คนผีบ้าที่ "ไฮ่อุ้ยต๋าคำ" เมืองปาย


อ้ายโดด และวิถีที่ไฮ่อุ้ยต๋าคำสอนผมให้รู้ว่า “วิ่งตามทำไม” โลกเสียอีกต้องหมุนตามเรา

“อ้ายตั้งใจ๋จะแป๋งบ้านหลังเล็กๆเพื่อหื้อลูกของอ้ายได้เฮียนฮู้ชีวิต

(พี่ตั้งใจจะสร้างบ้านหลังเล็กๆเพื่อให้ลูกของพี่ได้เรียนรู้ชีวิต)

 

อ้ายโดดเจ้าของไฮ่อุ้ยต๋าคำหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบเศษๆบอกผม  ในวันที่ดวงตะวันขี้เกียจ ระหว่างที่ผมเดินดูบ้านแต่ละหลังที่อ้ายโดดสร้างสรรค์ขึ้นโดยไม่ซ้ำแบบกันใน ไฮ่ อุ้ย ต๋า คำ ที่เมืองปาย บ่ายแก่ๆวันนี้

ไฮ่ = ไร่

อุ้ย = ลุง- - - ส่วน "ต๋าคำ" นั้เป็นชื่อคุณพ่อของอ้ายโดดเอง

ไฮ่อุ้ยต๋าคำ เป็นพื้นที่เรียนรู้ชีวิต และกลับคืนธรรมชาติวิถีที่นี่

ปีที่แล้วผมทราบว่าอ้ายโดด สร้างบ้านหลังเล็กๆ มุมด้วยหลังคาตองตึง ชาวบ้านเล่ากันว่า "อ้ายโดดผีบ้า"  ที่ชาวบ้านตั้งสมญาให้ อ้ายชอบทำอะไรแปลกๆ  แต่งตัวแปลกๆคิดแปลกๆ และมีมุมที่แปลกอีกมากมาย โดยสรุปนิยามของอ้ายโดดเป็นที่น่าสนใจของคนท้องถิ่นที่นี่

ผมเห็นอ้ายโดดพาฝรั่งผมแดงเดินย่ำเท้ากลางทุ่งนาบ่อยๆ  พานักท่องเที่ยวเหล่านั้นไปทุ่ง ไปนา เกี่ยวข้าว เก็บฟืน ภาพเหล่านี้ผมเห็นจนชินตา หมาแถวบ้านก็เห่าไป เพราะนักท่องเที่ยวเหล่านั้นแต่งตัวแปลกๆด้วย แต่ทว่าใบหน้าเปื้อนยิ้ม เปื้อนหัวเราะอย่างมีความสุข...

เอ...หากบ้าแบบนี้ ก็น่าสนใจนะครับ ปัจจุบันคนเราก็บ้ากันทุกคนนะครับ อยู่ที่ใครจะเลือกบ้าในมุมของตัวเอง บ้าแล้วไม่เดือดร้อนคนอื่น บ้าแล้วมีความสุขก็เป็นเรื่องที่ดี ผมให้นิยามคำว่า บ้า คือ การทำสิ่งใดที่ใจชอบอย่างมั่นใจอาจแปลกวิถีไปบ้างแต่เป็นการค้นหาตัวตนอย่างทระนง

ในพื้นที่ กว่า ๔๐ ไร่ ผมเดินเข้าไปในพื้นที่ไฮ่อุ้ยต๋าคำ แล้ว รู้สึกสดชื่นเพราะต้นไม้ที่ขึ้นอย่างเสรีที่นี่ อ้ายโดดบอกว่า ต้นไม้ทุกต้นที่นี่เติบโตอย่างเสรี เพราะต้นไม้เหล่านี้นี่เอง น้ำซับเริ่มเกิดขึ้นหลังจากที่แห้งเหือด บ่อน้ำปลายทุ่งมีน้ำมากขึ้นดูชุ่มชื้น สรรพสัตว์ใหญ่น้อยมีอิสระ สุขใจในไฮ่อุ้ยต๋าคำ

อ้ายโดดเรียกว่า โฮมสเตย์ แต่ผมแย้งในใจว่า ไม่ใช่โฮมสเตย์ร้อยเปอร์เซ็นต์ หรอกเพราะอ้ายโดดสร้างที่พักออกนอกบ้านเจ้าของบ้าน เพียงแต่กิจกรรมต่างๆในบ้านแต่ละหลังมาทำร่วมกัน ไม่ว่าตำข้าว เผาข้าวหลาม จิบน้ำชา ทำกับข้าวร่วมกัน ตลอดจนนั่งร่ำกวี ร้องเพลงเบาๆทำนองไพรรอบกองไฟนั่น...

   

ไฟส่องทางในไฮ่ 

   

ทางเดินที่คลาสสิคจากบ้านสู่บ้านผ่านลำห้วย 

 

ที่นี่มีบ้านไม่เกินสิบหลัง แต่ละหลังแตกต่างกันตามรูปแบบที่อ้ายโดดออกแบบ แต่ที่ผมรู้อย่างหนึ่งว่าความพิเศษของแต่ละหลังนั้นมีดีต่างกัน ทั้งบ้านโญน (คนเมืองล้านนา) บ้านไตใหญ่ (ไทใหญ่) บ้านกระเหรี่ยง(บ้านปาเกอญอ)  และกระต๊อบที่สร้างซุกตัวตามพื้นที่ของไฮ่แห่งนี้

ก๊อกน้ำที่นี่ฝังไว้ในท่อนไม่อย่างแนบเนียน ห้องน้ำก็สุดยอดธรรมชาติไม่มีที่ไหนเหมือน เมื่อดึงคันไม้ น้ำก็ค่อยๆไหลรินลงมาจากคบไม้ อาบไปดูดาวไป ธรรมชาติที่นี่มีสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวที่มาพักส่วนใหญ่เป็นฝรั่งต่างชาติที่บอกกันปากต่อปาก ...มาได้เรื่อยๆ

อ้ายโดดบอกผมว่า ที่บ้านอ้ายบ่มีช่วงโลว์ ช่วงไฮ คนมาเรื่อยๆ (ที่บ้านของพี่ไม่มีช่วงโลว์ ช่วงไฮ คนมาเรื่อยๆ)

เพราะแขกตี้มาพัก บอกกั๋นต่อๆปาก (เพราะแขกที่มาพัก บอกกันบอกต่อปาก)  อ้ายโดดบอกกล่าวให้ผมด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

ความสุขจากดวงหน้าอ้ายโดดนั้น ผมสัมผัสได้ว่าสิ่งที่อ้ายทำที่คนอื่นเรียกว่า ผีบ้านั้น กลับกลายเป็นภารกิจกอบกู้ที่สำคัญ กอบกู้วัฒนธรรมที่วิกฤติ อีกทั้งเป็นวาระเร่งด่วนของโลกที่กำลังร้อนใบนี้ การเรียนรู้กับธรรมชาติ ถอดรหัสธรรมชาติที่อยู่รอบข้างเพื่อเรียนรู้อยู่ด้วยกันอย่างสมดุล

ต้นไม้ ต้นหญ้าที่นี่สวยงาม มีชีวิตทุกต้น ผมรู้สึกอย่างนั้น และผู้ชายที่ก้าวเดินข้างหน้าผมตอนนี้เขาก็มีชีวิตของเขาและเป็นชีวิตที่มีความสุข อย่างที่เขาอยากเป็น ...ช่างน่าอิจฉายิ่งนัก

อ้ายเบื่ออาชีพที่ทำในเมืองใหญ่ อ้ายก่อเลยปิ๊กบ้าน อ้ายโดดบอกผมอีกครั้งเมื่อผมถามถึงอาชีพเดิม อ้ายโดดบอกผมหลายเรื่องว่า เขามาค้นพบตัวตน และเดินตามวิถีที่อ้ายโดดเชื่อ ภูมิปัญญาล้านนาที่อัดแน่นในตัวของเขา แสดงออกมาผ่านสิ่งก่อสร้างในวิถีธรรมชาติที่นี่

อ้ายหื้อนักท่องเที่ยวได้เฮียนฮู้วิถีคนบ้านเฮา ไปยะไฮ่ ยะนา ใส่ถั่ว ยะกิ๋นโตยกั๋น เจ๊ามาก่อต่ำเข้ากิ๋นกั๋น อยู่กั๋นแบบง่ายๆ เขาชอบขนาดเลย (พี่ให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิถีชีวิตคนบ้านเรา ไปทำไร่ ทำนา ปลูกถั่ว ทำอาหารทานร่วมกัน ตอนเช้าก็มาตำข้าว อยู่ด้วยกันแบบง่ายๆ เขาชอบมากๆเลย)

ไกลออกไปจากจุดที่เราคุยกัน ผมเห็นครกกระเดื่องตำข้าวแบบโบราณที่อ้ายโดดพาดพิงถึง มองไปอีกมุมเป็นกองดินรูปร่างแปลกๆในโรงนานั่น อ้ายโดดบอกว่าเป็นที่ตีมีด ตีมุย(ขวาน) เป็นวิถีคนดั้งเดิมของล้านนาจริงๆ

ผมมองว่าอ้ายโดดเป็นทั้งเจ้าของโฮมสเตย์(ที่อ้ายเรียก)  พ่อบ้าน สถาปนิก และครูให้คนที่นี่ ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเพื่อเรียนรู้ชีวิตที่กินอยู่กับธรรมชาติ ลุกชายทั้งสองคนก็ได้เรียนรู้วิถีแบบนี้ซึมซับกับธรรมชาติรอบตัวของพวกเขา ภรรยาอ้ายโดดก็เคียงข้างให้กำลังใจเขาด้วยดีเสมอมา

วิถีชาวนา ศาลาพอเพียง ก่อนถูกลืมเลือนที่...ทุ่งยาว  ช่วงนี้ไฮ่อุ้ยต๋าคำปาย จัดกิจกรรม เกี่ยวข้าว เอาเฟือง ลวดแอ่วยี่เป็ง (เกี่ยวข้าว เอาฟาง และเลยไปเที่ยวลอยกระทง) ในวันที่ ๑๗๒๔ พ.ย.๕๐  ที่ผืนนาของอ้ายโดด

ในวันที่ ๒๓ นี้ อ้ายจะตี๊เข้า (การนวดข้าวแบบโบราณของคนล้านนา) ที่ทุ่งนาแถบนี้ อ้ายโดดบอกผม  ผมเห็นข้าวนาดำที่เกี่ยวแล้วกองบนตอซังรอกิจกรรมนี้อยู่

หากเอกมีเวลาก่อมาร่วมโตยกั๋นเน้อ  อ้ายโดดกำชับก่อนที่ผมจะลากลับบ้าน

ในวันนั้นจะมีการตี๊เข้า เล่ากวี และร้องเพลง ค่าวฮั่ม กำซอ(กวีล้านนาดั้งเดิม แบบเกี้ยวพาราสี) และ อ้ายชิ สุวิชานศิลปินปกาเกอญอเลื่องชื่อแถบเทือกเขาถนนธงชัย จะมาร้องเพลง เล่นเตหน่า(เครื่องดนตรีปกาเกอญอ) ที่นี่ มาจิบชาด้วยกัน อ้ายโดดแจ้งกำหนดการให้ผมทราบ

ไฮ่อุ้ยต๋าคำไม่ไกลจากบ้านผม ผมอยู่ตรงนี้ยังเห็นหลังคาบ้านผมไม่ไกล แต่วิถีของอ้ายโดด แตกต่างกับชาวบ้านที่นี่ แบบสวนทาง กระแสทุนนิยม ที่เชี่ยวกราก ที่อ้ายโดดเข้าใจทำให้เขาคิดปรับเปลี่ยนวิถี เป็นคนกล้าให้คนที่นี่ได้เรียนรู้ตัวเอง ทุกวันนี้ทุกคนก็ล้วนแล้วแต่ทุกข์ทั้งนั้น วิ่งตามโลกอย่างไม่ลดละ ทั้งที่รู้ว่าไม่เคยจะวิ่งทัน หากเราคิดในมุมนั้น

อ้ายโดด และวิถีที่ไฮ่อุ้ยต๋าคำ สอนผมให้รู้ว่า วิ่งตามทำไม โลกเสียอีกต้องหมุนตามเรา

     

 

หมายเลขบันทึก: 148313เขียนเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2007 07:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:34 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (64)

ช่วยคนดูแลคนดี ๆ  ที่ปักหลักอยู่อย่างสมถะในบ้านเกิด ...

อย่าให้กระทุนนิยมอันเชี่ยวกรากพัดพาเขาออกไปจาก  "ที่ที่เขายืนอยู่"

ย้ำ .."ที่ที่เขายืนอยู่"  อันเป็นที่ที่เราสามารถเข้าเป็นอยู่ร่วมกันอย่างไม่แปลกแยก...

....

ผมกำลังออกไปที่ทำงาน...

แวะมาทักทายในเช้าชื่นแห่งชีวิตครับ

และวันนี้องค์การนิสิต  จะจัดประเพณีลอยกระทง... ผมเองก็คงไม่ว่างทั้งวันอีกนั่นแหละ...

....

 

  ยินดีโตยเน่อ อ้ายโดด  ภูมิปัญญาล้านนา จงเจริญครับ

ยินดีโตยจ๊าด นัก

This Weeks Schedule @ TACOMEPAI

organic Farm Permaculture

Rice Harvest Party

17-24 Nov 07

Activities & food , music,games All day mid mid night

Free caming

-------------------------------------------

17 Nov - Learn to make local cookies at rice field.

10.00 am - all day.Many places to pitch tents or stay in our many bungalows.

 

18 Nov- Rice harvest  party with local Yon community 8.00 am -all day Tribal music & food 7.00 pm

19 Nov-Platform making (with cow dung) for beating rice 8.00 am - all day.Tribal music,food,and folk song (all are welcome to play!) 7.00 pm

20 Nov - Learn to make flower decoration ,kite flying and games.10.00 am3all day.Tribal music,folk song,and food.7.00 pm

21 Nov - Learn traditional rice and bamboo preparation,kite flying and games. 8.00 am -all day.Tribal music,folk song,and food.7.00 pm

22 Nov-Rice beating with local Yon community.8.00 am-until finished.Tribal music,folk song and food.7.00 pm

23 Nov - Ancient Thai Harvest Holiday ! Horse ride and ox cart to transfer  rice from field to storage.8.00 am - 10.00 pm

24 Nov- Full moon party! Yon music,dance,and games.And folk song announced!

Lay Kratong Festival special ceremony for healing Pai river.

 

 

กระท่อมป๋ายนา ที่ไฮ่อุ้ยต๋าคำ

เราจะขับลำนำกวีกันหน้ากระท่อมนี้ วันที่ ๒๓ จากค่ำ ถึง คืน "ฮ่วมกั๋นตีเข้า เล่าเรื่องบทกวี " กับอ้าย ชิ สุวิชาน

อ้ายโดดกับนักท่องเที่ยวที่มาพักที่กระท่อมน้อยป๋ายนา

ยิ้มแบบนี้ โลกก็ยิ้มไปด้วย

น้องเอก

แค่เห็นรอยยิ้มและภาพก็เกิดความสุขแล้วล่ะ

อยากให้ทุกตี่ของบ้านเฮาจาวเหนือจ่วยกั๋นฟื้นวิถีชีวิตแบบมะเก่ากั๋นนักๆ เนาะ

วันจันทร์ที่  19 พ. ย ไปประชุมที่สสจแพร่ เจอสุวิทย์

ก็เล่าเรื่องที่น้องเอกเขียนเล่าเรื่องงานสร้างสุข

อีปี๊ก็กั๋นเขียนตวยเล่าเรื่องในมุมมองของนักสื่อสารสุขภาพ (นสส.)ที่ไปออกบุ๊ทงานสร้างสุข

ชมเวปของ "ไฮ่อุ้ยต๋าคำ" ที่

www.tacomepai.com พร้อมฟังเสียงสะล้อ ซอซึง ม่วนๆครับ

สุดยอดครับ

อย่าลืมใส่คำว่า ปาย เมืองปาย ด้วยซิครับ

เดี๋ยวผมจะใช้สอนวิชาการจัดการทรัพยากรที่ดิน

"ระดับครัวเรือน"

จึงขอให้ช่วยเน้นให้เห็นเชิง "ทรัพยากร" ระดับครัวเรือน ด้วย

เพราะชัดจริง

ใช้เป็นบทเรียนได้อย่างดีเลยครับ

สวัสดีค่ะP

อ่านเรื่องนี้แล้ว คิดถึงพี่สะใภ้ที่อยู่บนเหมืองปิล็อก กาญจนบุรีค่ะ

ครอบครัวเรา ทำเหมืองมาก่อนนานแล้ว เดี๋ยวนี้ทำน้อยลง แต่ยังได้สัมปทานอยู่ พี่ชายเสีย พี่สะใภ้เป็นชาวออสเตรเลียน จึงนำเอาบ้าน3-4หลัง ทำเป็นHome Stay แบบนี้ มีฝรั่งและไทย ไปอุดหนุนกันไม่ได้ขาด

อากาศดีมากๆ อยู่บนเขาสูง วันหลังจะเขียนเรื่องนี้ เขามีweb siteด้วย คนชอบเที่ยวแบบธรรมชาติจะชอบค่ะ

 

 

พูดอะไรไม่ออกเลยครับ เยี่ยมยอดจริงๆ

และถ้าเป็นไปได้ยากให้ไปใส่คำค้น ในเรื่องเก่าๆ ที่โยงกับชุมชน และพื้นที่

ผมจะสอนเชื่อมโยงสามระดับครับ

  • ระดับแปลง ครัวเรือน
  • ระดับชุมชน หมูบ้าน
  • ระดับพื้นที่ หรือ เมือง

ให้เห็นความเชื่อมโยงครับ

ปายเป็น best practice ในทุกด้านอยู่แล้ว

และโดยเฉพาะผมมีคุณเอกเป็นตัวประสานให้

จึงเรียกว่า Best of the Best practices ครับ

 

สังเกตุว่าเดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็ Home stay แฮะ แต่ที่กรุงเทพฯ คงจะไม่มี ดูๆ เหมือนคนเราอยากจะกลับไปอยู่แบบสบายๆ อยู่แบบไทยๆ อยู่แบบธรรมชาติ หนีชีวิตที่วุ่นวายซะรึเปล่า เห็นบรรยากาศแบบนี้ทำให้นึกถึงบ้านคุณยายจัง

ชอบภาชนะใส่ข้าวนี่จัง เก๋เชียว...

จะว่าไป แนนเพิ่งรู้จักธุรกิจแบบ Home stay ก็ตอนมาอยู่ที่นี่แหละ ฝรั่งเค้าทำกันเป็นล่ำเป็นสันเลย

^__^

สวัสดีครับ คุณพนัส ครับ P

พื้นที่ที่นี่ ถือเป็นที่เรียนรู้อีกแห่งหนึ่ง ให้เยาวชนได้เรียนรู้วิถีรากเหง้าของตัวเอง

ไร่ที่ทำเป็นสวนป่า กำลังฟื้นตัวเอง บนความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต บ้านแต่ละหลังที่แทรกอยู่ท่ามกลางดงไม้เหล่านั้น เหมือนชุมชนที่เอื้ออาทร

อ้ายโดดบอกผมว่า มีแขกใหม่เข้ามาในขณะที่บ้านทุกหลังเต็ม แขกที่ไม่รู้จักกัน ยอมที่จะรวมบ้านกันอยู่เพื่อรับแขกชุดใหม่...

นี่เป็นอีกสังคมหนึ่งที่เกิดขึ้นเลยนะครับ เป็นเหมือนสังคมอุดมคติ

-------

ขอให้วันนี้ทำงานด้วยความสุขนะครับ ขอให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ศรัทธาในวิถีของคุณพนัสครับ

มิตรภาพที่ดีให้กันเสมอครับ

 

 

สวัสดีครับ

คนเมืองปทุม ว่างๆมาแอ่วเน้อครับ ลองมานอนอู้จ๋ากับอ้ายโดดลองผ่องก่อดีครับ

เป๋นดีไค้หัวครับอีปี้ กั้นเขียนระวังมันบ่ ออกเน้อ เขียนสบายๆดีกว่าครับผม

สวัสดีครับพี่ท้องฟ้าP ท้องฟ้า

ขอบคุณครับที่ช่วย AI ให้พี่สุวิทย์ คนทำงานคุณภาพแบบนี้ต้องชื่นชม และขอชมทีมงานทุกท่านรวมถึงพี่ท้องฟ้าด้วยครับผม

 

อ่านบันทึกผมเเล้วมีความสุข...นี่เป็นกำลังใจให้คนเขียนเลยนะครับผม

สวัสดีครับ  P

ดร. แสวง รวยสูงเนิน
และ นักศึกษา มข.ทุกท่าน
--------------------------------------------------

ผมใส่คำหลัก "ปาย" และ "เมืองปาย" แล้ว

พอดีเป็นเรื่องเล่าและเป็นแนวทางการพึ่งตนเองของชุมชนซึ่งก็ถือว่าเป็นการจัดการทรัพยากรของตนเองตามศักยภาพที่มีอยู่

ผมขออนญาตเขียนรายละเอียดดังนี้

อำเภอปายเป็นเมืองเล็กๆ อำเภอหนึ่งของแม่ฮ่องสอน เป็นพื้นที่ราบกลางหุบเขา มีกลุ่มชาติพันธุ์รวมกันอยู่ ๗ เผ่าด้วยกัน (คนเมือง ลีซู ลาหู่ ปเกอญอ จีนยูนนาน ไทใหญ่ ม้ง) ความหลากหลายทั้งชาติพันธุ์และพื้นที่ทำกิน(ดอย-ราบ) มีแม่น้ำปายไหลผ่านกลางตัวเมือง ซึ่งถือว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่

กลุ่มหลักๆของปายมีสองกลุ่มก็คือ คนเมือง(ล้านนา) กับ คนไทใหญ่(ไต) ดังนั้นการปะทะระหว่างสองวัฒนธรรม เป็นจุดร่วมทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เพราะมีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก มีพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องร้อยรัด ตามหลักธรรมที่ร่วมกัน ประเพณีบางอย่างก็คล้ายกันอธิบายกันและกันได้ เพิ่มเติมวัฒนธรรมจากกลุ่มชาติพันธุ์อีกก็ดูหลากหลายมากขึ้น

ช่วงหลังปายเป็นเมืองท่องเที่ยว และกระแสการท่องเที่ยวเเรงขึ้นเรื่อยๆ การท่องเที่ยวนี่เองนำมาทั้งความเจริญ และ ความเสื่อมในเวลาเดียวกัน การรุกของนายทุนเพื่อผลประโยชน์เชิงธุรกิจมีมากขึ้น การแย่งชิงทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดมีมากขึ้นด้วย...ชาวบ้านแพ้เพราะรู้ไม่ทัน ปัญหาที่เกิดขึ้นทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วไปหมด เกิดภาวะ "ช๊อค" ทางวัฒนธรรม มีการเปลี่ยนแปลงทั้งระดับปัจเจคจนถึงระดับชุมชนอย่างชัดเจน การขยายเมืองเป็นไปอย่างไร้ทิศทาง...ซึ่งเป็นปัญหาที่เรากังวลอยู่

ที่เกริ่นมาบางส่วนนี้ เป็นข้อมูลปฐมบทในการร้อยเรียงเรื่องเมืองปายผ่านบันทึกผม ซึ่งก็หาอ่านแง่มุมแบบนี้โดยใช้คำหลัก "ปาย" หรือ "เมืองปาย"

และนำมาประมวลสังเคราะห์ร่วมกัน มีคำถามฝากถามผมโดยตรงได้ โทรศัพท์คุยก็ได้ อีเมลก็สะดวก แลกเปลี่ยนแบบเรียนรู้สร้างสรรค์ผมจะชอบมาก

ยินดีครับ สำหรับทุกท่านครับ

------

สำหรับกรณี "อ้ายโดด" ในบันทึกนี้ผมจะขอนำเสนออีก ข้อเสนอแนะหลังจากนี้ครับ...

 

 

กรณี"อ้ายโดด"

คุณสันโดษ สุขแก้ว เป็นคนเมืองล้านนา หรือเราเรียก "คนโญน" หรือ "โยนก"  อู้กำเมือง กิ๋นข้าวนึ่ง เล่นสะล้อ ซอซึง ค่าวฮั่ม กำซอ  เป็นอัตลักษร์ของคนเมืองโดยแท้

เป็นผลผลิตของสังคม  อ้ายโดดผ่านการทำงานในเมืองหลวง ทุกรูปแบบ และวันหนึ่งก็กลับมาที่บ้าน พบว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้ที่บ้านเป็นของดี เป็นความรู้ท้องถิ่น อันเป็นภูมิปัญญา รากเหง้า ของตนเอง วิถีแบบนี้เป็นวิถีที่อ้ายโดดเลือกต่อมา

เดิมอยากให้ลูกได้เรียนรู้ "ของจริง" และ "ของดี" แบบนี้ สร้างพื้นที่การเรียนรู้ให้ลูก ต่อมาก็สร้างพื้นที่การเรียนรู้ให้กับ "สังคม" ลักษณะที่พักแบบโฮมสเตย์ เอาวิถีชีวิตดั้งเดิมเป็นกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ ให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเรียนรู้ ปรากฏว่าเป็น"คนฝรั่ง" เป็นส่วนใหญ่

ของดีที่เราละเลย

คือ "ทุน"

หากเราพูดเรื่อง"ทุน"เรามามองกันใหม่ ทุนที่ว่า คือ

  • ทุนทางปัญญา คือ องค์ความรู้ ภูมิผะหญาของบรรพบุรุษ การจัดการความรู้ที่ร้อยเรียงออกมาผ่านกระบวนการไหนก็ตาม รวมถึง ทุนความคิดของตนเองที่คิดใหม่ในเวลาที่เปลี่ยนไป
  • ทุนทางธรรมชาติ ที่นี่มีเหลือเฟือ ป่า ดิน น้ำ และบรรยากาศ ที่มีอยู่ทั่วไป
  • ทุนทางเศรษฐกิจ ผลผลิตของชุมชนต่างๆที่สามารถแปลงเป็นเงินได้ แม้กระทั่งวัฒนธรรมที่เป็นกิจกรรมของการท่องเที่ยวกระแสหลัก
  • ทุนที่เป็นตัวบุคคล คือ ผู้รู้ที่อยู่ในชุมชน มากมายหลายสาขา ทุกกลุ่มชาติพันธุ์
  • ทุนที่เกิดขึ้นใหม่ๆ คือ วิกฤต คือ "ทุน"  ผมมมองว่าวิกฤตเกี่ยวกับปัญหาที่ปายคือ ทุน ที่ทำให้พวกเราคิดต่อ

 

 

เรากำลังหากระบวนการเรียนรู้เพื่อแก้ไขปัญหา เพื่อเน้นให้ "ชุมชน" เรียนรู้รากเหง้าของตัวเอง เหมือนที่ "อ้ายโดด" ทำ

ในอนาคตที่ไฮ่อุ้ยต๋าคำจะเป็นแหล่งเรียนรู้ ดูงาน และแน่นอนว่าอ้ายโดดยินดีให้เยาวชนลูกหลานใช้พื้นที่ร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้

เช่นเดียวกับ คุณนายแหลง (ป้าอาภรณ์) ที่ปลูกพืชปลอดสารพิษ แทรกตามเกสเฮาส์ของเธอ และการเป็นแกนนำชุมชนภาคประชาสังคม ที่เดินชนปัญหา วันหนึ่งเราได้บทเรียนว่า ประโยชน์ที่ได้น้อยมาก  แปลงประเด็นร้อน ให้เป็นประเด็นเย็น

ปรับใหม่ คิดใหม่

  • คิดใหญ่ ทำเล็ก เพื่อการใหญ่
  • ใช้"วัฒนธรรมร้อยรัด" และ "พัฒนา"
  • สร้างแหล่งเรียนรู้
  • สร้างคน
  • สร้างการเชื่อมต่อ เพื่อทำงานแบบพหุภาคี
  • กลยุทธ์ตีฆ้องร้องป่าว ประชาสัมพันธ์

ที่ปายเรากำลังเดินเรื่อง "กอบกู้วัฒนธรรม" เพื่อสร้าง"จิตสำนึก" ให้กับคนพื้นถิ่น อันจะนำไปสู่การหวงแหน และสร้างพลังร่วมในการดูแลบ้านเกิดของเรา

นี่เป็นสิ่งที่ผมลองร่างไว้ในใจ และเคยนำเสนอในหลายๆเวทีว่า การเคลื่อนงานของเราจะเป็นอย่างไร ในการจัดการทรัพยากร จัดการวิถีชีวิตเพื่อสมดุลย์ท่ามกลางวิกฤติที่เราทราบกันดี

และหลายคนกล่าวหาว่า "บ้านผมตายแล้ว"

 

ผมขอบอกดังๆอีกครั้งว่า ยังไม่ตาย แต่กำลังเยียวยา และสร้างเสริมสุขภาพปัญญาอย่างเต็มกำลัง

 

 

 ช่างเป็นรอยยิ้มที่สุดยอกมากครับ นับถือครับ เรียนรู้ธรรมชาติและอยู่ร่วมกับเค้าได้ดีจริงๆ ขอคารวะ

เป็นการเลือกใช้ชีวิตที่คุ้มค่าและน่าสนใจมากครับ...

การได้เลือกทำในสิ่งที่เราคิดว่าใช่ และมีความสุขกับสิ่งที่เรา มันสามารถสร้างความหมายดี ๆ ให้กับชีวิตเราได้มากมายจริง ๆ ครับ...

เป็นชีวิตที่อิสระที่เราเลือกได้เองครับ...

ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ ที่ช่วยให้เราได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ของการใช้ชีวิตครับ...

ขอบคุณมากครับ...

สวัสดีครับพี่  sasinanda

สาวฝรั่งคนนี้(ในรูป)มาจากสังขละครับ เธอมาเที่ยวที่ปาย และชอบที่นี่มากๆ

สำหรับโฮมสเตย์มีสองนัย ที่ทำกันเป็นบ้านหลังๆ จริงๆน่าจะเป็นที่พัก/เกสเฮาส์เสียมากกว่า

โฮมสเตย์อาจต้องพักกับเจ้าของบ้านเรียนรู้กับเจ้าของบ้านแบบนี้ใช่ เหมือนที่ญี่ปุ่น

stay at home

แต่เราก็เรียกแบบนี้กันครับในเมืองไทย แต่ที่บ้านอ้ายโดดมีพิเศษตรงที่ว่า สมาชิกแต่ละหลังมาทำอาหารทานร่วมกัน ร่วมกิจกรรมต่างๆร่วมกัน ครับ อนุโลมได้ว่าเป็นโฮมสเตย์

บรรยากาศที่นี่สวยงาม วิวสวยด้วยทุ่งนา มองไปดีๆเห็นหลังคาบ้านผมด้วยครับ ไม่ไกลประมาณ ๑ กม.เห็นจะได้ แต่จุดนี้สูงกว่า วิวสวยกว่าครับ

สวัสดีครับ อ.จารุวัจน์

วิถีของอ้ายโดดงดงามด้วยวิธีคิดแบบธรรมชาติ การเรียนรู้ที่ผสานรากเหง้าเดิม

ผมคิดว่ากระบวนการที่อ้ายโดดทำ เด็กๆเยาวชน ต้องมาเรียนรู้ร่วมด้วยครับ

ขอบคุณครับ สบายดีนะครับ เห็นวุ่นกับหลักสูตรและงานวิจัย

ขอให้สำเร็จนะครับผม

สวัสดีครับอาจารย์ดร. แสวง รวยสูงเนิน

ผมได้รื้อบันทึกเก่าๆและได้เปลี่ยน tag เกือบหมดแล้ว น้อง นศ.สามารถค้นหาและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้ครับ

หากมีคำถาม หรือ ข้อแลกเปลี่ยนกระผมยินดีเสมอครับ ทั้งในส่วนตัวประสาน  ด้วย  :)

สวัสดีครับคุณแนนนี่P  IS

จำได้มั้ยครับว่าครั้งหนึ่งผมเคยไป นอนแบบโฮมสเตย์ที่คอยรุ๊ตตั๊กวา ที่ กทม. เป็นชุมชนมุสลิม หาอ่านได้ในบันทึกครับ นั่นเป็นโฮมสเตย์กลางกรุงย่านหนองจอกเลยครับ

ที่บ้านอ้ายโดด เธอทำทุกอย่างแบบธรรมชาติ ผมเข้าไปชมแล้วชอบมาก ได้กลิ่นอายธรรมชาติ คนป่าคนเขาแบบผมยังชอบ คนคอนกรีตคงชอบมากๆเลยครับ

สวัสดีครับ น้องอนุวัฒน์ ด้อยประสบการณ์ปี2

อย่างที่คุยกันใน MSN ครับ วิถีต่างกัน แต่เราเรียนรู้กันได้และเงื่อนไขอย่างหนึ่งคือเวลา ดังนั้นลุยไปข้างหน้า แบบเปิดใจกว้าง ยืดหยุ่น ปรับตัวครับ

ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนครับ

สวัสดีครับ เพื่อนMr.Direct

คิดถึงมากเลย...หายไปนาน

เมื่อไหร่จะมาเที่ยวปายสักทีนะ  ตั้งหน้าตั้งตารอครับ

เป็นเรื่องราวชีวิตอีกมุมหนึ่ง น่าสนใจและน่าเรียนรู้มากครับ เป็นวิถีที่ไม่ไกลตัวผมเลย เพราะลูกล้านนาเหมือนกัน

โลกร้อนที่เราบ่น  นี่เลยครับ วิถีดั้งเดิมแบบนี้ เป็นมิตรต่อโลกมาก

ขอบคุณเพื่อนมากครับ

  • อยากเห็นคนรักท้องถิ่น
  • แบบนี้และแบบที่น้องเอกทำครับผม
  • ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับ อ. ขจิต ฝอยทอง

ผมคิดว่าจะใช้บ้านอ้ายโดดเป็นที่เรียนรู้ของนักท่องเที่ยวที่มาในทริปผมด้วยครับ และเห็นกรบวนการแล้วคุณครูน่าจะพาเด็กๆเข้ามาเรียนรู้ด้วยน่าสนใจมาก

เรียนรู้ร่วมกันครับ

ขอบคุณ อ.ขจิต ครับ

สุดยอดในความฝันของอ้ายเลยเอกเอ้ย

ฝันไว้ว่าจะพัฒนาที่ดินบ้านแพะแม่แต๋งหื้อได้ซักหนึ่งส่วนสิบของบ้านอ้ายโดด มีโอกาสจะรบกวนพาไปเฮียนฮู้เน้อครับ

ที่แถวบ้านอ้ายมีนายทุนมาซื้อปลูกบ้านพักผ่อนกั๋นหลายหลัง บางคนก่แป๋งรีสอร์ท แสดงว่ามีศักยภาพ และต้นทุนในด้านท่องเที่ยวบ่เบาเนาะ

สวัสดีครับ อ้ายเป-ลี่-ยน ครับP

ยินดีจ๊าดนักครับ

อ้ายครับวันนี้ผมได้ฮับ กล่องของบริจาคที่เป๋นผ้าห่มแล้ว ขอบคุณอ้ายมา ณ โอกาสนี้โตยครับ

-------------------

ว่ากันเรื่องบ้านอ้ายโดด

น่าสนใจมากครับ เพราะอ้ายโดดดูแลระบบนิเวศให้กลับฟื้นมีชีวิตขึ้นมา อีกทั้งมีกระบวนการเรียนรู้ให้กับนักท่องเที่ยวด้วยครับ  ตรงนี้เองเป้นหัวใจสำคัญ

หากมาปายผมพาไปชม และเรียนรู้แลกเปลี่ยนได้ครับผม

ขอบคุณเรื่องผ้าห่มบริจาคมากๆครับ ผมได้รับแล้วครับ ตอนค่ำนี้เอง

ชิงช้า ชาลี ไฮ่อุ้ยต๋าคำ

  • ดีจริงๆ เลยนะคะ และลูกค้าอ้ายโดด ก็เยอะจริงๆ
  • ชอบภาพนี้มากเลยค่ะ อาหาร classic มาก ... ในเมืองหาอย่างนี้ไม่ได้เลยละค่ะ คุณเอก
  • ขอบคุณค่ะ

  • สวัสดีครับ คุณเอก
  • ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารัก และงดงามเช่นนี้
  • หากมีโอกาส จะหาเวลาไปเยี่ยมเยือน ไฮ่นาแห่งชีวิตแห่งนี้ สักครั้งครา อย่างแน่นอนครับ
  • เป็นชีวิต ที่ถามหาความจริงของชีวิต
  • ถามว่า ชีวิตยังต้องการสิ่งใดบ้าง
  • นอกเหนือจากการได้อยู่ในสิ่งที่เรารักเราชอบ
  • และได้เดินตามก้าวย่างอันงดงามเหล่านั้น
  • เป็นบทนำเสนอ และความเรียงอันงดงามยิ่งครับ
  • ผมก็ตั้งใจ จัดลำดับชีวิตเพื่อสร้างชีวิต กับต้นไม้ใบไร่ ต้นหญ้า ธรรมชาติ และการเขียนหนังสือครับ
  • กำลังตั้งใจจัดระบบชีวิต กับการมองเห็นชีวิตที่ตัวเองรัก และไม่ต้องร้อนรนกับกรอบอันเร่งรีบของโลกเบื้องหน้า
  • กำลังตั้งใจ เก็บระยะทางและความพยายามเหล่านั้นอยู่เช่นกันครับ
  • ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีดี
  • ในวันเวลาอันงดงาม ยามหน้าหนาว
  • ขอให้มีความสุขในยามลมหนาวครับ คุณเอก
  • ขอบคุณมากครับ

 

   สวัสดี ยามเช้าจ้ะคุณเอก   เมื่อคืนหิ่งห้อยเข้ามาเยี่ยมครั้งหนึ่งแล้ว แต่เนตหลุด เช้านี้ เลยมาคุยใหม่ อ่านแล้วชอบชีวิตของอ้ายโดด สมชื่อแล้ว สามารถโดด ออกจากภาระความวุ่นวายมาอยู่กับชีวิตที่เป็นของแท้  ความกลมกลืนของธรรมชาติกับชีวิต ใกล้ธรรมะด้วย ธรรมะคือธรรมชาติ  หิ่งห้อยเองวุ่นวายมากๆ ก็จะหาโอกาสหลบเข้าสู่ป่า(วัดป่า) เหมือนกัน ขอบคุณค่ะมีสิ่งดีๆมามอบให้เสมอ

สวัสดีครับ อาจารย์หมอนนทลี  P  เพื่อนร่วมทาง

เช้าวันนี้ผมอ่านหนังสือข้างโต๊ะเขียนหนังสือ ก่อนที่จะเขียนข้อความนี้ให้อาจารย์ ครับ

หนังสือ "เดินสู่อิสรภาพ" จำไม่ได้ว่าอ่านครั้งที่เท่าไหร่ รู้แต่ว่าหยิบมาอ่านครั้งใดก็มีพลังใจที่ดีทุกครั้ง

---------------

อาจารย์ประมวล รอนแรมเดินทางจากล้านนาไปจนถึงบ้านเกิดที่แผ่นดินสมุย

การเดินสู่อิสระภาพของอาจารย์นั้นงดงามยิ่งนัก เป็นการเรียนรู้ที่แฝงความคิด ปรัชญาที่อาจารย์ถ่ายทอดผ่านหนังสือเล่มหนาเล่มนั้น

ท้ายหนังสือเล่มนั้น อาจารย์ได้บอกว่า

"ชีวิตเป็นเสมือนละคร ที่ทุกฉากทุกตอน ไม่ว่าตอนที่สุขตอนที่ทุกข์ ตอนที่ผิดหวัง ตอนที่สมหวัง ตอนที่ดี ตอนที่ชั่ว ช่างมีความหมายที่งดงามเสียเหลือเกิน นักแสดงทุกๆฉาก ทุกๆตอน ช่างแสดงได้สวยงามสมจริงสมจัง จนทำให้ละครเรื่องนี้เป็นละครที่ดี"

และที่ปกหลัง ผมเห็นข้อความที่ว่า

ชีวิต...

ยังมีความสุขในแบบที่เราไม่เคยรู้จักอีกเยอะแยะ

ผมอยากเชื่อมกับบันทึกนี้ของผม

ชีวิตอ้ายโดดกับวิถีที่อ้ายโดดเลือก ความเรียบง่าย คืนกลับวิถีเดิมของตนเองนั้น มันช่าง ง่าย และงาม

เราอยู่กับธรรมชาติได้อย่างมีความสุขท่ามกลางการเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน เป็นมิตรและผสานสุข

ผมอยากให้บันทึกนี้เป็นหนึ่งในทางเลือกของความสุขสำหรับที่ทุกคนที่อ่านครับ

ขอให้ท่านเจอความสุขในเเง่มุมที่หาไม่ยากขอเพียงแต่ปลดเปลื้องพันธนาการของเปลือกนอกที่ห่อหุ้ม เพื่อค้นพบความจริงของชีวิตด้วยตนเองดูกันนะครับ

 ----------

เอก

"ที่รัก ที่ยังไม่รู้จัก"

แรสีรุ้งเรืองตะวันบรรเจิดรุ้ง

ทักท้องทุ่ง ทอทิวเขา ทอดเงาป่า

มิ่งมหาวารีรี่ไหลมา

ดุริยางค์สุริยายังแผ่วยิน

พี่ Kati P

ยินดีมากครับที่พี่เข้ามาเยี่ยมเยียน เป็นความอบอุ่นที่พี่มาทักทายในเช้าหนาวๆที่ปายครับ

 

ตื่นสิ ฟังสิ ที่รัก

จุมพิตอาณาจักรพักถิ่น

คลอสังคีตเสาวคนธ์บนแผ่นดิน

ดื่มหยาดรินแห่งรักจากดวงใจ

วิถีของอ้ายโดด เรียบ ง่าย และงาม เป็นการตัดสินใจหลังจากได้เรียนรู้ชีวิตในหลายๆแง่มุม สุดท้ายเขาเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อมาฟื้นวิถีดั้งเดิมของคนเมือง(ล้านนา)ที่บ้านเกิด

โพ้นหมอกขาวเมฆเข้มเคลียยอดเขา

ชุ่มหยาดน้ำ โอบลำเนา เช้าวันใหม่

เด็กยังร้อง เพลงผ่าน ม่านฟ้าไกล

เหมือนยอดหญ้าเยาว์วัยไหวเบิกบาน

 

หากจ้องมองดูอีกด้านหนึ่ง กระแสโลกาภิวัฒน์ ยังโบกมือเรียกร้องอย่างเร้าใจ และอีกทาง วิถีธรรมชาติก็เป็นตัวของตัวเองสงบเงียบน่าสัมผัส ทางเลือกที่ต้องตัดสินใจครั้งนี้ ...ของชีวิตคนหนึ่งคน เช่น อ้ายโดด

ต้นหมากรากไม้ยังเป็นมิตร

ให้ชีวิต เลี้ยงชีวิต ผลิตอาหาร

ทุ่งนา ป่าเขา ยังเนานาน

ต้นน้ำลำธารยังเป็นธรรม

อ้ายโดด ตัดสินใจเลือกวิถีที่เขาคุ้นชินตั้งแต่เด็ก สร้างสรรค์จินตนาการผ่านประสบการณ์เดิม เสียงสะล้อดังแผ่ว ก้องในคืนหนาว ของราวป่าปาย ท่วงทำนองของธรรมชาติ ขับขานเรื่องราวอันมีสุขและเจ็บปวดของระยะเวลา

ยังมีไทในเขตที่เธอคิด

ยังมีมิตรในหญ้าที่เธอย่ำ

ยังมีรักในดวงใจที่เธอจำ

ยังมีรุ้งที่ฝนร่ำระบำตะวัน

วันนี้เหมือนธรรมชาติให้รางวัล ป่าที่เคยเหงาหงอยกลับมีชีวิตชีวาด้วยกิจกรรมเอื้ออาทร ผุคนได้มาเรียนรู้กิจกรรมแห่งชีวิตที่เกิดขึ้น ณ ไฮ่อุ้ยต๋าคำ

ผมอยากให้ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ และสร้างจิตสำนึกให้คนเมือง (ล้านนา) ขอให้ซึมซับได้บ้างเพื่อการพัฒนาที่ไม่ทำร้ายกัน

ก้าวสิ ไปสิ ที่รัก

จากที่นี่ไปรู้จักทักที่นั่น

เสร็จสิ่งนี้ไปสื่อในใจสิ่งนั้น

ข้ามห้วงน้ำความฝันไปเป็นจริง

หากพี่kati มีโอกาสได้แวะเยือนเมืองเล็กๆที่น่ารักแห่งนี้ ผมอยากชวนไปเรียนรู้ร่วมกับอ้ายโดด ขึ้นมานั่งที่ตูบน้อย มิลเลี่ยนสตาร์ ชมดาว เล่าบทกวี

รักสีรุ้งทั้งเจ็ดเงาเพชรพร่าง

รักน้ำค้างมุกคมกลมหยดกลิ้ง

รักฝันฉ่ำยามเช้าลำเพาพริ้ง

รักมิตรยิ่งหมายอยู่กู้วิญญาณ

วันนี้ที่ไฮ่ มีการตี๊เข้า เล่าบทกวี กับคุณชิ สุวิชาน กวีและคนร้องเพลงผ่านวิถีธรรมชาติ ของเทือกเขาถนนธงชัย ว่ากันว่าคืนนี้จะงามด้วยจันทร์ที่ลอยเด่น

ที่รัก แม้ยังไม่รู้จัก

ที่แอบรักเพราะลึกซึ้งถึงแก่นสาร

ฟังสิ ที่รัก ใจจักรวาล

ยังเพรียกกู่ฤดูกาลผ่านใจ

-------------------------------------------------

ขอบคุณกวีสวยของ คุณไพวรินทร์ ขาวงาม ขอบคุณพนัส ปรีวาสนา มิตรที่รักที่ส่งหนังสือเล่มนี้รอนแรมมาถึงปายด้วยความอบอุ่น

ขอบคุณเหลือเกินที่ พี่kati มาเยือนบันทึกของผม

สิ่งทั้งหลายในโลกนี้

อุบัติขึ้นเพื่อให้มนุษย์ได้ชื่นชม

มิใช่เพื่อให้ใครเป็นเจ้าของ

แม้จะมีสิทธิครอบครองอยู่บ้าง

ก็ชั่วครั้งชั่วคราว

มิได้ครอบครองได้ตลอดไป

และเป็นการครอบครอง

เพียงเพื่อจะได้ชื่นชมเท่านั้น

-----------------------

จากหนังสือ ปรัชญาน่าคิด ของ คาลิล ยิบราน

ไพโรจน์ อยู่มณเฑียร แปล

-------------------------

สวัสดีครับ พี่สาวที่น่ารักP  หิ่งห้อย

มีความสุขมากที่พี่สาวมาเยือนบันทึกของผม  เช้าวันนี้ที่ปายสวยด้วยธรรมชาติ หมอกสีขาวราวกับสำลี อากาศเย็นสบาย เหล่านี้เราไม่ได้เป็นเจ้าของ เพียงแต่ครอบครองชั่วขณะ...ดังนั้น รักและเอื้ออาทรต่อโลก เป็นสิ่งที่ชอบของมนุษยชาติ

ชีวิต อ้ายสันโดษ  สุขแก้ว  เป็นเหมือนตัวอย่างให้หลายคนได้เรียนรู้วิถีของเขา เขาเรียนรู้กับธรรมชาติที่มีอยู่ และเอื้ออาทร

ธรรมะก็เป็นธรรมชาติ คือสิ่งเดียวกัน การเข้าหาธรรมชาติจึงเป็นการเข้าถึงธรรมะที่บริสุทธิ์

ขอบคุณพี่สาวมากๆครับ 

 

สวัสดีครับ น้องเอกP  จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

บันทึกที่สะท้อนความรู้สึกจริงๆครับ

ด้านหนึ่ง  ธรรมชาติ ที่ชุมชนรักษาทนุถนอมเข้าถึงความเป็นจริง

ด้านหนึ่ง  สะเทือนใจในบรรยากาศเมืองไทยโดยรวมในขณะนี้

ฐานรากเดิมที่เข้มแข็ง  ถูกแรงกดดันจากสภาพสังคมจอมปลอม   ทำให้กลายความเป็นธรรมชาติที่เป็นจริง  สู่ความฟอนเฟะ

น้องเอกคุณเป็นกลไกสร้างเสริมความแข็งแกร่งในชุมชน  ความฝันคงไม่ไกลเกินเอื้อม

ชื่นใจจริงๆครับ...............................

  • สวัสดีครับ
  • เราคงตามโลกไม่ทัน แต่หากเรารู้เท่าทันมัน เราจึงจะสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่สังคมได้
  • ขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆ ที่นำมาแลกเปลี่ยนครับ

ดีใจครับ...ที่บทกวีหลายบทเป็นที่ชื่นชอบของคุณเอก.

ผมเองก็ชื่นชอบหนังสือเล่มนี้อยู่มาก

สวัสดีครับ ท่านพี่ สิทธิรักษ์ P

หลังจากไปประชุมถอดบทเรียนการพัฒนาเมืองปายมา ผมก็ได้โอกาสดีที่อ้ายโดดเชิญวิทยากรไปแวะที่บ้าน ผมเป็นไกด์พาไปก็ได้นำเรื่องราวนี้มาฝากให้อ่านกัน

ต่างคน ต่างวิถี

ต่างคน ก็ต่างเลือกเส้นทาง

และวิถีที่เติมเต็มด้วยธรรมชาติ น่าจะเป็นวิถีที่ยั่งยืน พอเพียง

ผมขอเป็นตัวเชื่อมเพื่อให้เห็นกระบวนการคิดของคนหลากหลายในสังคม โดยเฉพาะบ้านเกิดของผม เพื่อที่สิ่งที่นำเสนออาจจุดประกายให้ท่านอื่นๆได้เรียนรู้ร่วม และหยิบเองแง่มุมดีๆไปประยุกต์ใช้

ขอให้พี่อ่านบันทึกนี้ด้วยความสุขครับ 

สวัสดีครับ พี่P  สิงห์ป่าสัก

  • มีพื้นที่ที่ใช้เรียนรู้หลายจุดทีเดียวครับ ที่เรายังไม่ได้นำมาแลกเปลี่ยน
  • ไฮ่อุ้ยต๋าคำเองก็เป็นที่พัก แต่กระบวนการคิดของเจ้าของนั้น น่าสนใจ และตอบโจทย์การพึ่งตัวเองได้
  • ที่สำคัญคือ สามารถใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับชุมชน เด็กนักเรียนได้ ผมก็กำลังคิดว่าหากแขกที่มาเที่ยวเป็นกลุ่มเล็กๆผมก็จะพามาเรียนรู้ที่นี่ด้วย
  • ขอบคุณมากครับผม

 P

ขอบคุณมิตรภาพและหนังสือที่มีคุณค่าทางปัญญาและจิตใจหลายเล่มที่ส่งมาให้ผม

ผมรักษาหนังสือเหล่านั้นไว้เป็นอย่างดี รักและหวงแหนที่สุดครับ

ทราบมาว่าไม่ค่อยสบายขอให้หายทุเลาอาการเจ็บป่วยโดยเร็วนะครับ ...ผมขอให้กำลังใจในการทำงานหนักต่อๆไปด้วย

บทกวีของคุณไพวรินทร์  งดงามและอ่านแล้วนำมาประกอบบันทึกหลายๆบันทึกที่ผมเขียนได้ เพราะเขาได้เขียนกวีจากแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ผู้คนและวัฒนธรรม

ขอขอบคุณอีกครั้งครับคุณพนัส

ปีที่แล้วก็ไปเที่ยวมาครับ ไปพักบ้านพี่โดดด้วยครับ

เป็นกันเองมาก ๆ เลยครับ (ทั้งครอบครัวเลยครับ)

สนใจลองไปกันดูนะครับ ห่างจากตัวเมืองประมาณ

10 นาทีเองครับ เลยไปหน่อยก็เป็นกองแลนไปดู

พระอาทิตย์ตก สวยมากครับ ปีนี้ผมกำลังจะไปที่

ปายอีกรอบครับ วันที่ 7 - 11 นี้ครับ

สวัสดีครับ คุณโจ้

ขอให้มาเที่ยวให้มีความสุขและเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆกลับไปนะ

ช่วงนี้ปายหนาวมาก มาเที่ยวอย่าลืมอุปกรณ์กันหนาว  เสื้อ หมวก ผ้าพันคอ ถุงมือ ด้วยนะครับ

ผีบ้าไฮ่อุ๊ยต๋าคำปาย

อ้ายเอก จะติดต่ออ้ายเอกตางไดก่ยากอยู่ เลยใจ้อินเตอร์เนต จ่าจ๋าติดต่อได้ก๋าว่าหยั่งได บทกวีตี้เปิ้นนำมาลงหื้อผมนี้ ได้ใจ๋ขนาดนัก ผมขอใช้ในงานวัฒนธรรมปี๋ใหม่เมืองจะได้ก่หา จะไปขออนุญาตจากไผน่อ อ้ายเอกบอกหื้อกำน่อ 13-16 เมษา 2551 นี้ ผมคือคนที่อ้ายเอกอู้ถึง อ้ายสันโดษ "ผีบ้าตี้ไฮ่อุ๊ยต๋าคำปาย"...........บ้านหล่ายโต้ง มาแอ่วงาน ปี๋ใหม่เมือง คนโญนได้เน่อ 13 เมษา วันสังขารล่อง ...........ก๋านละเล่นพื้นบ้าน...แข่งหมากบ้า...แข่งหมากกอน...แข่งขี่ไม้ก๋างเก๋ง....แข่งขี่ล้อลงหลิ่ง...แข่งยิงโก๋งสติก 14 เมษา วันดาครัวเกียมขึ้นวัด 15 เมษา วันขึ้นวัดสรงน้ำพระธาตุ ขนทรายเข้าวัด ดาสะตวงลอยเคราะห์ เมื่อแลงฟังสายเสียงดนตรีจากปกากะญอแห่งวัดจัน ชิ สุวิชา และสุดที่รัก กล๋างโต้งนา ขับกล่อมไพร 16 เมษา ลอยเคราะห์ตี้แม่น้ำปาย 2 เมษา 2551 อ้ายสันโดษ

อ้ายโดด "ผีบ้าไฮ่อุ๊ยต๋าคำปาย"

ผมได้รับอีเมลอยู่หลายฉบับ เอาไว้ผมจะเรียบเรียงให้เสร็จ ในเวลาที่กำหนดครับ

ขอบคุณครับ

  • คุณเอก..

ต้อมกำลัง "ทึ่ง"......  ต้อมอยากทำให้ได้แบบนี้บ้างน่ะค่ะ   ใครมาว่า "อ้ายโดดบ้า"   ขอเถียงตายเลย..  เหมือนเมื่อครั้งต้อมดูรายการคนค้นคนช่วงแรกๆ ที่มีชื่อตอนว่า "ชายผู้ถอยหลังไปข้างหน้า" (หรือเปล่า)   ที่มีลูกสาวชื่อน้องต้นข้าว   ที่ใช้ชีวิตอยู่ในไร่เงา

ต้อมอิจฉาผู้ชายสองคนนี้จัง ^^

คุณ เนปาลี

ตอนนี้อ้ายโดด ชอบบันทึกที่ผมเขียนมาก และสื่อต่างๆก็เข้าไปเรียนรู้กับอ้ายโดดมากมาย ผมก็ว่าดีที่ได่สื่อสารสาธารณะ ตอนนี้อ้ายเขาส่งประวัติมาให้ผมเขียนเพิ่มเติมสไตล์นี้อีก ผมก็จัดการเวลายังไม่ได้ คิดว่าหากมีเวลาเขียน จะนำเรื่องราวดีๆเหล่านั้นมาเล่าสู่กันฟังอีกในหลายแง่มุม

อ้ายโดดไม่บ้าหรอกครับ...

แต่เป็นคนที่น่าอิจฉา นั่น ถูกต้องแล้วครับ

อ้ายโดด กับพี่เกด คงจะมีความสุขกับไฮ่อุ้ยต๋าคำจาดนักเน้อ ไข่ไปแอ่วขนาดเลย

สิ้นปี่นี้ว่าจะไปแอ่วหา คงได้เจอกั๋น ธรรมชาติสุดยอดเลย

สวัสดีค่ะ

 * อ้ายโดดเป็นนักธุรกิจที่ไม่มีวันล้ม

* นับถืออ้ายโดดค่ะ

* ขอให้สุขกายสุขใจนะคะ

อยากไปปายอีกครับ

อยากเจออ้ายสันโดดอีกครั้ง

ต้องได้เจอกันอีกเเน่ๆ

Ton ลาดกระบัง ครุ สว.1

อ้ายสันโดดทำให้ผมรู้ว่าบางสิ่งเราก็ไม่ต้องสิ้นเปลืองกับมันมาก ขอบคุณอ้ายสันโดดที่พาไปเที่ยวทั่วปายเที่ยวในที่ ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังไม่เคยได้ไปเลย ขอบคุณที่เป็นแรงบันดาลใจให้ขอบคุณที่เป็นเหมือนฮีโร่ของผมและทุกคน

อยากมีชีวิตที่อิสสระอย่างคุณครับ

สวัสดีเจ้า

น้องเอก  อ่านแล้วอยากกลับไปอีกสักครั้ง เพราะว่ายังบ่จุใจ

วันนั้นได้อู้ฟู่ กับน้องโดด สองสามกำ แต่บอกเปิ้นว่า อ้ายๆ เอาล้องัวมาให้ฝรั่งลองนั่งสักกำท่าจะดี  น้องโดด ว่าเออ ผมก็ว่าดีเนาะ

อยากให้โลกนี้มีผีบ้าแบบน้องโดด มากๆๆเลยคะ

ความทรงจำของแม่ต้อย ผสมผสานกับวรรณศิลป์ ของน้องเอก

ทำให้ทุกอย่างลงตวไปหมดเลย

ฝากรูปนี้มาให้ดูเน้อเจ้า

สวัสดีครับคุณแดง ครับ

พี่ ครู พรรณา ผิวเผือก (ไม่มีชื่อกลาง) ความพอเพียง และการค้นพบตัวเองของอ้ายโดด ทำให้พี่ไม่มีวันล้มครับ

name ครุ สว1และคุณเทพณรงค์ เทพรัตนากร

มาปาย ไปเยือนอ้ายโดดที่ "ปาย" ได้ทุกเวลาครับ

แม่ต้อย

ผมเข้าใจว่า อ้ายโดด กำลังคิดเรื่อง การสร้างกระบวนการเรียนรู้ใหม่ๆให้กับเยาวชนครับ ครั้งล่าสุดได้โทรศัพท์คุยกันเรื่องนี้ครับ คาดว่าสงกรานต์ผมจะหาโอกาสคุยเรื่องนี้กัน

อ้ายโดดเป็นตัวอย่างของคนคิดนอกกรอบ และเเน่นนอนครับ การสืบทอดต่อก็เป็นสิ่งสำคัญ

"สุขใจปี๋ใหม่เมือง" ครับ แม่ต้อยครับ

ชอบแนวคิดกับวิถีชีวิตของอ้ายโดดมากค่ะ

ไม่เหมือนใครดี แต่ก่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน

ถ้าอ้ายโดดเป็นวัยรุ่นอยู่ เรียกว่าอ้ายโดดนี่เป็น "เด็กแนว" เลยนะเนี่ย

ว่างๆ อยากจะไปลองเรียนรู้การใช้ชีวิตแบบอ้ายโดดจังเลยค่ะ

สะหวัดดี ปี๋ใหม่เมืองเจ้า

อ้ายโดดเท่มากๆ อ้ายจะเป็นแสงนำทางให้คนอย่างผมแต้ๆคับ

อยากไป เีที่ยว ปาย เฮือน ไฮอุ้ยต๋า คำ

ทำไม ท่านที่โพสต์ น่าจะเขียน ชื่อ ทีอยู่

เบอร์โทรศัพท์ ครับ จะได้ติดต่อได้

ใครรู้ ส่่งมาเมลล์ผมด้วย

ขอบคุณ

ที่อยู่ของอ้ายสันโดษ "ไฮ่อุ๊ยต๋าคำปาย" TACOMEPAI

101 หมู่ 9 บ้านตีนธาตุ ต.ทุ่งยาว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน 58130

โทร 0861123504 www.tacomepai.com

อยู่ห่างจากตัวเมืองออกมา 5 กิโล หากขับรถย้อนอกมาทางตัวเมืองปาย ป้ายไม้จะอยู่ทางช้ายมือ ต้องคอยสังเกตุหน่อยนะครับ จะอยู่ใกล้กับอู่ทำสีรถ อู่ศรีปาย แล้วเลี้ยวเข้าไป 20 เมตร ก็ถึงแล้ว แต่ถ้ามาจากเชียงใหม่ พอข้ามสะพานประวัติศาสตร์แม่น้ำปาย(แต่สะพานนี้ไม่ใช่สะพานสงครามโลกนะ ไม่รู้ใครโมเมตั้งให้)แล้วผ่านปายแคนยอน หรือ กองแลน มาอีกประมาณ 2กิโล ป้ายจะอยู๋ทางขวามือครับ ลองเข้าไปสัมผัสบรรยากาศเมืองปายสมัยเก่าดูเน่อ

หัวเรื่อง: ผิงไฟ อาบไอหมอก ที่ไฮ่อุ๊ยต๋าคำปาย
ข้อความ:


อ้ายเอกครับ

ปีนี้อ้ายจัดงาน ขึ้น14 ค่ำ เดือน 1 ถึง แรม 1 ค่ำ เดือน 1 วันที่ 1-3 ธันวา 2552

 


ช่วยลงรายละเอียดหื้อกำเน่อ

"ดนตรี กวี ชาวนา"

อ้ายโดษครับ ขอเวลาสักกำเน้อครับ กำลังเรียบเรียงครับอ้ายครับ

บะงาม กิ๋นข้าวลำ ฮักเจียงใหม่ตี้ซู๊ด

ของเขาดีจริงๆ ไปมาแล้วคะ

คนไทยน่าจะลองไปเรียนรู้วีถีชีวิตแบบนั้นบ้าง

ถ้าอยากไปให้ถึงปายจริงๆ

ต้องลองไปเรียนรู้วิถีชีวิตปาย

ที่นี้แหละ ปายของจริง

ขอโทษนะครับ  ภาษาเหนือ อุ้ย  เเปลว่า ปู่ ย่า ตา ยาย ครับ   "อ้ายโดดเป็นกันเองดีครับผมยังไม่ลืมตอนที่ไปพักที่นั้น  ผมดื่มด่ำบรรยากาศเเละจิบน้ำปานะ จนถึงตีสาม พอตีห้ากว่าๆ เสียงพี่โดfตะโกนมาเลยครับ  "เอๆๆๆไปกาดโว้ย"  กาดเดินประมาณโลกว่าๆครับ สุดยอดครับ เดินล้วนๆ  ความทรงจำที่ดีครับ    ยังไม่ลืมครับ   ตื่นเช้า จิบชา เล่นกีต้าร์ ร้องเพลง" มีโอกาศจะไปเยี่ยมเยียนเเน่นอนครับ อุ้ยต๋าคำปาย  

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท