วิธีรักษาตัวเองเวลาไม่สบาย


นอนค่ะ นอนพยายามไม่คิดเรื่องงานค้าง ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นในยามที่เราไม่สบาย ร่างกายไม่พร้อม ใจคงไม่ไหวเหมือนกัน "Do not forget to take care yourself and listen to your body." "We live to work, do not work to live"

ป่วยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ปวดเมื่อยตามร่างกายมาก และน่าจะมีภาวะไวรัสลงลำไส้ เกิดลำไส้อักเสบ อุจจาระร่วง ปวดมวนท้อง 

โชคดีว่าเริ่มมีอาการบ่ายวันศุกร์ เย็นวันศุกร์ไม่มีอะไรต้องรีบร้อนนัก จึงตั้งใจพักให้เต็มที่

ลำบากช่วงบ่ายแก่ ๆ มีรายการประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียนลูก จึงต้องทนนั่งปวดท้อง และกระวนกระวายกับอาการมวนท้อง คลื่นไส้และอาการที่คล้ายจะท้องเดิน

กังวลจึงกินยาที่มีฤทธิ์ ลดการเกร็งตัวของลำไส้ ซึ่งไม่ควรกินในสภาวะเงื่อนไขเช่นนี้ ควรให้อาหารที่ไม่ดูดซึม ไม่ย่อย เพราะลำไส้ทำงานได้ไม่ดีนัก ถูกขับออกมา ไม่ว่าจะทางอาเจียนหรือ ทางท้องเดิน

เมื่อเสร็จกิจธุระ คิดถึงการนอนพักอย่างเต็มที่

ค่ะ ตั้งใจนอน พยายามไม่คิดเรื่องงานค้าง ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นในยามที่เราไม่สบาย ร่างกายไม่พร้อม ใจคงไม่ไหวเหมือนกัน

งีบหลับเพราะเพลียได้พักหนึ่ง

 

ตกดึกสิคะ อาการข้างเคียงของยาดังกล่าว ซ้ำเติมอาการต่าง ๆ ของทางเดินอาหารอักเสบ ไม่ว่าจะเป็น ท้องอืด คลื่นไส้ แต่อาเจียนไม่ออก

อาการปวดท้องจึงทวีคูณ

อาการไข้เริ่มสูงขึ้น ๆ เพราะดื่มน้ำแทบไม่ได้เลย จะอาเจียน

ปวดเมื่อยก็เพิ่มขึ้น ขอบตาร้อนผ่าว

ก่อนหน้าจะป่วย นอนดึกและตื่นเช้ามืดติด ๆ กันหลายวัน

 

เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่งที่ ไม่รู้จะทำอย่างไรกับตัวเองเพื่อบรรเทาอาการ นอนไม่ได้ ท้องอืดจนอึดอัด เพราะเราเอง กินยาขนานที่ไม่ควรกิน

คิดได้ว่า นั่งสมาธิ รวบรวมพลังทาง จิต รักษาตัวเองสักหน่อยน่าจะดี

นั่งสมาธิ เราเองเคยฝึกและเพียรพยายามนั่งเป็นระยะเวลานานพอสมควร

ในยามนั้นเราปวดเส้นประสาท เนื่องจากโรคปมประสาทอักเสบ เพิ่งเริ่มหัดนั่งยังได้ผล (ทางจิตวิทยาด้วยกระมัง เพราะนั่งคู่กับเพื่อน ที่นั่งสมาธิมานานแล้ว เธอนั่งนำให้ คล้ายเป็นพี่เลี้ยง)

คราวนี้นั่งเอง

 

ได้ผล ระดับหนึ่ง

นั่งมองหรือดู หรือระลึกรู้ว่า โรคกำลังดำเนินไปตามพยาธิสภาพของโรค มันจะมีอาการแบบนี้ แล้วตามด้วยอาการนี้ อาการนั้น

ดูเฉย ๆ

ดูและรู้ว่า ปวดท้อง ปล่อยใจว่าง ๆ เราทำอะไรเขาไม่ได้ ยกเว้นถ้าอืดมากกว่านี้ หรือ เกิดมีเชื้อปนเปื้อนเป็นกลุ่มแบคทีเรีย เราอาจมีอาการมากขึ้น ค่อยปลุกคนข้างกายพาส่งโรงพยาบาล เพื่อการรักษาที่เป็นขั้นตอนขึ้นไป

นั่งสมาธิ ซึ่งความจริง เรานั่งได้เพียง สงบ และสมถะ ได้อยู่เป็นสองสามชั่วมอง สลับกับลุกมาเดินตามลมหายใจ และตามเท้าซ้าย เท้าขวา ก้าวแต่ละก้าวช้า ๆ เงียบ ๆ ไม่รบกวนคนที่สบายดี นอนอยู่ในห้องนอนติดกัน

ยังมีเพลีย อืดท้อง ปวดเมื่อยจึงนอนฟังแผ่นธรรมไปด้วย

 

ล่วงเข้าเช้ามืด ตีสองตีสาม เกิดง่วงจึงหลับ

ห้านาฬิกาเห็นจะได้ เราตื่นมาพร้อมอาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เกินเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์

และหายเกือบสนิทเมื่อแปดเก้า่นาฬืกา รู้สึกว่าฟื้นตัวได้รวดเร็วจังค่ะ

 

ขอสรุปฝากเป็นข้อคิดเตือนใจ และเป็นความรู้กันค่ะ

หนึ่ง เมื่อมีอาการทางระบบทางเดินอาหาร ไม่ควรรับประทานยาระงับอาการ เช่นถ้าคลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระร่วง ให้ร่างกายขับออกมาดีกว่า งดอาหาร หรือน้ำ ควรดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อชดเชยสารน้ำและปรับสมดุลธาตุ เกลือแร่ในร่างกาย

สอง ถ้ามีอาการปวดเมื่อย ควรพักผ่อนให้มาก ๆ อาการนำมาด้วยอาการทางระบบอาหาร อาจเป็นอาการติดเชื้อไวรัส เช่นไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อมีไข้ ปวดหัว ร่วมด้วย

สาม นั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจ เดินตามก้าวของเท้าทั้งสอง บรรเทาอาการได้ หมายถึงรับรู้ ไม่เพ่ง เฝ้าดู ตาม อย่างมีสติ และรักษาตัวตามอาการที่เป็นไปตามลำดับ

สี่ อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นมากขึ้น ควรพบแพทย์ ปรึกษา ตรวจเพิ่มเติม เพราะอาจเป็นเชื้อแบคทีเรีย การรักษาด้วยการให้น้ำเกลือหรือยาทางเส้นเลือด งดอาหารและน้ำ เป็นการรักษาหลัก ตามมาตรฐานที่ได้ผลดีค่ะ

 

ขอให้สุขภาพแข็งแรง อากาศเปลี่ยนแปลง รักษาและดูแลสุขภาพกันนะคะ

ครูฝรั่งโทรศัพท์มาถามอาการและเตือนว่า

"Do not forget to take care yourself and listen to your body."

"We live to work, do not work to live"

หมายเลขบันทึก: 451586เขียนเมื่อ 30 กรกฎาคม 2011 09:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2014 22:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท