ตามล่าหาหนังสือ "การเดินทางในจิตใจ : บทตริตรองชีวิตและธรรมชาติ" ของ "อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี"


สิ่งที่มนุษย์ต้องการอย่างแท้จริงก็คือ ความเงียบ ความนิ่ง ความอบอุ่นในใจ

จุดเริ่มต้นนั้น ... อยู่ที่ผมได้ยืมหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากห้องสมุดมหาวิทยาลัย เมื่อได้อ่านแล้วรู้สึกหลงใหลอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ดั่งแอบรักใครสักคนแล้วอยากบอกคำว่ารักใกล้ ๆ หูของเธอคนนั้น

หนังสือเล่มนั้น ชื่อ "การเดินทางในจิตใจ : บทตริตรองชีวิตและธรรมชาติ" เขียนโดย อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี ผู้มีชื่ออยู่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยในยุคแสวงหา

 

 

ซึ่งผมเคยนำเสนอตัวอย่างบางบทบางตอนเอาไว้ในบล็อกนี้ ได้แก่

 

ด้วยหน้าปกของหนังสือเล่มนี้ ผมรู้สึกคุ้นตามาก เหมือนผมเคยเห็นหนังสือเล่มนี้ที่ร้านหนังสือร้านไหนสักแห่งในเชียงใหม่

ด้วยความหลงใหล ผมพยายามตามหาหนังสือเล่มนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายร้านมาก แต่ก็ยังไม่พบ เช่น สุริวงศ์บุ๊คเซ็นเตอร์, ซีเอ็ดยูเคชั่นในหลาย ๆ สาขา จนในที่สุดร้านสุดท้ายที่ผมพบจนได้ คือ ดวงกมลบุ๊คเซ็นเตอร์เชียงใหม่ อยู่ในหมวดปรัชญา + จิตวิทยา ตอนแรกพยายามหาในหมวดวรรณกรรม ไม่พบ

พบอยู่ ๒ เล่ม และสันหนังสือมีสีซีดแล้ว แต่ผมก็ซื้อ เพราะความรู้สึกถึงการหายากของหนังสือเล่มนี้ในเชียงใหม่ และไม่อยากรอสัปดาห์หนังสือแห่งปีของสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตอนปลายปี เพราะนานเกินใจจะรอได้

 

ผมอยากนำเสนอบางตอนในบางบทให้ทุกท่านได้อ่านครับ

ผมเลือกวลีที่ผมประทับใจมานำเสนอ ...

 

 

"... ต้นไม้จะบอกกับเราว่า เมื่ออยู่สูงแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวให้สูงตาม เพราะภาระที่สำคัญคือ การยืนต้านเม็ดฝนและลมแรง ..."

(ไม้ยืนต้น, หน้า ๙)

 

 

"... การเดินทางของชีวิตเช่นเดียวกับการเดินทางบนภูเขา ช่วงก่อนถึงจุดหมายปลายทางมีคนไม่น้อยที่มักหวั่นไหว พวกเขากลัวทางแยก วิตกกับความมืดหวาดผวากับสิ่งไม่รู้จัก และกลัวเกรงกับการผิดพลาด

แต่คนเดินบนภูเขารู้ดีว่า ความอ่อนแอเป็นพี่ชายคนโตของความหวาดกลัว โดยมีความล้มเหลวเป็นน้องคนสุดท้อง ..."

(ทางบนภูเขา, หน้า ๑๖)

 

 

"... ที่ว่างเวิ้งว้างช่วยให้เราเข้าใจความคับแคบสับสนของชีวิต ขณะที่ความนิ่งสงบไร้ชีวิตกลับทำให้สมเพชความผันแปรอันไร้จุดหมายของมนุษย์ ..."

(ความว่างเปล่ากับชีวิตบนทุ่งหญ้าทัสส็อค, หน้า ๒๔)

 

 

"... ความคิดของมนุษย์ไม่สอดคล้องเป็นจังหวะเดียวกับธรรมชาติได้นาน เวลาที่เราได้พักอยู่กับธรรมชาตินาน ๆ เรามักอดไม่ได้ที่จะเอาความปรารถนาของเราไปใส่ให้กับธรรมชาติ ..."

"... สิ่งที่มนุษย์ต้องการอย่างแท้จริงก็คือ ความเงียบ ความนิ่ง ความอบอุ่นในใจ

บนภูเขา หมอกที่นิ่งสงบไม่ไหวติง มักมีเพียงชั่วครู่เท่านั้น สักพักมันจะพลุ่งพล่าน แล้วลมจะพัดแรงหรือไม่ก็มีฝนตก

ปราชญ์ตะวันออกจะจึงย้ำเสมอว่า เมื่อมีความนิ่งย่อมมีความเคลื่อนไหวตามมา

เมื่อมีทุกข์มีสุขก็ย่อมตามมาด้วยความเปลี่ยนแปร นี่เป็นกฎเกณฑ์ทั่วไปของชีวิต ..."

(ความสงบในลมหนาว, หน้า ๓๖ - ๓๗)

 

 

"... วัฒนธรรมไทยให้ความสำคัญกับจิตใจ เราใช้คำว่า "เข้าใจ" แทนความตระหนักรู้ มีคำว่า "ประทับใจ" "วัดกันด้วยใจ" จนอาจกล่าวได้ว่า พฤติกรรมการงานทั้งสิ้นทั้งปวงของคนไทย ถ้าทำไปด้วย "ใจบริสุทธิ์" ก็ถือเป็นสิ่งดีงามทั้งหมด ..."

"... วัฒนธรรมตะวันตกโน้มเอียงไปให้ความสำคัญกับการมองและแสงสว่าง ถ้าจะเรียกพวกเขาว่าเป็น วัฒนธรรมแห่งแสงสว่าง (light culture) ก็คงไม่ผิด พวกเขาใช้คำว่า "I see" แทนความหมายว่าเข้าใจ คำว่า "vision" และ "insight" (ที่อยู่ในสายตา) แทนการหยั่งรู้และการมองการณ์ไกล ด้วยเหตุนี้ ศิลปะของพวกเขาจึงเน้นไปที่ภาพวาดกับลวดลายและรูปทรงที่งดงาม ..."

"... คนเยอรมันอาจต่างไปจากคนตะวันตกทั่วไป คำว่า understanding ของคนเยอรมันไม่ใช่ทั้ง "เข้าใจ" หรือ "ฉันเห็น" แต่เป็น verstehen ซึ่งมีรากศัพท์มาจาก "การตั้งใจฟัง" ..."

"... แต่ผม (อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี) ก็อดตั้งคำถามกับตัวเองไม่ได้ว่า การเข้าถึงความจริงสูงสุด ไม่ว่าจะมีพื้นฐานมาจากจิตใจอันละเอียดอ่อน สายตาที่แจ่มชัด หรือสุนทรีย์อันสูงส่งในการเข้าถึงดนตรีและกาพย์กลอน จะมีความหมายอะไรหรือ ถ้ามันไม่ผูกพันกับชีวิต ..."

(สวนหินในเกียวโต, หน้า ๔๙ - ๕๐)

 

 

"... ฝนผลักไสให้คุณฝังตัวเข้าไปในอดีต

และฝนมักทำให้คุณเสียใจกับความผิดพลาดของวันวาน ..."


"... ทำไมมนุษย์มักหวนกลับไปหาความเศร้าสร้อยเมื่อเวลาฝนตก

อาจเป็นเพราะทั้งแผ่นฟ้าได้เปลี่ยนเป็นสีเทาหม่น (สีเทามักทำให้เราเศร้าเสมอ?) ..."

(ฝนกับความหลัง, หน้า ๗๑)

 

 

 

ผมเคยตั้งคำถามไว้กับตัวเองว่า ทำไมผมถึงได้หลงใหลในหนังสือเล่มนี้มากนัก

 

ผมลองคำตอบให้กับตัวเองสั้น ๆ ว่า เป็นเช่นนี้หรือไม่ ?

  • ชีวิตของผมกำลังค้นหาความหมายอะไรบางอย่างอยู่หรือเปล่า
  • ผมกำลังตกอยู่ในอารมณ์และภวังค์ของความเหงากระมัง
  • หรือผมต้องเพียงชีวิตที่สุขสงบ ไม่ต้องสู้รบกับใคร อยู่กับตัวเองคนเดียวให้นิ่งและเงียบที่สุด
  • ผมหลงรักการเดินทางที่ใช้ความคิด เมื่อเดินทางแล้วจะได้คิด ตริตรอง มองเห็นถึงสิ่งที่รอบ ๆ ตัวเรา ที่เราไม่สามารถควบคุมมันได้ กระนั้นหรือ
  • หรือผมกำลังค้นหาอะไรบางอย่างเพื่อมาเยียวยาใจของตัวเองในหลาย ๆ ความรู้สึกที่เกิดขึ้น เช่น ผมถูกคนที่ผมไว้ในใจชื่อว่า "เพื่อน" หักหลังและทำลายความรู้สึกที่มีให้กันอย่างให้อภัยกันไม่ได้, คนรักกันมานานทอดทิ้งให้ผมฝึกหัดการอยู่คนเดียวมานับปี, ผมน้อยใจและไม่เข้าใจคนที่ผมอยากรัก แต่เธอไม่เคยคิดจะเข้าใจและไม่ฟังคำของผมบ้าง

 

ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า อะไรคือคำตอบที่ถูกต้องที่สุดที่อยู่ภายในใจและมุมมองชีวิตของผม ทุกข้ออาจจะถูกหมด หากใช้ปากกาใจกากบาทไปในทุกข้อ

หรือนั่นคือสิ่งที่ผมต้องการ การเดินทาง การเห็นโลกใหม่ การใช้ความคิด การอยู่ในที่สงบ ๆ นิ่ง และ เย็น

เหมือนโลกส่วนตัวของตัวเองสูง ขัดแย้งกับชีวิตที่ดูวุ่นวาย

อย่างไรนั้น หนังสือเล่มนี้ "การเดินทางในจิตใจ : บทตริตรองชีวิตและธรรมชาติ" เล่มนี้ ทำให้ผมค้นพบความรู้ของชีวิตที่อิงอยู่กับธรรมชาติ เพียงแต่ได้มีโอกาสสังเกต คิด และตริตรองอย่างลึกซึ้ง

เราจะพบว่า ธรรมชาติคือครูของเรา ธรรมชาติสอนให้มนุษย์อย่างเรารู้ว่า สิ่งใดคือความเป็นจริง สิ่งใดคือสิ่งสมมติที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นในจิตใจ

 

...

จงอย่าได้พยายามเอาชนะธรรมชาติเลย แต่จงเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติดีกว่า

...

 

บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)...

 

 

...........................................................................................................................................................

บรรณานุกรม

ธีรยุทธ บุญมี.  การเดินทางในจิตใจ : บทตริตรองชีวิตและธรรมชาติ.  กรุงเทพฯ: สายธาร, 2550.

 

หมายเลขบันทึก: 455765เขียนเมื่อ 24 สิงหาคม 2011 01:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 17:00 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

หรือผมกำลังค้นหาอะไรบางอย่างเพื่อมาเยียวยาใจของตัวเองในหลาย ๆ ความรู้สึกที่เกิดขึ้น

กระบวนการสมานแผล ต้องการ ประคบเย็นห้ามเลือด, นิ่งพัก, ปิดแผล 

การใช้ความคิด การอยู่ในที่สงบ ๆ นิ่ง และ เย็น

เป็นเช่นนั้นแล..

"... ฝนผลักไสให้คุณฝังตัวเข้าไปในอดีต

และฝนมักทำให้คุณเสียใจกับความผิดพลาดของวันวาน ..."

ขอต่อหน่อย

ฝนมักทำให้เกิดรอยยิ้ม เพราะต้นไม้เติบโต นะผมว่า

 

* เข้าใจความคิดเหล่านี้ค่ะ.. อย่าเพียงแต่คิด..ลงมือปฏิบัติเลยค่ะ ..

* เรามาเดี่ยว ไปเดี่ยว อย่าเปลี่ยวใจ ยึดพุทโธให้มั่น สำคัญเอย :)

ขอบคุณครับ คุณหมอบางเวลาออนไลน์ CMUpal ;)...

ชอบการสมานแผลครับ ;)...

ต่อด้วย "เติบโตที่สวนโสภณ" ครับ ;)...

ขอบคุณครับ อาจารย์ โสภณ เปียสนิท ;)...

เอาลงมือปฏิบัติเลยใช่ไหมครับ พี่ นงนาท สนธิสุวรรณ ;)...

เดี๋ยวขึ้นดอยกันวันนี้เลยครับ 555

ขอบคุณมากครับพี่ ;)...

ติดตามชีวิตของ อจ. ธีรยุทธ อยู่ระยะหนึ่งแล้วขาดตอนอันมีเหตุปัจจัยที่ทำให้การติดตามไม่ต่อเนื่อง
เหมือนคนที่พลัดหลงกันมานานเมื่อกลับมาพบกันอีกก็พยายามจะนึกย้อนทบทวนเพื่อผูกโยงอดีตมาต่อกับปัจจุบัน
การเข้ามาอ่านบันทึกนี้ทำให้ภาพเหล่านั้นมาร่ายเรียงปรากฎชัดขึ้นมาในความคำนึงอีกครั้ง
อจ.ธีรยุทธ รู้ซึ้งถึงเรื่องราวการต่อสู้ทางกรเมืองที่หลายคนกำลังแสดงตบตาประชาชนอยู่ในขณะนี้ที่ อจ.ธีรยุทจะไม่หวนกลับไปอีก
เป็นอีกหนึ่งสัจธรรมที่ได้มองย้อนอดีตที่ไม่มีวันจะซ้ำรอยเดิม

ร่วมวงสนทนานะคะ

 

ÄÄÄ...อ่านหน้านี้แล้ว..อยาก..จะเป็นเจ้าของหนังสือเล่มนี้..ด้วยจัง..อ้ะ.คุณ L.W.D . ( ยายธี..เจ้าค่ะ )...

ยินดีต้อนรับ คุณ อรวรรณ ทองธรรมชาติ เข้าสู่วงสนทนาด้วยความเต็มใจครับ ;)...

งั้นเชียร์คุณ ยายธี เต็มที่ ขอให้หาหนังสือเล่มนี้ให้พบนะครับ ;)...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท