เกลือเสริมไอโอดีน
ราคาประหยัด พัฒนาสมอง ของเด็กไทยโรคขาดสารไอโอดีนหรือ“โรคเอ๋อ”เป็นปัญหาสาธารณสุขที่ต้องดำเนินการป้องกันแก้ไขอย่างต่อเนื่อง
เพราะการขาดสารไอโอดีนมีผลทำให้เกิดภาวะปัญญาอ่อน
ซึ่งจะส่งผลร้ายชัดเจนในกลุ่มวัยทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์
โดยสารไอโอดีนสำคัญมากต่อการพัฒนาสมองโดยเฉพาะช่วง
3 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์จนถึงอายุ
2 ขวบปีแรก
ซึ่งจะมีการพัฒนาทางสมองถึงร้อยละ 80
และที่สำคัญช่วงก่อนระยะ
12 สัปดาห์
ทารกที่อยู่ในครรภ์ต้องการสารไอโอดีนจากมารดาในการเพิ่มจำนวนและขนาดเซลล์สมอง
จากนั้นทารกยังต้องการสารไอโอดีน
เพื่อช่วยในการสร้างโครงข่ายใยประสาทต่อเชื่อมถึงกัน
การสร้างปลอกหุ้มเซลล์ใยประสาทซึ่งการสร้างจะเกิดต่อเนื่องไปจนถึงระยะ2ขวบปีแรกของชีวิต
มาตรการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนที่มีประสิทธิภาพ
คือ การส่งเสริมให้ทุกครัวเรือนมีการใช้เกลือเสริมไอโอดีนในการปรุงอาหารเป็นมาตรการหลัก
และ
ใช้อาหารเสริมไอโอดีนเป็นมาตรการเสริมอีกทางหนึ่งในการควบคุมและป้องกันซึ่ง
ขณะนี้มีโรงงานที่ผลิตเกลือเสริมไอโอดีนจำนวนทั้งสิ้น
191 แห่งทั่วประเทศ
มีกำลังการผลิตรวม
1.8 แสนตันต่อปี
โดยข้อมูลปี 2548
พบว่า
มีความครอบคลุมเกลือเสริมไอโอดีนในครัวเรือนเพียงร้อยละ
58.8 และมีเกลือเสริมไอโอดีนในครัวเรือนที่ได้คุณภาพมาตรฐานร้อยละ
54 เท่านั้น
ภาคเอกชนในนามของ “ชมรมผู้ประกอบการผลิตเกลือเสริมไอโอดีน”
จะได้ส่งเสริมผนึกกำลังกันสร้างความร่วมมือขึ้นในกลุ่มชมรมผู้ประกอบการผลิตเกลือเสริมไอโอดีน
ซึ่งประกอบด้วย
คุณสุรงค์ ปุญญธรรม ประธานชมรมผู้ประกอบการผลิตเกลือเสริมไอโอดีนภาคกลาง
คุณสุเมธ เผ่าสิริพัลลภ
ประธานชมรมผู้ประกอบการผลิตเกลือเสริมไอโอดีนภาคเหนือ
และคุณนฤมล อะโน
ประธานชมรมผู้ประกอบการผลิตเกลือเสริมไอโอดีนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในฐานะแกนนำหลักที่สำคัญในการดำเนินงานผลิตเกลือเสริมไอโอดีน
ผู้ประกอบการฯ ทั้ง 3
ภาค
ได้มีเป้าหมายร่วมกันที่ชัดเจนในการส่งเสริมและสนับสนุนให้โรงงานผลิตเกลือในแต่ละภาคเพิ่มอัตราการผลิตเกลือเสริมไอโอดีนคุณภาพมาตรฐานให้ครอบคลุมในทุกจังหวัดอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
เกลือเป็นส่วนสำคัญในการผลิตอาหารหลายด้าน
ไม่ว่าจะเป็นผักดอง ทำน้ำปลา ปลาร้า
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแม้กระทั่งการทำเนยแข็ง
ซึ่งในการนำเนยแข็งนั้นการเติมเกลือทำให้เกิดรส
และกลิ่นเฉพาะขึ้น การทำซีอิ้ว
ทำเต้าหู้ยี้
ผักกระป๋อง เกลือเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมห้องเย็น
มีการใช้เกลือในอุตสาหกรรมทำน้ำแข็งมาเป็นเวลานาน
เพื่อเป็น
secondary heat
transfer media เนื่องจากเมื่อเกลือละลายน้ำ
สารละลายจะมีจุดแข็งตัวลดลงต่ำกว่า
0°
ซ
(หรือ 32° ฟ)
ความเข้มข้นของน้ำเกลือสูงสุดที่สามารถใช้ได้คือประมาณ
88°
Salometer ถ้าเข้มข้นกว่านี้เกลือจะจับกับน้ำบางส่วนและแข็งตัวได้ในอุณหภูมิสูงกว่านี้
ดังนั้นเราจะใช้น้ำเกลือในกรณีที่ต้องการแช่เย็นที่ระดับ
25-50°
ฟ
ถ้าต้องการอุณหภูมิต่ำกว่านี้
ควรใช้เกลือตัวอื่น เช่น เกลือแคลเซียมคลอไรด์
แม้กระทั้งเครื่องสำอางค์ของคุณสุภาพสตรี
ยังต้องใช้เกลือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญมาตรฐานของเกลือ
(Sodium Chloride) ตามพระราชบัญญัติอาหารของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
หรือที่เรียกสั้น ๆ
ว่า “อย.”
นั้นแบ่งได้เป็น
2
ประเภทตามวัตถุประสงค์การใช้งาน
กล่าวคือหากเป็นเกลือแกงที่ใช้ปรุงหรือแต่งรสอาหารและบรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่ายโดยตรงต่อผู้บริโภค
จะจัดเป็นเกลือบริโภคตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่
153
(พศ.2537)
ซึ่งต้องมีไอโอดีนไม่น้อยกว่า
30
มิลลิกรัมต่อ
1
กิโลกรัม
และต้องแสดงฉลากให้ถูกต้องตามกำหนดในประกาศกระทรวงฯ
โดยไม่ต้องส่งมอบฉลากใช้ อย. พิจารณาอนุมัติ
แต่ถ้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
มีวัตถุประสงค์ที่จะนำไปใช้ในทางอุตสาหกรรมอาหารจะจัดเป็นอาหารควบคุมเฉพาะประเภทวัตถุเจือปนอาหาร
ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่
84
(พศ.2527)
ซึ่งมีเนื้อหา
คือมี สูตรโมเลกุล
NaCl
น้ำหนักโมเลกุล
58.44
คุณลักษณะ
เป็นผลึกสีขาวใสหรือขุ่นเล็กน้อย
มีขนาดต่าง ๆ กัน เกลือสินเธาว์จะมีสีขาวหรือเกือบขาว
เมื่อตั้งทิ้งไว้ในที่มีความชื้นสัมพัทธ์สูงกว่าร้อยละ
78
จะชื้นและเยิ้ม
ละลายได้ดีในน้ำและกลีเซอรีนจังหวัดเพชรบุรีเป็นฐานการผลิตเกลือทะเลที่สำคัญของประเทศไทย
พร้อมส่งกระจายไปทั่วประเทศ
เพื่อป้อนให้กับผู้บริโภคและโรงงานอุตสากรรม
ดังนั้นจึงขอสนับสนุนการที่ คุณสุรงค์
ปุญญธรรม ประธานชมรมผู้ประกอบการผลิตเกลือเสริมไอโอดีนภาคกลาง
มีการเพิ่มอัตราการผลิตเกลือเสริมไอโอดีนคุณภาพมาตรฐานให้มากยิ่งขึ้น
อย่างน้อยก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกันพัฒนาเด็กไทย
ไม่ให้เป็นโรคเอ๋อ เป็นการสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่
อีกทางหนึ่งด้วย นะครับ
สามารถดูบทความด้านวิชาการเกี่ยวกับ เกลือ เกลือเสริมไอโอดีน
ได้ที่นี้ครับ www.banphusalt.com