วันนี้ทั้งวัน ชีวิตได้รับของขวัญอันวิเศษสุด นั่นคือการมีเวลาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ซึ่งหมายถึงการนอนพักตั้งแต่ต้นบ่ายจนเย็นย่ำ เพราะคนในครอบครัวอพยพไปใช้ชีวิตนอกบ้าน เปิดพื้นที่ชีวิตให้ผมได้พักผ่อนอย่างเต็มสูบ ! ..
วันนี้ ผมมีเวลาที่จะพักผ่อนและคืนความเป็นชีวิตให้กับตนเองอย่างดียิ่ง ตื่นขึ้นมา, ผมก็ถือโอกาสชวนตนเองกลับเข้าไปท่องเล่นในพิพิธภัณฑ์อดีตของตนเองอย่างมีความสุข และพลันได้พบเจอเรื่องราวของชีวิต และการงานของตนเองที่เกิดขึ้นมาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นั่นคือ ห้วงชีวิตสั้น ๆ ที่เกิดขึ้นกับตนเองในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (วลัยลักษณ์เกมส์)
ครั้งนั้น, ทีมวอลเลย์บอลหญิงของผมลงแข่งครั้งแรก และพ่ายให้กับคู่แข่งสามเซ็ตรวด เป็นการพ่ายแพ้ท่ามกลางกองเชียร์หลายชีวิตที่ยกมาให้กำลังใจ เป็นการพ่ายแพ้ที่ใคร ๆ ก็คาดไม่ถึง เพราะเทียบชื่อชั้นแล้วต้องยอมรับว่า เรามีดีกว่าเขาอยู่หลายกระบวนท่านัก !
ภายหลังการแข่งขันยุติลง ผมในฐานะผู้จัดการทีมก็เข้าไปพูดคุยกับนักกีฬาอย่างอารมณ์ดี สัมผัสแรกที่ผมพบเจอก็คือแววตาอันผิดหวังของนักกีฬาฉายเด่นอย่างเห็นได้ชัด และผมก็ถอดหัวใจพูดกับเขาอย่างไม่มีมายาใด ๆ ในทำนองว่า
“ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่คนเราสามารถทำให้สมบูรณ์ได้หรอก คุณค่าของการลงมือทำ อยู่ที่ว่าเราได้ทำเต็มที่หรือยัง หากเต็มที่แล้วก็ขอให้ภาคภูมิใจกับสิ่งนั้น ๆ หรือหากยังทำไม่เต็มที่ ก็คงต้องค้นให้พบว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เราไม่สามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้อย่างเต็มที่ และเต็มกำลัง จากนั้นก็ค่อยผูกโยงไปสู่การปรับแก้ในโอกาสต่อไป ….
“นี่เป็นเพียงก้าวแรกของการแข่งขัน ชีวิตต้องไม่สูญเสียการมีความหวังต่อชีวิต และชีวิตต้องมีความศรัทธาต่อการทำหน้าที่ของตนเองอย่างซื่อสัตย์ ตราบที่เซเว่นอีเลฟเว่นยังเปิด 24 ชั่วโมง ตราบนั้น ชีวิตของคนเราก็ยังมีความหวังเสมอ ….
ฤทธินนท์ นามศักดิ์ , จันเพ็ญ ศรีดาว : สองผู้ฝึกสอนกำลังคุยกับนักกีฬาหลังการแข่งขันสิ้นสุดลง
คุณแดนไท เกาะติดขอบสนามในนาม ผจก. ทีมวอลเลย์บอลชายหาด
นั่นคือ ถ้อยคำที่ผมประมวลมาจากสิ่งที่พูดกับนักกีฬาของตนเอง ผมพยายามที่จะสื่อสารให้เขามีความสุขกับการทำหน้าที่ของตนเอง ไม่วิตกกังวลกับผลการแข่งขันมากจนเกินไป, จนทำให้จังหวะของชีวิตดำเนินไปโดยปราศจากชีวิต - ชีวา และที่สำคัญอีกประการก็คือ การพยายามสื่อนัยยะสำคัญที่ว่า หากเราไม่สูญเสียศรัทธาต่อการมี “ความหวัง” ทางออกของชีวิตก็ย่อมไม่ปิดตายสำหรับคนเรา
ผมพูดเช่นนั้น เพราะผมรู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ ตลอดเวลาของการดำเนินชีวิต ผมมักบอกกับตนเองเสมอว่า ชีวิตต้องไม่ปราศจากความหวัง และความหวังนั่นแหละ คือพลังอันสำคัญที่จะนำพาให้ชีวิตโบกโบยไปอย่างที่ใจปรารถนา
ท้ายที่สุดแล้ว ทีมวอลเลย์บอลหญิงของผมก็มาไกลที่สุดเพียงรอบแรก และเชื่อว่าพวกเขาได้ทำหน้าที่นั้นอย่างซื่อสัตย์แล้ว เป็นการทำหน้าที่อย่างดีที่สุดที่นักกีฬาพึงกระทำ ทั้งในฐานะของการเป็นนักกีฬา, ฐานะของการเป็นนิสิต, รวมถึงในฐานะของการเป็นมนุษยชาติที่ต้องเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตบนพื้นฐานของมิตรภาพระหว่างความเป็นคน … กระนั้น ก็เป็นที่น่ายินดีว่า ทีมวอลเลย์บอลหญิงของเรากลายเป็นขวัญใจของกองเชียร์เจ้าถิ่นไปโดยปริยาย โดยเฉพาะกลุ่มน้อง ๆ เทคนิคนั้น เห็นได้ชัดว่ามาเชียร์ทีมหญิงของเราในทุกแมตซ์ของการแข่งขันเลยทีเดียว
แต่สำหรับกีฬาวอลเลย์บอลชายหาดนั้น ผลงานของนักกีฬากลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เพราะวอลเลย์บอลชายหาดสามารถเดินทางได้ไกลอย่างแทบไม่น่าเชื่อ ทีมหญิงเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนจะพ่ายให้กับนักตบทีมชาติอย่างสมศักดิ์ศรี ส่วนชายหาดทีมชายก็ผงาดเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ขับเคี่ยวกับคู่แข่งอย่างสนุก ก่อนจะพ่ายแพ้ไปตามความคาดหมาย
และนั่นคือครั้งแรกที่เราทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในกีฬาปัญญาชนแห่งประเทศไทย
สวัสดีค่ะองแผ่นดิน
ทุกสิ่งที่เราทำ ความศรัทธาต้องมาก่อน แม้การเริ่มต้นปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน
อาจารย์ กล่าวมาทั้งหมดนั้น ได้กระทบถึงหูของคนอ่านบันทึกนี้ด้วยค่ะ ความศรัทธา ความหวัง จึงเป็นของคู่กันในการดำรงชีวิต ในโลกมนุษย์เรานี้
ขอบพระคุณค่ะ สุขสบายในทุกวันนะคะ
มาให้ความรักและกำลังใจ ครับ
สวัสดีค่ะคุณพนัส
มาติดตามอ่านบันทึกและให้กำลังใจ ...เชื่อค่ะว่า ชีวิตต้องไม่ปราศจากความหวัง
สวัสดีค่ะ...
*แวะมาทักทาย ฝากความระลึกถึงหนุ่มน้อยทั้ง 2
* วันที่ชีวิตได้หยุดพัก ช่างเป็นของขวัญที่วิเศษจริงๆค่ะ
* วันใดที่ท้อแท้ก็ให้เรียนรู้กับสิ่งที่เราคิดว่าท้อแท้ ให้มันสร้างกำลังใจขึ้นมาบนความท้อแท้นั้น
* วันใดที่สมหวังก็ให้ระลึกถึงวันที่ต้องผิดหวังเพื่อว่าวันที่ผิดหวังจะได้ไม่ใหญ่หลวงจนทนไม่ไหว
*อิอิอิ ให้กำลังใจตัวเอง เลยเผื่อแผ่มาให้ด้วยค่ะ
* แวะเยี่ยมเยียนบ้างนะคะ
สวัสดีครับ อ.แผ่นดิน
สวัสดีค่ะ..อาจารย์แผ่นดิน
สวัสดีครับ พี่รุ่ง...
ตอนนี้มหาสารคามอากาศหนาวเย็น...มืดหม่นไปด้วยม่านฝนอันบางเบา แต่ผมก็ยังต้องเดินทางไปโน่นนี่อย่างไม่รู้จบ
ส่วนหนึ่งที่ทำให้มีพลังทำอะไรต่อมิอะไรก็คือ "ศรัทธา" ต่อสิ่งที่ตนเองกำลังทำ ซึ่งหมายถึงทำสิ่งนั้นให้เต็มกำลังความสามารถ ส่วนผลลัพธ์จะเป็นเช่นใดค่อยว่ากันอีกรอบ
ผมเข้าใจว่า...มนุษย์เราควรต้องศรัทธาต่อการมีชีวิตอยู่เป็นอันดับแรก ...การศรัทธาต่อการมีชีวิตอยู่ก็เป็นเสือนการสร้างภูมิต้านทานที่ดีให้กับชีวิตของเราเอง หากต้องเผชญกับห้วงชะตากรรมใด อย่างน้อยเราก็จะเรียนรู้ที่จะรอคอย และกล้าหาญที่จะเผชิญหน้าและไม่สิ้นหวังต่อการที่จะฝ่าข้ามไปสู่จุดหมายของตนเอง
สวัสดีครับ...มะขามป้อม
ดีใจที่นักวอลเลย์บอลชายหาดทำผลงานได้ค่อนข้างดี ...และดีใจที่เห็นนักกีฬามีความสุขกับเกมส์การแข่งขัน ผมเองก็แอบคิดอย่างเงียบ ๆ อยู่บ้างเหมือนกันว่า หากมีระบบเตรียมทีมที่ดีและสร้างประสบการณ์ที่ต่อเนื่องได้ เราก็น่าจะไปได้ไกลในอนาคต....
แต่ทั้งปวง อะไรก็ไม่สำคัญไปกว่าการเรียนอันเป็นหน้าที่หลักของพวกเขา...