ผลไม้..ไม่ทำให้น้ำหนักลด

เรื่องผลไม้นั้นสำคัญ ดิฉันพบคนไข้หลายท่านที่เข้าใจผิด ต้องให้ข้อมูลว่าผลไม้ก็มีแป้งและน้ำตาลเหมือนกัน ดังนั้นหากเราทานในปริมาณมากย่อมส่งผลให้น้ำหนักขึ้นอย่างแน่นอน

วันนีมีคนไข้เบาหวานเข้ามาคุยเรื่องลดน้ำหนักค่ะ บอกว่าลดอย่างไรก็ไม่ลงสักที

ลองสอบถามเกี่ยวกับอาหารการกินพบว่า  คนไข้พยามยามที่จะลดข้าวลงโดยทานเพียงมื้อละ 2-3คำ เน้นที่ทานกับเยอะทั้งผักและเนื้อสัตว์ แต่จะมีอาหารจุกจิก เช่นขนมหวานทุกบ่าย และที่สำคัญทานผลไม้ครั้งละ 1 จานใหญ่ ทั้งมะละกอ แก้วมังกร ฝรั่ง มะม่วงดิบ วันละ 3 ครั้ง เพราะคิดว่าผลไม้ไม่มีน้ำตาลทานได้เต็มที่

เรื่องผลไม้นั้นสำคัญ ดิฉันพบคนไข้หลายท่านที่เข้าใจผิดคิดว่าผลไม้จืดทานได้เยอะทานเท่าไรก็ไม่อ้วน หรือไม่ทำให้น้ำตาลสูง ต้องให้ข้อมูลว่าผลไม้ก็มีแป้งและน้ำตาลเหมือนกัน คิดง่ายๆเพราะผลไม้มีน้ำตาลผลไม้  จึงมีรสชาติหวานอร่อย ชื่นใจ ส่วนผลไม้ที่ไม่หวานจัดก็มีแป้งที่สามารถถูกย่อยแล้วเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลเช่นกัน ปกติดิฉันจะแนะให้สังเกตเวลาเราฝานมะม่วงดิบ จะมีน้ำแป้งติดเป็นคราบกับมีด นั่นแสดงว่าผลไม้ที่ไม่หวานจัดไม่ใช่จะไม่มีแป้งหรือน้ำตาลเลย ดังนั้นหากเราทานในปริมาณมากย่อมส่งผลให้น้ำหนักขึ้นอย่างแน่นอน

หลังจากทำความเข้าใจกันก็ตกลงกันเรื่องปริมาณผลไม้ ก็ตกลงกันว่าให้ทานได้มื้อละ 1 ผลกลาง หรือประมาณ 12-15 คำ ถ้าผลไม้หวานจัดก็ให้ลดลงมาครึ่งหนึ่ง และให้ทานข้าวเพิ่มได้เป็นมื้อละ 1-2 ทัพพีทั้งนี้เพื่อให้รู้สึกอิ่มในมื้อหลัก จะได้ลดการทานจุบจิบ กับข้าวก็ให้ลดพวกของผัดมัน ทอด และนัดมาพบกันอีกครั้งในอีก 1 เดือนหน้าพร้อมแพทย์เนื่องจากอยู่ไกลถึงเชียงใหม่ แต่ก็นัดกันว่าเราจะโทรคุยกันทางโทรศัพท์ในช่วง 2 อาทิตย์ เพื่อติดตามการปรับเรื่องอาหาร และจะได้มีโอกาสซักถามหากมีข้อสงสัยค่ะ

จุรีย์พร จันทรภักดี

นักกำหนดอาหาร