<table style="margin: 2px; padding: 2px; width: 646px; height: 1px;" border="0"><tbody><tr style="margin: 0px; padding: 0px;"> <td style="margin: 2px; padding: 2px; text-align: left; vertical-align: top;">
</td>
<td style="text-align: right; margin: 2px; vertical-align: top; padding: 2px;">
เว็บศูนย์รวม
“โยคะสารัตถะ”
</td>
</tr></tbody></table><p></p>
<h2 style="text-align: center;">โยคะสำหรับหัวเข่า
ช่วยให้หัวเข่าของคุณยืดหยุ่นและแข็งแรง</h2>
เพราะหัวเข่าอยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางของขาคนเรา
จึงมีหน้าที่พยุงตัวและเคลื่อนไหว หัวเข่าประกอบไปด้วยกระดูก,
เอ็นยึดระหว่างกระดูกกับกระดูก, เอ็นยึดระหว่างกล้ามเนื้อกับกระดูก
และกระดูกอ่อน
หัวเข่าเป็นอวัยวะที่รับรู้ความรู้สึกได้ไวและมีความเสี่ยงในการวางตำแหน่ง
หากกระดูกและข้อต่อไม่แข็งแรง
การบาดเจ็บของหัวเข่าเกิดจากการทำกิจกรรมที่ใช้กำลังอย่างมาก เช่น
การเล่นกีฬาต่างๆทำให้เป็นโรคปวดข้อหรือโรคข้อกระดูกอักเสบ
ซึ่งเป็นรูปแบบปกติของผู้เป็นโรคข้อต่ออักเสบ
อาการบวมอักเสบของข้อต่อ, ตึง, เคล็ดขัดยอก
และเอ็นอักเสบเป็นอาการปกติของผู้บาดเจ็บหัวเข่า
ซึ่งจะมีอาการบวมและบาดเจ็บของเอ็นกล้ามเนื้อ
เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บเหล่านี้
ควรจะทำการอบอุ่นร่างกายทั้งก่อนและหลังทำกิจกรรม
เพื่อให้กล้ามเนื้อยืดตัวได้ดีระหว่างทำกิจกรรมต่างๆ
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความเสี่ยงคือการมีน้ำหนักตัวหรืออ้วนมากเกินไป
สำหรับนักกีฬาแล้วอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าเป็นสาเหตุให้ต้องหยุดเล่น
เพราะข้อต่อของการเคลื่อนไหวเป็นส่วนสำคัญในการเล่นกีฬาทุกประเภท
มันอาจจะต้องใช้เวลา 3 อาทิตย์ถึง 6
เดือนในการฟื้นฟูก่อนที่หัวเข่าจะกลับมาใช้ได้อีกครั้ง
การรักษาอาการบาดเจ็บของหัวเข่านั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น
บางครั้งอาจใช้แค่ยาผ่อนคลายความปวด, กายภาพบำบัด
หรือโปรแกรมออกกำลังกาย ในขณะที่หากอาการบาดเจ็บรุนแรงมาก
อาจจำเป็นต้องใช้การผ่าตัดหัวเข่าในการรักษา
โยคะเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษาการบาดเจ็บของหัวเข่า
ซึ่งมีดังต่อไปนี้
ควรระลึกไว้ว่าการทำกิจกรรมขณะที่บาดเจ็บนั้นไม่ใช่วิธีการบำบัดที่ดี
ควรฝึกโยคะระหว่างการฟื้นฟูรักษาเท่านั้น
และไม่ควรฝึกขณะที่เพิ่งได้รับบาดเจ็บ
การฝึกโยคะเป็นเพียงแนวทางในการฟื้นฟูและพัฒนาความแข็งแรงให้หัวเข่าของคุณ
ผู้มีปัญหาควรปรึกษาแพทย์ก่อนฝึกโยคะ
ท่าอาสนะต่อไปนี้เป็นท่าที่เหมาะกับหัวเข่า
ช่วยให้หัวเข่าแข็งแรงมากขึ้น, ยืดหยุ่นขึ้น
และลดแนวโน้มการบาดเจ็บ
ท่าศพ (Savasana)
ท่าศพเป็นท่าผ่อนคลายตามรูปแบบดั้งเดิม
และสามารถฝึกก่อนหรือระหว่างที่ฝึกท่าได้เช่นเดียวกับการผ่อนคลายในช่วงสุดท้ายหลังฝึก
ท่านี้มองดูแล้วเหมือนจะง่าย
แต่ในความเป็นจริงแล้วยากในการฝึก
ท่านอนหน้าผากจรดหัวเข่า (Pavanamuktasana)
คำว่า Pavanamuktasana มาจากภาษาสันสกฤต คำว่า ‘Pavana' หมายถึง
อากาศหรือลม ส่วน ‘Mukta' แปลว่า อิสระหรือปลดปล่อย
ท่านี้มีผลสำคัญกับระบบย่อยอาหาร
โดยเฉพาะจะช่วยกำจัดแก๊สในช่องท้องด้วย
ท่ายืนเหยียดขาพับตัว (Stand Spread
Leg Forward Fold)
การฝึกท่ายืนเหยียดขาพับตัวช่วยเพิ่มกำลังและเหยียดจากกล้ามเนื้อด้านในและด้านหลังของขาและกระดูกสันหลังของคุณ
ผู้ที่มีปัญหากับด้านหลังช่วงล่างไม่ควรฝึกแบบเต็มท่า
สำหรับผู้เริ่มต้นอาจใช้อุปกรณ์ช่วยเช่นเก้าอี้พับเพื่อรองแขนบริเวณระหว่างข้อศอกกับข้อมือ
ท่าตรีโกณ (Trikonasana)
ในศาสตร์ของฮินดู สามเหลี่ยมคือสัญลักษณ์ที่มีอำนาจสำหรับพระเจ้า
และยังพบบ่อยในยันตราและมันดาลา (The Yantras and Mandalas)
ใช้สำหรับการทำสมาธิ
ท่างู (Bhujangasana)
ท่านี้พัฒนาความยืดหยุ่นของกระดูกสันหลังและเพิ่มกำลังให้กับกล้ามเนื้อแขนและหลัง ยังช่วยบรรเทาการมีประจำเดือนแบบไม่ปกติและอาการท้องผูกอีกด้วย
ท่ายกขาข้างเดียว (Single Leg
Raises)
ท่านี้เป็นท่าเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนฝึกท่าอื่น
เป็นท่าที่มีประโยชน์แก่ขา, กล้ามเนื้อหลังช่วงล่าง และบริเวณหน้าท้อง
การฝึกยกขาข้างเดียวทำได้โดยยกขาข้างเดียวขึ้น
ขณะที่ขาอีกข้างคงอยู่บนพื้น
ท่าตั๊กแตน (Salabhasana)
ถ้าท่างูฝึกด้วยการใช้หลังช่วงบนเป็นหลัก
จุดมุ่งหมายของท่าตั๊กแตนจะอยู่ที่หลังช่วงล่าง
ท่านี้เพิ่มกำลังที่ช่วงท้อง, แขน และขา
อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ท่านี้แตกต่างจากท่าอื่นคือการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
ท่าผ่อนคลาย
ขั้นแรกของการฝึกโยคะคือการเรียนรู้การผ่อนคลายของร่างกายและจิตใจ บทความนี้ช่วยให้คุณรู้ว่าทำไมการผ่อนคลายถึงจำเป็นต่อการฝึกโยคะ และเรียนรู้การฝึกท่าศพและท่าอื่นๆสำหรับฝึกร่างกาย จิตใจ ไปพร้อมกับความรู้สึกที่ผ่อนคลาย
.....
ไม่มีความเห็น