คนได้อาศัยร่มเงา ได้เห็นดอกไม้ ได้กินผล ฯลฯ มีคนไปเก็บผลิตผลของพยาบาลกับคนขับรถ 2 ท่านนี้แทบทุกวัน นับเป็นบุญที่ออกดอกออกผลเป็นประจำทีเดียว

ท่านที่ยังไม่ได้ออกกำลังกาย ขอแนะนำให้เริ่มด้วยการเดินเร็ววันละ 30 นาทีทุกวัน หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน แนะนำให้เดินไม่เร็วนักก่อนสัก 1 สัปดาห์จนแข็งแรงดีจึงค่อยเดินเร็ว ถ้าเดินเร็วได้สัก 1 เดือนจนร่างกายแข็งแรงดีแล้ว จะลองวิ่งจ๊อกกิ้งคราวละ 20 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันก็ได้

ขอแนะนำให้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการออกกำลังกาย และการยืดเส้นของสำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน ถ้าต้องการออกกำลังกายด้วยการเดินเร็วหรือวิ่ง แนะนำให้สวมรองเท้าวิ่งจ๊อกกิ้ง เพื่อจะได้ไม่ต้องมีปัญหาบาดเจ็บจากการออกกำลังกายต่อไป

  ขอเรียนเสนอท่านผู้อ่านที่มีที่ดินให้ลองปลูกพืชสวนครัวดู เพราะจะได้พืชผักไร้สารพิษไว้กินเป็นประจำ ผลิตผลที่มีเหลือแบ่งให้คนอื่นบ้างก็ดี เป็นของฝากที่ดีกับสุขภาพทั้งผู้ให้และผู้รับครับ...

 แหล่งข้อมูล:

  • อาจารย์ภูสิต เพ็ญศิริ. 2,000 บาทต่อเดือน: ค่าใช้จ่ายสำหรับการออกกำลังกายของผู้ใส่ใจสุขภาพ. ฐานเศรษฐกิจ (10-12 พฤศจิกายน 2548). หน้า 24.
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ ศูนย์มะเร็งลำปาง จัดทำ > ๑๙ ธันวาคม ๒๕๔๘ สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๔๘
  • ยินดีให้ท่านผู้อ่านนำไปใช้เพื่อส่งเสริมสุขภาพได้ครับ...

 อ่านและดาวน์โหลดแฟ้ม PDF ได้ที่นี่...

หมายเลขบันทึก: 10110เขียนเมื่อ 19 ธันวาคม 2005 15:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณมากค่ะอาจารย์หมอ  ดิฉันก็นิยมการออกกำลังกายแต่พอเพียง  ทุกเช้าหรือเมื่อมีเวลาว่าง  ดิฉันจะเดินขึ้นบันไดเป็นประจำวันละหลายๆรอบ  เมื่อมีเวลามากๆตอนเย็น  หรือวันหยุด  ก็จะไปเดินที่สวนรถไฟใกล้บ้าน  เดินเร็ว  และบางครั้งก็ร่วมไปกับการฝึกโยคะ  แอโรบิค  ตามแต่สะดวกค่ะ  แต่ที่ออกกำลังกายเป็นปกติ  คือการเดินขึ้นบันได  เพราะบ้านพักอยู่ชั้นห้าค่ะ

ขอขอบคุณอาจารย์สิริพร และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

การเดินขึ้นลงบันไดเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้ได้ออกกำลังทั้งแบบแอโรบิค (ถ้าออกกำลังให้ต่อเนื่องกัน 30 นาที เช่น เดินแนวราบสลับ ฯลฯ) และออกกำลังต้านแรง

การเดินขึ้นลงบันไดช่วยให้กล้ามเนื้อด้านหน้าขาท่อนบนแข็งแรง > กล้ามเนื้อนี้ช่วยประคองหัวเข่า+กระดูกสะบ้า(หน้าเข่า) > ทำให้ข้อเสื่อมช้าลง

  • การออกกำลังให้หลากหลาย > สลับกันหลายๆ วิธี > ช่วยให้ร่างกายได้ออกกำลังครบทุกส่วน + ป้องกันการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายซ้ำซากที่เดิม > ช่วยให้ได้รับประโยชน์จากการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น
  • ขอให้อาจารย์สิริพร และท่านผู้อ่านทุกท่านมีสุขภาพดี ไม่มีโรคภัย

ขอแสดงความยินดีที่อาจารย์สนใจเรื่องสุขภาพ ซึ่งจะช่วยครอบครัว สังคม และประเทศชาติประหยัดได้ในระยะยาว

  • ขอขอบคุณครับ...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท