บายศรีสู่ขวัญ (คำกล่าวอวยพร)
พวกเราหลายคนหรืออาจจะทุกคนก็ได้ที่ได้ไปร่วมงานแสดงความยินดีต่าง ๆ ทั้งงานบวชนาค งานมงคลสมรส งานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ งานฉลองการได้เลื่อนยศ งานวางศิลาฤกษ์ ในตอนหนึ่งของงานจะมีพิธีกร (ผู้ประกาศ) ขอเชิญให้บุคคลสำคัญของงานขึ้นสู่เวที พร้อมทั้งเชิญเจ้าภาพขึ้นสู่เวที แล้วพิธีกร ก็เรียนเชิญให้แขกผู้ใหญ่ท่านนั้นคล้องพวงมาลัย และกล่าวคำอวยพร
บายศรีสู่ขวัญ เป็นพิธีที่มีมาแต่โบราณกาล โดยเริ่มมาจากพิธีพราหมณ์ก่อนจนมีการแผ่ขยายในวงกว้างมาสู่มนุษย์ ชาวไทยเราจำนวนมากก็นับถือพราหมณ์ นับถือผีผสมผสาน ไปกับพระพุทธศาสนา แทบจะแยกกันไม่ออก (ในเรื่องของศาสนพิธี)
คำว่า ขวัญ ผมเคยเล่าบ้างแล้วในบทความทำขวัญนาค ขวัญ เป็นผมหรือเส้นขนที่หมุนเวียน เป็นก้นหอย มีทั้งที่ศีรษะและตามตัว บางคนมีมากกว่า 1 ขวัญ ที่เราต้องเรียกขวัญ รับขวัญ เชิญขวัญ ทั้งนี้เพราะขวัญ เป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตน แต่เกาะติดอยู่กับตัวคน ที่หัวคน บนศีรษะหรือที่เหนือท้ายทอย
การเรียกขวัญ กระทำสำหรับผู้ที่ตื่นตระหนก ตกใจ ขวัญหนี ถ้าเป็นเด็ก ๆ แม่จะปลอบขวัญให้ลูกชาย ลูกสาวที่กำลังตกใจว่า “ขวัญเอ๊ย ขวัญมา มาอยู่กับเนื้ออยู่กับตัวนะลูกนะ” แล้วแม่ก็เอามือลูบที่แผ่นหลังให้ลูก เพื่อเป็นการเรียกขวัญให้กลับคืนมา
1. ผู้ทำพิธี เป็นชายผู้สูงอายุ (หมอขวัญ) เป็นเจ้าพิธี กล่าวเชิญชวนแขกมาร่วมในพิธี
2. เจ้าพิธีกล่าว ชุมนุมเทวดา “สักเค กาเมจรูเป คิริสิ ขะระตะเฏ.” แล้วว่า นะโม 3 จบ
3. เริ่มสวดเรียกขวัญ กล่อมขวัญ ให้ศีลให้พรด้วยท่วงทำนองเสนาะ (ตามท้องถิ่น)
4. เจ้าพิธี นำเอาด้ายมงคลมาผูกข้อมือรับขวัญ (ข้อมือซ้าย) หยิบอาหาร ไข่ ให้ผู้ที่มารับขวัญกินอย่างละเล็ก อย่างละน้อย (กินพอเป็นพิธี)
5. ญาติมิตร บุคคลทั่วไปเข้ามาผูกข้อมือให้กับผู้รับขวัญ จะต้องรักษาด้ายเอาไว้ 3 วัน
จะอย่างไรก็ดี พิธีบายศรีสู่ขวัญ เป็นการให้กำลังใจและบำรุงขวัญ คำว่า “บายศรี-สู่ขวัญ” จึงเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคล ในโอกาสอันเป็นมงคลต่าง ๆ เพราะว่าแม้แต่สิ่งของที่มีคนนำเอามาให้ เรายังเรียกว่า “ของขวัญ” ถ้าเช่นนั้น สิ่งใดดีมีสาระจึงสมควรยกย่อง และรักษาไว้ เพื่อรักษา วัฒนาธรรมของชาติสืบต่อไป ครับ
-ขอให้น้องชาย ข้าพเจ้าบำเพ็ญศิล ธรรม เพื่อนประโยชน์ เพื่อความสุขตลอดกาลนานเทอญ
ข้าพเจ้าไม่ได้ไปผูกข้อมือ ข้าพเจ้าก็จะสวดมนต์แผ่เมตาให้มีความสุข สาธุ
๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔
สิบโท อเนกพงษ์ นามบุตร