วิธีป้องกันและรักษาแผลกดทับ


การป้องกันและรักษาแผลกดทับโดยภูมิปัญญาชาวบ้าน
 วันหยุดที่ผ่านมาดิฉันได้ไปเยี่ยมญาติซึ่งป่วยเป็นเบาหวานที่ ชั้น 11 ป้าป่วยเป็นเบาหวานมาหลายปีแล้ว เข้า รพ.ด้วยอาการช็อค วันที่ไปเยี่ยมป้านอน รพ.มาประมาณ 3-4 วัน เริ่มมีแผลกดทับ ซึ่งดิฉันค่อนข้างตกใจ เพราะทราบมาว่ารักษายากมาก โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน แต่ลูกของป้าซึ่งเฝ้าไข้เขาบอกว่า ไม่มีปัญหาหรอกกลับไปบ้านก็หาย ซึ่งดิฉันซักเสียถี่ยิบว่าหายแน่หรือ เขาบอกว่าแน่ พร้อมยกตัวอย่างคนนั้น คนนี้ ในหมู่บ้าน สรุปได้ว่าหลังจากกลับไปบ้าน เขาจะนอนบน "ฟาก" ฟากคือแคร่ที่ทำด้วยไม้ไผ่ หรืออาจทำด้วยไม้หมาก ไม้หลาโอน หรือไม้อะไรก็ได้ที่เป็นซี่ๆ แต่ไม่ควรทา แลคเกอร์หรือวัสดุขัดเงา อื่นใด เอามากรองต่อกันให้เป็นแผ่นเหมือนในภาพ เขาบอกว่าวันเดียวก็แห้งแล้ว

 กลับมาที่ทำงานดิฉันอดคิดต่อไม่ได้ เริ่มหาข้อมูลเพิ่มเติมจากอินเตอร์เน็ต  เรื่องแผลกดทับ (เพราะแม่ก็เป็นเบาหวาน) ประมาณ 5-6 web เข้าไปเจอคำถามซ้ำๆ คือทำอย่างไรถึงจะหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และคำตอบก็เหมือนๆกันเกือบทุก Web คือ หมั่นทำความสะอาด ไม่ให้เปียกชื้น ให้นอนเตียงลม เตียงน้ำ เบาะเจล ราคาตั้งแต่หลายพันไปจนถึงหมื่น

ดิฉันจึงคิดต่อในรายละเอียดว่าแผลแห้งและหายได้อย่างไร ก็ได้ข้อสรุปตามสามัญสำนึกของคนไม่มีความรู้ด้านนี้ว่า

  1. นอนแคร่บริเวณแผลมีการถ่ายเทอากาศได้ดี แผลไม่อับชื้น และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น ผู้ป่วยควรใส่เสื้อผ้าที่ทำจาก Cotton 100 % ด้วย
  2. เวลาคนไข้พลิกตัว พื้นของแคร่ซึ่งเป็นซี่ ไม่ราบเรียบจะเป็นตัวนวดกล้ามเนื้อได้ดี ทำให้เลือดไหลเวียนสะดวก โอกาสที่จะเกิด "เนื้อตาย" ก็น้อยลงด้วย
  3. แคร่ทำจากวัสดุธรรมชาติ สามารถซึมซับเหงื่อและไขมัน ที่ออกจากร่างกายได้ดีกว่าวัสดุสังเคราะห์

จึงมาคิดต่อว่ารูปแบบของแคร่โดยทั่วๆไป จะเป็นเหมือนแบบที่ 1 คือซี่ของแคร่วาง ตั้งฉากกับลำตัวเวลาพลิกตัวในแนวซ้ายขวาเนื้อบริเวณเดิมก็จะโดนกดทับอยู่อย่างเดิม นอกจากว่าเราจะเขยิบขึ้นลงจึงจะเปลี่ยนบริเวณที่โดนกดทับ จึงมีแนวคิดทำแคร่ในรูปแบบตามแบบที่ 2 เพื่อจะแก้ปัญหาแผลโดนกดทับที่เดิมเวลาพลิกตัว เพราะซี่ของแคร่วางในแนวเฉียง เวลาคนไข้พลิกตัวบริเวณเดิมที่โดนกดทับอาจมาตรงกับบริเวณช่องว่างของแคร่ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นไม่โดนกดทับ สลับกันอยู่อย่างนี้ ทุกครั้งที่คนไข้พลิกตัว แผลจึงหายเร็วขึ้น

  

ใครมีประสบการณ์เรื่องแผลกดทับเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ

 

หมายเลขบันทึก: 34884เขียนเมื่อ 21 มิถุนายน 2006 09:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (32)
  • พี่เม่ยไม่มีประสบการณ์เรื่องแผลกดทับหรอกนะคะ แต่เข้ามาอ่านแล้ว "ทึ่ง" ค่ะ ที่ได้เห็นภูมิปัญญาอันยิ่งใหญ่ของชาวบ้าน ที่ใช้ปัญหาเป็นตัวตั้งแล้วหาแนวทางแก้ไขปัญหาได้อย่าง "ตรงจุด" จริงๆค่ะ
  • แถมด้วยการอธิบายแบบมีเหตุมีผลของพี่อุไรวรรณด้วยแล้ว ขอยกนิ้วให้เป็น สุดยอดบันทึกแห่งเดือนนนี้ (ที่พี่เม่ยได้อ่านพบ)เลยค่ะ
  • อีกอย่างค่ะ ขอเสนอให้พี่อุไรวรรณเพิ่ม tag คำว่า "เบาหวาน" เข้าไปด้วยดีไหมคะ?

     ยอดเยี่ยมเลยครับ...ผมขออนุญาตนำไปเผยแพร่วิธีคดินี้สู่ชุมชนดูนะครับ ตอบรับและทดลองปรับใช้ได้ผลยังไงจะนำมาเล่าต่อ..ยอด...ต่อ...ไป ครับ

คุณชายขอบคะ
พี่เม่ยไปทิ้งคำปรึกษาเรื่องการต่อยอดบันทึกนี้ไว้ที่ ถามชายขอบ แล้วนะ....

   คุณพ่อของดิฉัน เมื่อ 4 ปีก่อน เป็นผู้ป่วย อัมพฤติ ขยับเขยื้อนร่างกายได้น้อย ในระยะหลังๆ ก่อนที่ท่านจะไปสวรรค์  ปัญหาหนึ่งในการดูแลคือ "แผลกดทับ"
หลายๆ วิธีที่ใครแนะนำมาก็ทำตาม ที่นอนลม ราคาเป็นหมื่นก็ซื้อมาใช้  วันหนึ่งในระหว่างทางกลับบ้าน ดิฉันแวะร้านขายยา ทางผ่านเพื่อจะซื้อยาไปหาแผลกดทับให้พ่อ  เจอเจ้าของร้าน ท่านเป็นเภสัชกร ขอโทษค่ะ ที่ดิฉันนึกชือตอนนี้ไม่ออก  ท่านบอกว่ายาทาแผลกดทับฟังไม่ถนัดว่าหมดหรือไม่มี   แต่มีสูตรที่จะบอกให้ไปทำเอง คือให้เอาน้ำตาลทราย ครึ่งกิโล เคี่ยวกับน้ำ ให้งวดที่สุดเท่าที่จะงวดได้ เหนียวๆ ข้นข้น (ประมาณว่าใส่น้ำ 4 ส่วนเคี่ยวให้เหลือ 1 ส่วน) แล้ทาบางบางบริเวณแผลกดทับ จะดีขึ้น  ดิฉันนึกในใจว่า "มดคงจะกัดพ่อฉันตายละซิเป็นแผลด้วยยังให้เอาน้ำตาลไปทาอีก"   จึงถามว่า "มดไม่ขึ้นเหรอค่ะ"  อาจารย์ท่านนั้นตอบมาว่า "การเคี่ยวทำให้เป็นน้ำตาลทรายกลายเป็นน้ำตาลบริสุทธิ์ มดจะไม่ขึ้นน้ำตาลบริสุทธิ์ " แล้วก็ช่วยสมานแผล"  (ดิฉันนึกขึ้นมาได้ว่า ในนิทานหนูน้อยหมวกแดง ที่เคยดูกับลูก หนูน้อยหมวกแดงเจอลูกนก ที่กลางทางที่เป็นแผลที่ปีก หนูน้อยหมวกแดงเอาแยมอะไรซักอย่างทาที่ปีกนกและพูดว่า ความหวานจะชวยสมานแผลของเธอนะเจ้านกน้อย) กลับมาวันนั้นก็ลงมือทำตามที่อาจารย์ท่านนั้นแนะนำ   ทาให้พ่อก่อนนอนคืนนั้น รุ่งเช้ารีบมาดูว่ามดกัดพ่อหรือเปล่า ปรากฏว่าแผลเปลี่ยนไปจริงๆ มีเนื้อเยื่อสีชมพูปรากฏขึ้น และก็หายไปใน 2 วัน และดิฉันก็ใช้สูตรนี้ดูแลเวลาพ่อมีแผลกดทับทุกครั้ง เวลาพาพ่อไปโรงพยาบาลที่ไร คุณพยาบาลชมทุกครั้งว่าลูกๆดูแลดี คุณตา ไม่มีแผลกดทับเลย  และดิฉันก็แนะนำเพื่อนที่ต้องดูแลผู้สูงอายุ ในเรื่องแผลกดทับ บางครั้งถ้าสนิทสนมชอบพอก็จะเคียวใส่กระปุกไปให้ซะเลย เพราะเคียวจนชำนาญ

พี่เมตตา
     ข้อมูลพี่เมตตาจะเป็นประโยชน์แน่ ๆ ครับ จะเอาไปบอกต่อเล่าต่อ แต่การตัดสินใจเป็นของผู้ป่วยและญาตินะครับ ได้ความว่ายังไงจะนำมาเล่าต่ออีกครั้ง

พี่เม่ย
     ขอบคุณพี่เม่ยมากนะครับ ผมกระดิกตัวเป็น Blogger ยากนิดนึง ตอนนี้ขอเอาเปรียบคนอื่นบ้าง ได้แต่ตามอ่านครับ

คุณอุไรวรรณ
     เดี่ยวจะน้อยใจ ขอบคุณเจ้าของบันทึกครับ ที่ให้เรายึดเวทีนี้ แต่เพื่อปวงประชาชานะครับ

คุณ พี่เม่ย ขอบคุณค่ะสำหรับคำชม และได้เพิ่มคำว่า เบาหวานตามคำแนะนำแล้วค่ะ

คุณชายขอบ ยินดีค่ะ สำหรับการเผยแพร่และจะยินดีมากขึ้นไปอีก ถ้ามีการต่อยอดและสามารถนำไปใช้ได้จริงในชุมชนอื่น และดิฉันจะเรียนให้ลูกของป้าทราบด้วยค่ะ

สำหรับสูตรของคุณเมตตา ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ต่อนะคะ ถึงแม้ว่าตอนนี้คุณแม่ยังไม่มีแผลกดทับ เพราะท่านดูแลตัวเองค่อนข้างดี แต่เพื่อความไม่ประมาท ดิฉันจะจดไปให้ท่านค่ะ เพราะท่านเองก็ชอบสะสมความรู้พวกนี้อยู่แล้ว ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

เพิ่งอ่านเจอคะ ขอบคุณมากๆ คะ เรื่องแผลกดทับ ถ้าใช้น้ำผึ้งแท้รักษาก็น่าจะหายได้เร็วนะคะ ดิฉันใช้รักษาแมวที่เป็นแผลเน่าคะ หายภายใน 2-3 วันคะ
ขอขอบคุณอาจารย์อุไรวรรณ... (1). เป็นการอธิบาย "แคร่" ด้วยหลักการง่ายๆ + มีภาพประกอบ > ทำให้เข้าใจได้ดีขึ้นมาก (2). เพื่อนที่กรุงเทพฯ มีคุณแม่เป็นมะเร็งปอด (เสียชีวิตไปแล้ว) อาจารย์แพทย์ท่านหนึ่งแนะนำให้ใช้ห่วงยางชูชีพ เป่าลมนิดหน่อย ให้พองออกบางส่วน ปรากฏว่า ช่วยให้แผลกดทับหายเร็วขึ้นได้เหมือนกัน (3). เรียนเสนอว่า ถ้าจะใช้ห่วงยาง... ควรซื้อไว้อย่างน้อย 2-3 ห่วง เพื่อจะได้ล้างสบู่ เช็ดให้แห้ง ผึ้งลมไว้ สลับเปลี่ยนกันใช้ และควรใช้สลับที่กัน เพื่อกระจายแรงกดทับ
สวัสดีค่ะ

อั๋นเป็นอีกคนที่มีคุณพ่อป่วยเป็นวัณโรคไขสันหลัง ช่วงแรกที่พ่อเริ่มป่วยท่านมีอาการปวดเส้นที่หลัง ต้องพาท่านไปฉีดยาทุกครั้งจึงจะหายเจ็บ เราพาท่านไปหาหมอตามคลีนิกที่ดังๆ ที่ๆใครๆบอกว่าดีเราก็จะพาท่านไปทุกที่ แต่ทุกที่ก็จะฉีดยาให้ท่านตลอดจนมาระยะหลังท่านเริ่มอ่อนแรงที่ขา และสุดท้ายก็เดินไม่ได้ เราพาท่านไปร.พ.ในตัวจังหวัดตรวจพบว่าพ่อเป็นวัณโรคไขสันหลัง รักษาตัวอยู่ได้ระยะหนึ่งคุณหมอให้กลับมารักษาตัวทานยาต่อที่บ้าน และนัดทุก 1เดือน ตอนนี้พ่อป่วยได้ 2 เดือนแล้วค่ะ เดือนแรกพ่อยังทานยาอยู่บ้าง แต่พ่อจะมีปัญหาเรื่องการกลืนคล้ายกับว่ากลืนไม่ลง เข้าเดือนที่ 2 พ่อไม่ยอมทานยาเลย ข้าวก็ไม่ทาน เราเลยไม่ได้พาท่านไปหาหมออีก ตอนนี้ท่านผอมมาก เรียกได้ว่าเหลือแต่หนังห่อกระดูกสงสารท่านมาก บ้างครั้งพ่อก็ร้องให้ เหมือนกับว่าท่านรู้ตัวดีว่าไม่มีทางหายได้ อยากทราบว่าถ้าให้ท่านนอนแคร่ต้องให้นอนตลอดเวลาหรือไม่ อยากซื้อที่นอนลม แต่ราคาก็หลายพันค่ะ เนื่องจากที่บ้านไม่ได้มีฐานะนัก และโรคนี้สามารถติดต่อไปยังผู้ดูแลได้หรือไม่ค่ะ เนื่องจากพี่สาวของอั๋นเป็นคนดูแลอยู่ค่ะ

เพิ่มเติมน่ะค่ะ ตอนนี้พ่อเริ่มมีแผลกดทับแล้ว ดูเหมือนว่าท่านจะเจ็บปวดมากแต่เราก็ไม่ทราบว่าท่านตรงไหนกันแน่ บ้างครั้งพ่อก็บอกว่าปวดท้อง บ้างครั้งที่เราพลิกตัวให้ท่านก็จะร้องแบบเจ็บปวดทุกครั้งเหมือนกับว่าเราจับตรงไหนก็เจ็บไปหมด เราไม่รู้ว่าการปวดท้องของพ่อเป็นเพราะทานข้าวไม่ได้ด้วยหรือเปล่า วันหนึ่งทานได้ 1-3 คำเท่านั้นเอง พอจะมีวิธีไหนที่ช่วยให้พ่อทรมานน้อยลงกว่านี้ไหมค่ะ ช่วยแนะนำด้วย ขอบคุณค่ะ

พอจะแยกประเด็นปัญหาได้ดังนี้ค่ะ

1.ปัญหาที่ต้องพึ่งหมอคือปัญหาที่บอกว่ากลืนอาหารไม่ได้ทำให้ไม่อยากทานข้าวตามมา ซึ่งการไม่ได้ทานข้าวเป็นปัญหาหลักเฉพาะหน้าที่ต้องแก้อย่างรีบด่วน

2.ปัญหาที่คนไข้ต้องพึ่งตัวเอง เช่นการกินยา ถ้าคนไข้ไม่ยอมกินยามันก็จะหายได้อย่างไร

พี่คิดว่าตอนนี้พ่อคงหมดกำลังใจในการรักษา ปัญหาอย่างอื่นจึงตามมา คงต้องให้กำลังใจคนไข้ให้มากๆ ต้องชี้แจงว่าถ้ารักษาหมายถึงยอมกินยาก็มีโอกาสหาย

ส่วนการรักษาแผลกดทับมีหลายวิธีซึ่งหลายคนได้นำเสนอไปแล้ว แต่ละวิธีมีข้อดีข้อด้อยต่างกัน ให้เลือกวิธีที่เหมาะกับเรามากที่สุด ส่วนการนอนแคร่ก็เป็นวิธีหนึ่งที่รักษาได้ผลมาแล้ว ข้อด้อยก็คือการนอนบนแคร่จะเจ็บเพราะพื้นผิวจะแข็งไม่นิ่ม ในกรณีนี้พี่ไม่แนะนำ เพราะคุณพ่อผอมมากท่านจะเจ็บเวลานอนเพราะต้องนอนตลอดเวลา ถึงแม้ว่าแผลกดทับจะหายแต่ถ้าต้องทรมานตลอดเวลาต้องคิดว่ามันจะคุ้มกันไหม พี่ว่าวิธีอื่นน่าจะเหมาะกว่าเช่นใช้ห่วงยาง หรืออะไรที่นิ่มๆดีกว่า

แต่ ณ เวลานี้เท่าที่รับทราบข้อมูลควรต้องพาท่านไป รพ.ดีที่สุดค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้และขอให้คุณพ่ออาการดีวันดีคืนและหายโดยเร็วค่ะ

ขอบคุณมากน่ะค่ะสำหรับคำแนะนำ มีอีกอย่างที่จะรบกวนถามค่ะ โรคที่พ่อเป็นอยู่มีโอกาสติดต่อกับผู้ด้วยดูแลไหมค่ะ เนื่องจากพี่สาวที่ดูแลพ่ออยู่ตอนนี้ก็เลี้ยงลูกให้อั๋นด้วย อายุเพิ่ง 3 เดือนกว่าเองค่ะ แต่พี่สาวแค่ถามคุณหมอแล้ว หมอบอกว่าไม่ติดค่ะ และอาการที่พ่อเป็นอยู่จะมีโอกาสหายไหมค่ะ หรือว่าจะมีแค่ทรงกับทรุดค่ะ  

คุณอั๋นคะ

สำหรับคำถามพี่ไม่สามารถตอบได้ค่ะ ผู้ที่จะตอบคำถามได้ดีที่สุดคือคุณหมอเจ้าของไข้ หมายถึงหมอที่ดูแลคุณพ่ออยู่น่ะค่ะ

ถามหมอโดยตรงดีกว่านะคะ  โชคดีค่ะ

คุณพ่อผมเป็นแผลกดทับที่ก้นครับ ผมอยากขอคำแนะนำเรื่องการใช้นำผึ้งหรือนำตาลเคี่ยวทาแผลกดทับครับ

1.ใช้นำผึ้งของโครงการหลวงได้ใหมครับ.

2.เวลาทาแล้วต้องเอาผ้ากอสปิดแผลใหม แล้วมันจะแห้งติดกางเกงหรือแพมเพิสใหมครับ

ขอโทษครับที่ถามโง่ๆแต่ผมไม่รู้จริงๆ แล้วก็สงสารแกมากๆนั่งก็ปวด ขยับหน่อยก็ปวด กินข้าวก็ไม่ลง

ขอบคุณครับ

ยายแพมก้อเป็นเเผลกดทับเหมือนกันอยู่ที่บริเวณเหนือก้นนิดน่อย ตั้งเเต่ท่านล้มหัวเเตกท่านก้อเดินไม่ได้เลย เเละก้อช่วยเหลือตัวเองไม่ได้สักอย่าง

ตอนเเรกเเผลนิดเดียวเอง เเต่เวลาผ่านไปไม่นานก้อใหญ้ขึ้นเรื่อยๆ

พอไปหาหมอที่โรงพยาบาลเค้าก้อทำการตัดเนื้อตายออกไปมากเลย จากเเผลนิดเดียวก้อกลายเป็นขนาดเท่ากับเมาส์เเล้วตัดไปเรื่อยๆ มันใหญ่ขึ้นๆ เวลาดูเค้าทำเเผลให้ยาย

เราน่ะรู้สึกเจ็บเเทนเลยอะ

ว่าเเต่ถ้านู๋ให้วิธีเคี่ยวน้ำตาลใส่เเผลยาย เราจายังงัยให้น้ำตาลที่ใส่ออกหมดละค่ะ

คือว่ากลัวเวลาไปหาหมอเค้าจาด่าเอาน่ะค่ะ ว่าปายทำอะรัยมา มีร่องรอยว่างั้น

ยังงัยรบกวนพี่เมตตารบกวนตอบคำถามน่อยน่ะค่ะ

ถ้ามีอะรัยเพิ่มเติม รบกวนขอคำเเนะนำด้วยค่ะ

คุณพ่อป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ นอนเป็นเจ้าชายนิทรามา 3ปี มีแผลกดทับเหมือนกันค่ะ มีตั้ง 3 แผล ทีนี้อยากถามว่า น้ำตาลเคี่ยว กับน้ำผึ้งเนี่ย จะใส่แผลกดทับที่ลึก ๆ ประมาณ 1นิ้วครึ่ง ได้หรือไม่ค่ะ น้ำตาลกับน้ำผึ้ง สำหรับใส่แผลกดทับที่มีความลึกระดับไหนถึงจะได้ผล ถ้าแผลลึกมาก ๆ จะได้ผลไหมค่ะ แล้วจะติดเชื้อหรือเปล่า เพราะปกติเวลาทำแผลก็ต้องทำด้วยวิธีที่คิดว่าสะอาดที่สุด ก๊อช ไม้พันสำลี ยาต่าง ๆ ต้องปลอดเชื้อ แล้วถ้าใช้น้ำตาลหรือน้ำผึ้ง จะสะอาดหรือคะ

รบกวนช่วยตอบหน่อยนะคะ กลุ้มใจเหลือเกินไม่หายสักที

ขอบคุณค่ะ

สุภาพร กาญจนดำรงค์

เคยเป็นแผลกดทับกว้าง6เซนลึก2เซนเป็น4-5เดือนหายคะถ้าใครอยากรู้เรื่องการรักษาปรึกษาได้คะ 0803834901

ซื้อที่นอนลม มาใช้สิครับ ช่วยเรื่องแผลกดทับได้ 100% ราคาไม่แพงมาก ใช้งานง่าย นอนสบาย ไม่ร้อน

ทุกข้อมูลน่าสนใจมากค่ะ จะขอนำไปเผยแพร่ต่อนะคะ ...

คือตอนนี้แม่ช่วยตัวเองไม่ได้ 4ปีก่อนป่วยเป็นสมองเสื่อม ตอนนนี้เป็นแผลกดทับวงใหญ่มาก 3-4 วง มีกลิ่นมาก สงสารแม่มากเวลาทำแผล ไม่รู้จะช่วยอย่างไร ไม่รู้ว่าแม่ปวดหรือไม่ เพราะสมองแม่เสื่อมแล้ว มีคนแนะนำให้ใช้ที่นอนลม แต่เราสงสัยว่าเป็นแผลกดทับขนาดนี้แล้วจะช่วยได้จริงหรือ

อยากถามาจะทำว่า ทำอย่างไรไม่ให้เเผลกดทับติดผ้าก๊อช คะ เเม่หนูเครียดมากกกกกกกกกกกกกก

เบาะรองนอนเยลแผ่นรองศิริราช-บุญช่วย

ผมว่าเป็นอีกทางเลือกที่ดี มีงานวิจับรองรับ

อ่านรายละเอียดเพิ่มที่

ผู้สนใจติดต่อได้ที่ศูนย์ประยุกต์ และบริการวิชาการ โทร.0-2849-6050-5 หรือคลิก www.mat.mahidol.ac.th

-------------------------------------------------------------------------------

http://siweb.dss.go.th/news/show_abstract.asp?article_ID=1505

จากการทดลองใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับ31 คน น้ำหนัก ไม่เกิน 80 กิโลกรัม ให้นอนต่อเนื่องอย่างน้อย 14 วัน พบว่าผิวหนังบริเวณ ก้นกบและบริเวณกระดูกก้นไม่แตกต่าง จากก่อนและหลังทำการวิจัย หรือไม่เกิด แผลกดทับเลย

-------------------------------------------------------------------------------

http://www.boybdream.com/manager-news-content.php?newid=60166

-------------------------------------------------------------------------------

ความกังวลเรื่องแผลกดทับ เรื่องผดผื่น และ กลิ่นอับ จะหมดไป เพราะ พีทูพี ได้นำเข้าผ้าอ้อมผู้ใหญ่ยี่ห้อ Dr.P ซึ่ง Dr.P ออกแบบมาเพื่อลดปัญหาจากการใช้ผ้าอ้อมทั่วไป Dr.P สามารถตอบโจทย์ท่านได้ ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะลองมาใช้ผ้าอ้อมนวัตกรรมใหม่ ยี่ห้อ Dr.P

ขอขอบคุณทุกท่านที่นำประสบการณ์จริงๆ ที่เกิดกับครอบครัวและคนรอบข้างอีกทั้งวิธีรักษาทั้งแบบชาวบ้านและแบบปัจจุบันซึ่งผมเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ใคร่ขอนำมาเล่าให้หลายท่านที่อยู่ในสภาวะที่ต้องดูแลผู้ป่วยแผลกดทับ แม่ผมปีนี้ท่านอายุ91ปีและต้องนอนเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ โดยเฉพาะไม่ทานข้าวหรืออาหารที่ต้องเคียวมา2-3ปีแล้วทานได้แต่ของที่เป็นน้ำๆเท่านั้นไม่สามารถสือสารได้ เหตุนี้จึงเริ่มมีแผลกดทับเป็นๆ หายๆ มาตลอด และก็สงสารทุกครั้งที่เปลี่ยนผ้าและกางเกงผ้าอ้อมเพราะท่านจะทำหน้าเจ็บปวดทุกครั้ง ซึ่งคนที่เป็นลูกและรักแม่จะเข้าใจในความรู้สึกนี้ว่าเจ็บปวดเพียงใดที่เห็นแม่เจ็บแบบนี้ แต่ละครั้งที่ทำความสะอาดให้แม่ก็ใช้ ขี้ผึ้งหลอดสีเหลือง ยี่ห้อ คลอเม้นท์ ทาแผลแล้วใช้ผ้าก็อตปิดทับอีกที แล้วใช้ผ้าอนามัยชิ้นเล็กๆที่สุภาพสตรีใช้เวลากลางคืนทับอีกครั้งเพื่อไม่ให้เลือดหรือหนองซึมออกมา โดยใช้เทปปิดแบบกากบาดอีกที สรรพคุณของขี้ผึ้งทาแผลแล้วจะมีเนี้อเยือบางๆขึ้นมาปิดแผล และแผลจะลอกอกมาเอง ลองดูนะครับ และผมก็จะลองใช้สูตรน้ำตาลด้วยเพราะถ้าทำให้สอาดและใส่ภาชนะแน่นหนาก็จะไม่มีเชื้อโรคครับ แต่ขอให้ทุกท่านที่ต้องดูคนในครอบครัวที่ดูแลตนเองไม่ได้และเป็นแผลกดทับ ขอให้ใช้ความอดทนและใจเย็นๆนะครับ ขอให้สิ่งศักสิทธ์ทั้งหลายในโลกนี้จงปกป้องบุคคลที่กตัญญูต่อผู้มีพระคุณให้มีแต่ความสุขความเจริญ.

พี่ชายเป็นแผลกดทับทั่วตัวเลย เนื้อเปื่อยยุ่ย หูทั้งสองข้างก็เป็น ตอนนี้สงสารพี่ชายมากเลยไม่รู้จะทำอย่างไร พาไปโรงพยาบาล ที่สระบุรี เขาก็ไม่รับตัวไว้ ดูแลไม่ดีเลย อยู่ที่บ้านพี่สะใภ้ก็ไม่ดูแลปล่อยให้นอนอยู่คนเดียว ไม่รู้จะทำอย่างไร ทุกวันนี้ตัวเองก้อต้องดูแล พ่อกับแม่ อยู่ พ่ออายุ 89 แม่อายุ 84 ตัวเองก็เป็นความดันโลหิตสูง กับไขมันในเส้นเลือดอยู่ เครียดมากเลย มีใครช่วยแนะนำได้ ให้ทำอย่างไรช่วยแนะนะหน่อย จะเอามาดูแลเองก้อไม่ไหว

ผมมีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งพ่อของเธอเป็นโรคความจำเสื่อมและอายุมากต้องนอนเตียงอยู่ตลอดเวลา เธอบอกว่าเธอมีวิธีป้องกันแผลกดทับของพ่อ โดยเธอจะทาผงหอมศรีจันทร์ (ซื้อตามร้านเซเว่นฯ) มาทาบริเวณที่นอนกดทับนานๆ และเธอจะช่วยพลิกท่านอนเป็นระยะ เธอบอกว่าผงหอมศรีจันทร์ (ผู้หญิงเขาซื้อมาทาหน้ารักษาสิว) จะช่วยให้บริเวณที่ทาไม่มีเหงื่อเปียกชื้นอะไรทำนองนี้แหละครับ มันจะช่วยให้ไม่เกิดแผลกดทับบริเวณที่ทาผงดังกล่าวนี้อ่ะครับ ผมจึงเอามาเล่าต่อครับ ใครสนใจก็ลองทำดูครับ

ขอบคุณมากคะความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการรักษาคุณพ่อ  จะทำทุกความเห็นที่แนะนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ มีประโยชน์มากเลยค่ะ

คุณย่าดิฉันขาหักค่ะและตอนนี้เป็นแผลกดทับที่ก้นค่ะ อายุท่าน86ปีค่ะ...ดิฉันอยากถามว่าน้ำตาลทรายใช้รักษาได้จริงหรือป่าวค่ะ เพราะเห็นแผลย่าแล้วน่ากลัวมากค่ะ สงสารย่ามากๆค่ะ อยากหาวิธีรักษาที่น่าจะทำให้แผลดีขึ้นมากกว่านี้ ขอรบกวนขอข้อมูลบ้างน่ะค่ะ ขอบคุณค่ะคุณเจ้าของบล็อก.

ตอนนี้ป้าหนิงเป็นแผลกดทับอยู่ ค่อนข้างลึกหมอบอกตัดก็ๆไม่ได้เพราะป้าอายุ73แล้ว หมอบอกแค่ให้กินยาทำแผล ให้ทำแค่นี้ แผลจะเริ่มมีกลิ่นแล้วด้วยคะเป็นสีช้ำๆดำๆหมอบอกให้ที่บ้านทำใจเพราะแผลรักษาไม่ได้ตอนนี้ไม่รู้จะรักษายังไงได้แต่ป้อนข้าวป้อนยาทำแผล ไปรพ.หมอก็บอกให้เอากลับมาอยู่บ้านอ้างว่าเตียงเต็มอยู่ก็ทำได้แค่ล้างแผลกับทานยาย

รู้สึกเครียดสงสารป้าและพ่อหนิงด้วยเพราะพ่อก็เครียดเห็นพี่สาวเป็นแบบนี้

ใครมีวิธียังไงรบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณคะ

อิสรีย์ พิชาพงศ์ธเนศ

คุณเมตตาคะ ดิฉันลองเคี่ยวน้ำตาลตามที่บอกมามันกลายเป็นเกล็ดๆอ่ะค่ะ จะใช้ได้ไหมคะ หรือเคี่ยวไปนานไปคะ ทำไงดีคะ อยากเอาไปให้พ่อใช้เย็นนี้จัง ถ้าใครอ่านเจอช่วยตอบทีนะคะว่าทำถูกหรือทำผิดใช้ได้หรือไม่ได้

ขอบคุณค่ะ

ผมมีประสบการณ์เกี่ยวกับการป้องกันและการรักษาแผลกดทับชนิดได้ผลดีครับ ผมเป็นผู้ออกแบบที่นอนป้องกันและลดแผลกดทับโดยใช้หลักสองประการคือ

1.ที่นอนที่สามารถลดแรงกดทับต่อกล้ามเนื้อได้ตลอดเวลา หมายความว่า ในกล้ามเนื้อมีหลอกเลือดฝอยถ้ากล้ามเนื้อไม่ถูกกดทับเส้นเลือดก็จะไม่ตีบตันทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก

2.ที่นอนที่ระบาบอากาศได้ตลอดเวลา คือ ความร้อนที่ถ่ายเทออกจากร่างกายออกสู้ผิวหนัง เมื่อผิวหนังถูกกดทับและไม่สามารถระบายอากาศบริเวณนั้นได้จะก่อให้เกิดเหงื่อ และเกิดแบคทีเรียตามมา แบคทีเรียจะทำให้ผิวหนังเราอ่อนแอลงเมื่อมีการรากดึงผู้ป่วยจะทำให้ผิวหนังถลอกได้ง่ายกว่าปกติ ดังนั้น ความจริงแล้วผิวหนังควรได้รับอากาศอยู่ตลอดเวลานั่นเอง และเมื่อมีแผล แผลก็ต้องการออกซิเจนภายนอกเข้าไปสัมผัสแผลอยู่ตลอดเวลาและในกรณีนี้ก็จะช่วยให้แผลแห้งและหายได้เร็วขึ้น

เพียงใช้สองหลักดารนี้ก็จะช่วยรักษาผู้ป่วยแผลกดทับได้แล้วครับ

หากท่ายใดยังมัปัญหาเรื่องแผลกดทับอยู่ สามารถสอบถามข้อเพิ่มเติมได้ Line ID: sawaky2013

หรือเข้าได้ดูใน Facebook เพจ sawaky

ต้องขอโทษด้วยที่ดูเหมือนจะมาโฆษณาขายสินค้าในกระดานถาม-ตอบนี้ แต่มีเจตนาที่จะบอกเล่าสิ่งดีๆ ที่สามารถช่วยเหลือกลุ่มผู้ป่วยเหล่านี้ได้ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท