จะรู้ได้อย่างไรว่าเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลมาแล้ว
ณ วันนี้ต้องยอมรับกันว่า 1-2 ปีติดต่อกันมา มีเกษตรกรบางพื้นที่ได้รับความเสียหายจากการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี2553 นี้ในจังหวัดกำแพงเพชร มีเกษตรกรที่ได้รายงานขอรับการช่วยเหลือจากทางจังหวัดและอปท.มีจำนวน ถึง 27,482 ราย รวมพื้นที่ที่ได้รับการช่วยเหลือประมาณ 605,253 ไร่
สถานการณ์ในปัจจุบันนี้ ทำให้ผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ต่างให้ความสำคัญและเฝ้าคอยระวังว่าเมื่อไรเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลจะเกิดการระบาดในแปลงนาของเกษตรกรอีก จากการลงไปปฏิบัติงานของKM TEAM จังหวัดฯด้านการป้องกันและกำจัดเพลี้ยกรโดดสีน้ำตาลในนาข้าวพบว่า ก็มีเกษตรกรส่วนหนึ่ง ต่างเฝ้าระวัง โดยสังเกตว่าเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเกิดระบาดได้อย่างไร ก็พอจะนำมาบอกกล่าวให้ฟังดังนี้
วิธีการที่1. คอยสังเกตดูแสงไฟ ที่มีหลอดไฟติดอยู่ตามเสาไฟฟ้าใกล้แปลงนา หรืออยู่ในชุมชนต่างๆว่าตอนพลบค่ำจะมีเพลี้ยกระโดดสี้น้ำตาลมาเล่นแสงไฟมีปริมาณมาน้อยเพียงใด ก็เป็นตัวชี้วัดได้ดีตัวหนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจแก้ไขปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งลงไป
ปริมาณเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลมาเล่นแสงไฟ
วิธีการที่2. ในแปลงนาที่มีการวางกับดัก เช่นใช้ขวดน้ำเปล่า ที่ดัดแปลงทำการเจาะ เพื่อนำกากน้ำตาลเทลงไว้ในก้นขวด พอประมาณ แล้วนำไปปักหลักแขวนไว้ตามแปลงนา แล้วคอยสังเกตว่ามีตัวแมลงศัตรูข้าวโดยเฉพาะเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลลงมาอยู่ในขวดที่มีกากน้ำตาลนี้หรือไม่
การใช้กับดักที่ปราชญ์ชาวบ้านได้ทดลองใช้ได้ผล
วิธีการที่3. การลงไปสำรวจโดยใช้สวิงโฉบแมลง โดยทำการสุ่มตรวจในแปลงนาของเกษตรกร โดยเฉพาะที่กลุ่มศูนย์ข้าวชุมชนทำเป็นแปลงติดตามสถานการณ์ รวมทั้งการลงไปสุ่มตรวจดูเฉพาะตัวเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลตามกอข้าวว่ามีเกินกว่าระดับเศรษฐกิจหรือไม่
เกษตรกรลงโฉบแมลงศัตรูในแปลงนา
ลงสุ่มตรวจนับปริมาณเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในแปลงนา
นักส่งเสริมมืออาชีพลงสุ่มที่กอข้าวกับเกษตรกร
ทั้ง 3 วิธีดังกล่าวข้อสำคัญเกษตรกรที่ทำนา จะต้องมีความรู้ความเข้าใจในการติดตามสถานการณ์ว่าเพลี้ยกระโดดระบาดในแปลงนาหรือมันเกิดขึ้นอย่างไร จากการดำเนินการที่ผ่านมาเราจะพบในกลุ่มศูนย์ข้าวชุมชน ที่มีอยู่ในชุมชนต่างๆของจังหวัด โดยเฉพาะกลุ่มที่มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ การจัดเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในชุมชนมาแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าได้ผลระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีความจำเป็น ที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องยังจะต้องหาวิธีการ หาโอกาสลงไปปฏิบัติงานร่วมกับชุมชนและสนับสนุนเพื่อให้ชุมชนได้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องต่อไป
การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ต.เขาคีริส อ.พรานกระต่าย
วิธีที่4. การสร้างและพัฒนาปราชญ์ชาวบ้านที่เป็นแกนนำเครือข่ายการเรียนรู้ โดยภาครัฐ คอยหาเวทีให้เขามีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน คอยให้กำลังใจโดยลงไปพูดคุยเยี่ยมชมผลงาน โดยลงไปถึงแปลงนาของเกษตรกร ซึ่งเกษตรกรแกนนำเหล่านี้ล้วนมีความรู้และประสบการณ์ในการป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเป็นอย่างดี และพร้อมยอมรับองค์ความรู้ใหม่ๆไปทดลองในการปฏิบัติจริงในแปลงนาของตนเองควบคู่กันไป ซึ่งก็มีเกษตรกรหลายรายที่สามารถต้นทุนการผลิตข้าวได้ไม่น้อยกว่า10 เปอร์เซ็นต์ สำหรับกิจกรรมที่ลดได้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เช่นกิจกรรมที่เกษตรกรสามารถผลิตและใช้เอง ได้แก่ การคัดเลือกพันธุ์ข้าวพันธุ์ดีไปปลูก การลดปุ๋ยเคมีโดยผลิตปุ๋ยอินทรียที่ทำเอง รวมทั้งการใช้สารสกัดชีวภาพจากสมุนไพร การผลิตและใช้เชื้อราบิวเวอเรีย และเชื้อราเมตตาไรเซียม เป็นต้น
ณ.วันนี้เราต้องยอมรับความจริงกันว่า การที่หลายฝ่ายต้องการที่จะให้เกิดการแก้ไขปัญหาการป้องกันการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าวอย่างยั่งยืนให้ได้ หน่วยงาน องค์กรภาคี ที่เกี่ยวข้อง ต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง กำหนดพื้นที่เป้าหมายของแต่ละชุมชนให้ชัดเจน มีการวางแผนดำเนินการร่วมกัน สำคัญที่สุดต้องขอความร่วมมือจากอปท.และชุมชน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการถึงจะมีความสำเร็จได้ ท้ายสุดต้องให้ชุมชนเป็นผู้บอก.
เขียวมรกต
26 กย.53
เป็นประโยชน์มากครับ จะร่วมเผยแผ่ครับ
ขอบคุณมาก
รู้ตอนเห้นข่าวในทีวี...
เอ..นี่มันภาพแปลงนาเรานี่หว่า..ตายหมดแล้ว 555
-สวัสดีครับคุณเขียวมรกต..
-สบายดีนะครับ.. -มาเติมความรู้เรื่อง "เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล" ครับ..
-ส่งเพชรฆาต มาช่วยปราบ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลด้วยครับ...
-ขอบคุณครับ