บทที่ 2 ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของยางพารา
-ชื่อวิทยาศาสตร์ Hevea brasiliensis L.
-การจำแนกทางพฤกษศาสตร์
Class Angiospermae
Subclass Dicotyledonae
Family Euphorbiaceae
Genus Hevea
Species brasiliensis
-ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
-ราก
ระบบเป็นแบบรากแก้ว (tap root system) ประกอบด้วยรากที่เจริญมาจากคัพภะ (embryo) เรียกว่ารากแก้ว (primary root หรือ tap root) และมีรากแขนง (secondary root หรือ lateral root) ที่แตกออกมาจากรากแก้ว
-ลำต้น
ลำต้นตั้งตรง มีลักษณะคล้ายรูปกรวย หรือรูปทรงกระบอก เป็นไม้เนื้ออ่อน ความสูงของลำต้น 30-40 เมตร ชั้นนอกสุดของลำต้น คือ เปลือก (bark) ชั้นนอกสุดของเปลือกคือ ชั้นเปลือกแข็ง (hard bark) ที่มี stone cell และท่อน้ำยาง (latex vessel) ชั้นในสุดของเปลือกคือ ชั้นเปลือกอ่อน (soft bark) ถัดจากเปลือกเข้าไปจนถึงกลางลำต้นเป็นชั้นของท่อลำเลียง (vascular cambium) เนื้อไม้ (wood หรือ xylem) และแกนกลางลำต้น (pith) ตามลำดับ
-ใบ
ใบเป็นใบประกอบแบบ trifoliolate มีใบย่อย 3 ใบ รอยต่อระหว่างใบย่อยกับก้านใบต่อกันจะมีต่อมน้ำหวาน (extrafloralnectary) 3 ต่อม เหนือรอยแผลหลังจากที่ใบร่วงจะพบตา 2 ชนิด คือ
1. ตาข้าง (lateral หรือ axillary bud) คือ ตาที่ช่วยในการแตกกิ่งและใบ ลักษณะคล้ายรูปใบโพธิ์หัวกลับ
2. ตาดอก (flower bud) คือ ตาที่เจริญเป็นดอก ลักษณะรูปวงแหวน
-ช่อดอกและดอก
ยางพาราเป็นพืชที่มีช่อดอกตัวผู้และช่อดอกตัวเมียอยู่บนต้นเดียวกัน แต่อยู่คนละตำแหน่ง เรียกว่า monoecious plant
ช่อดอกเป็นแบบ panicle รูปร่างคล้ายปิรามิด ก้านดอก (pedicel) สั้น มีต่อมน้ำหวาน (nectary gland) อยู่ที่ฐานด้านนอกของกลีบเลี้ยง (sepal) ที่มีส่วนโคนเชื่อมติดกัน (calyx tube) ดอกตัวผู้มีเกสรตัวผู้ (stamen) ละอองเกสรตัวผู้ (pollen) ดอกตัวเมีย ประกอบด้วยรังไข่ (ovary) ก้านเกสรตัวเมีย (style) ที่สั้น และยอดเกสรตัวเมีย (stigma)
-ผลและเมล็ด
ผลเป็นแบบ capsule เมล็ดเป็นรูปไข่ ประกอบด้วย เยื่อหุ้มเมล็ด (seed coat หรือ testa) เอนโดสเปิร์ม (endosperm) ถัดจากเอนโดสเปิร์มเข้าไปเป็นใบเลี้ยง (cotyledon) และแกนต้นอ่อน (embryonic axis)
(ที่มา : http ://agri .kps .ku .ac .th/agron/main .php?pg=chapter&et_id=10&e_id=1)
ไม่มีความเห็น