"...ชีวิตเหมือนเสียงดนตรี...มีเพราะ...มีไม่เพราะ...มีถูกจังหวะ...ไม่ถูกจังหวะ
แต่ก็จงเรียนรู้และน้อมรับที่จะอยู่กับมัน
ไม่ผิดไม่มีถูก...ถ้าตนเองมีความสุขเล็กๆ...แต่ต้องไม่รบกวนความสุขของผู้อื่นเลย..."
เป็นคำสอนที่ไม่ได้สอนของยายของทิมดาบ...
ตอนเล่นเปียโนทั้งยามรุ่งเช้าและก่อนนนอน...
ตาและยายอายุเกือบเจ็ดสิบปีแล้ว...มาอยู่ที่บ้านทิมดาบได้สัปดาห์กว่าๆ แล้ว
มีหลานสาวตัวเล็กๆ อายุสามขวบมาด้วย...บ้านจึงครื้นเครงและไม่เงียบเหงา
แม่ของทิมดาบ...ขอให้ตามาอยู่ด้วย เพื่อได้พาไปหาหมอและพักรักษาตัวจากการปวดต้นคอ
ผมว่า...ทิมดาบได้เรียนรู้และได้ความรักจากการอยู่ร่วมกันระหว่างตาและยาย
การได้รับใช้และปรนนิบัติเล็กๆ น้อยๆ
ชีวิตของทิมดาบเหมือนเสียงดนตรี...
ตอนแรกผมรู้ห่วงว่า...โตขึ้นเขาอยากเป็นครูสอนเปียโน...สอนเด็กเล็กๆ...
ตอนนี้เลิกกังวลแล้ว...เพราะเสียงดนตรีก็เหมือนชีวิต...เหมือนยายที่พูดไว้
ทิมดาบจะสุขหรือทุกข์...มีกินหรือไม่มีกิน...ไม่สำคัญ
เท่ากับทิมดาบได้เดินบนเส้นทางเรียนรู้และเดินตามเสียงหัวใจของตนเอง....
อิสระ คือ แนวทาง
ชื่บชอบครอบครัวอบอุ่นค่ะ
สามสิ่งที่ผู้ใหญ่ทุกคนน่าจะปลูกฝังและให้เป็นสมบัติติดตัวเด็ก...ซึ่งต้องเป็นผู้ใหญ่ต่อไปคือ
ดนตรี กีฬา ศิลปะ :)