ร่วมกันบริจาคเพื่อการกุศล วัดพระบาทน้ำพุ


วัดพระบาทน้ำพุกับบางเรื่องราวที่ไม่มีใครอยากรับรู้ (อ่านให้จบน่ะ)
ผมได้รับ อีเมล์ฉบับนี้เมื่ออ่านดูแล้วรู้สึกหดหู่ใจกับ เพื่อนมนุษย์อย่างบอกไม่ถูก อ่านจบลองกดเบอร์ 1900 222 200 ทำบุญให้ วัดพระบาทน้ำพุ กด 1 ครั้ง ทำบุญ 9 บาท
ปรากฎว่าเป็นจริง ก็เลยเอามาเสนอให้ชาว G2K ผู้มีจิตกุศลได้ร่วมทำบุญด้วย เสียดายที่ไม่สามารถนำรูปขึ้นมาให้ชมได้ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ลองเข้ามาอ่านดูนะครับ
---- วัดพระบาทน้ำพุกับบางเรื่องราวที่ไม่มีใครอยากรับรู้ ..


วันนี้อยากพาไปเที่ยวครับ..
บางคนเคยร่วมบริจาคเงินให้กับวัด แต่ไม่เคยเห็นความเป็นไปในวัด
นึกภาพไม่ออก จิตนาการไม่ชัด


แต่ถ้าได้เห็น ได้รับรู้ แม้เพียงไม่กี่ภาพ
ความสุขใจจากการได้บริจาคเงิน ช่วยต่อลมหายใจให้กับผู้ติดเชื้อเอดส์ อาจมีเพิ่มมากขึ้นแม้เพียงน้อยนิด..ก็ยังดี

ภายในวัดค่อนข้างร่มรื่น โดยเฉพาะวันที่ฝนตก
วันนี้เป็นวันหยุด ผู้คนมาเที่ยวหนาตา..ไม่เงียบเหงาวังเวงเหมือนวันปกติ
 

 

 

 

 

 

 

 


บ้านพักหลังน้อยของผู้ป่วย เรียงเป็นแถวปานรีสอร์ท
บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ ด้านหลังพิงภูเขา


คนปกติแม้มีเงินก็หมดสิทธิ์ที่จะมาอ้อนวอนขอเข้าอยู่อาศัย
ต้อนรับเฉพาะผู้ติดเชื้อไร้บ้านเท่าันั้น


ชุมชนแหล่งสุดท้ายของผู้ติดเชื้อ
ถูกขับออกจากบ้าน ไม่มีครอบครัว บ้างก็ถูกนำมาทิ้งไว้ที่โคนต้นไม้หน้าวัด


บ้างก็เสียชีวิตเพียงเข้าพักในคืนแรก
ด้วยร่างกายที่อ่อนแอ ถูกหอบหิ้วมาไกลแสนไกลจากภาคเหนือ
แถมถูกทิ้งให้นอนหนาวอยู่หน้าวัดตลอดคืน


กว่าเจ้าหน้าที่ของวัดจะไปพบในตอนเช้าก็สายเสียแล้ว..
 

 

 

 

 

 

 

 


พิพิธภัณฑ์ชีวิต..
บางคนบอกเป็นสุสานที่ไม่มีดินกลบหน้า
หลายคนไม่อยากเฉียดเ้ข้าไปใกล้
หลายคนบอกดูแล้วกินข้าวไม่ลง


แต่หลายคนก็ได้แง่คิดติดกระเป๋ากลับบ้าน..
 

 

 

 

 

 

 

 


พิพิธภัณฑ์ที่นี่ไม่ได้มีไว้แสดงงานศิลปะ
ไม่มีของที่มีค่า หรือของเก็บสะสมของใคร..


ภายในมีซากศพของผู้ที่เสียชีวิตจากโรคเอดส์ ที่บริจาคเป็นวิทยาทานให้ทางวัดจัดแสดง เพื่อกระตุ้นเตือนต่อมรักสนุกของผู้ที่ยังมีลมหายใจ..ว่าเอดส์ไม่ใช่เรื่องที่อยู่ไกลตัวเหมือนที่หลายคนคิด


ภาพแรกเป็นเด็กชายอายุเพียง
5 ขวบที่ติดเชื้อเอดส์จากแม่
ส่วนใหญ่ผู้เป็นแม่จะตายก่อน เด็ก ๆ จะวิ่งเล่นในวัดได้นานหลายปี


ปัจจุบันเด็กเล็ก ๆ ที่ติดเชื้อเอดส์จากแม่จะถูกย้ายไปอยู่โครงกาน
2 ที่อำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี

ที่วัดไม่มีเด็กเล็ก ๆ วิ่งเล่นให้เห็นเหมือนก่อน..
 

 

 

 

 

 

 

 


เมื่อตอนที่ผมอายุ
5 ขวบ ผมจำความไม่ได้
เด็กคนนี้จำแม่ของเขาเองได้หรือเปล่าคงไม่มีใครรู้


ถ้าเป็นสมัยก่อน เมื่อผู้เป็นแม่ใกล้เสียชีวิต
หลวงพ่อจะไปจูงมือลูกมาเพื่อให้กราบเท้าแม่เป็นครั้งสุดท้าย
เด็กหลายคนจะรีบกราบ ๆ ให้เสร็จเพื่อวิ่งออกไปเล่นต่อกับเพื่อน ๆ


ปล่อยให้ผู้เป็นแม่นอนน้ำตาไหลด้วยความห่วงใยในอนาคตข้างหน้าของลูก
เหมือนคนที่เป็นแม่ทั่วไป..


เด็กหลายคนรู้เพียงว่าแม่ไปสวรรค์แล้ว
และอีกไม่นานเขาก็จะได้พบกับแม่ของเขาอีกครั้ง..
 

 

 

 

 

 

 

 


ร่างนี้เป็นร่างของสาวประเภท
2..
หน้าตา(เคย)ดี จากป้ายประวัติข้างตัวบอกว่าเป็นสาวบริการ..
 

 

 

 

 

 

 

 

คนนี้อดีตนักร้องสาวค่าเฟ่ และขายบริการเช่นกัน
ป่านฉะนี้ ผู้ที่เคยใช้บริการกับเธอคงตามเธอไปเรียบร้อยแล้ว..
 

 

 

 

 

 

 

 


บริเวณห้องรับบริจาค..

มีคนค่อนข้างมาก ผู้ติดเชื้อบางคนบอกว่า ถ้าวันไหนที่ห้องบริจาคมีผู้คนคับคั่ง..จะเป็นอีกวันที่พวกเขามีความสุข

เขาไม่ได้สนใจในปริมาณเงินว่าจะมากน้อยขนาดไหน
เพียงแต่เขารู้ว่า..ผู้คนในสังคมยังไม่หลงลืมพวกเขา

แม้ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่เหลือญาติพี่น้องอีกแล้ว
แต่อย่างน้อยก็ยังมีใครบางคนที่แม้ไม่เคยรู้จัก แม้จะไม่ใช่ญาติ..ยังคอยเป็นห่วง  

 

 

 

 

 

 

 


http://www.pantip.com/cafe/religious.../Y5383220.html

ส่วนใหญ่ผมจะหยอดเงินใส่กล่องบริจาคที่วางอยู่ด้านหน้าห้องบริจาค
ภายในห้องมีไว้สำหรับออกใบอนุโมทนาบัตรสำหรับผู้ที่ต้องการหลักฐานเอกสาร

บริเวณกุฏิหลวงพ่อ วันนี้ผู้คนพลุกพล่าน
ส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัว ที่นี่ถูกบรรจุเข้าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรีเรียบร้อยแล้ว

 

 

 

 

 

 

หลวงพ่อกำลังต้อนรับแขกผู้มาเยือนอย่างไม่รู้จักเหนื่อย
มีการแจกภาพถ่ายพร้อมลายเซนต์เป็นที่ระลึก..

 

 

 

 

 

 

ด้านหน้าอาคารผู้ป่วยระยะสุดท้าย..
คนไข้บางคนยังพอมีเรี่ยวแรงก็สามารถออกมาเดินเล่นได้

 

 

 

 

 

 


ภายในอาคาร กลิ่นยาโชยเข้าจมูก
หลายคนนอนหมดแรงอยู่บนเตียง


เจ้าหน้าที่มาบอกให้ผมสามารถถ่ายภาพภายในห้องได้
แต่ผมยิ้มเขิน ๆ ไม่อยากเอากล้องไปจ่อถ่ายภาพพวกเขา
ไม่อยากให้คนป่วยรู้สึกว่าพวกเขาเป็นตัวประหลาด


ทำได้เพียงเดินดูบรรยากาศภายในห้องเท่านั้นเอง..

 

 

 

 

 

 


คงมีสถานพยาบาลของวัดพระบาทน้ำพุเพียงแห่งเดียวเท่านั้น
ที่มีโลงศพวางกองอยู่หลังห้องผู้ป่วย


วางท้าทายสายตาของผู้ป่วย และทุกคนก็มองเห็น ไม่มีใครมองว่าเป็นลางร้าย หรือบั่นทอนสุขภาพจิตของผู้ป่วย เพราะทุกคนไม่มีใครออกไปจากวัดแห่งนี้ได้ทั้ง ๆ ที่ยังมีลมหายใจ..เขาอยู่ไปแต่ละวันเพื่อรอคอยวันตายเท่านั้นเอง

 

 

 

 

 

 


กองเถ้ากระดูกมนุษย์นับพันเพื่อรอคอยญาติมารับ
และมีไม่ถึง
1% ที่ถูกนำกลับบ้าน..

ลองหลับตาและจินตนาการเล่น ๆ..
ถ้ากองกระดูกเหล่านี้กลายร่างเป็นคน..บริเวณนี้คงแออัดยัดเยียด


บ้างก็คงนั่งกอดเข่า บ้างก็ยืนชะเง้อมองหาบุคคลอันเป็นที่รัก
บ้างก็คงร้องไห้จนน้ำตาเหือด..ช่างเป็นการรอคอยที่ไร้จุดหมายจริง ๆ

 

 

 

 

 

 

วันนี้ฝนตก..
ยามที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ จะได้กลิ่นอับจาง ๆ


อยากมีหูทิพย์..
อยากฟังว่าพวกเขาจะมีเรื่องราวอะไรมาเล่าให้ัฟัง
แต่ถ้าเป็นจริง..หูของผมคงอื้ออึงจนฟังไม่รู้เรื่อง
 

 

 

 

 

 

 

บางส่วนถูกบดเป็นผง บรรจุลงกล่อง เพียงหวังว่าจะได้ง่ายและไม่อุดจาดตา ยามที่ญาตินำกลับบ้าน

แต่เมื่อความพยายามของทางวัดไร้ผล
แม้จะอำนวยความสะดวกให้ปานใดก็ตาม แต่กองเถ้ากระดูกก็ไม่เคยลดน้อยลง..ไม่เคยมีใครมาแสดงความเป็นเจ้าของ


สุดท้ายความเพียรพยายามก็หมดแรง..
ผมถามเจ้าหน้้าที่ว่า แล้วอนาคตของกองกระดูกเหล่านี้จะเป็นอย่างไร


แกบอกว่า..
ในอนาคตจะใช้เถ้ากระดูกพวกนี้ผสมปูนหล่อเป็นองค์หลวงพ่อเพื่อให้คนมากราบไหว้
ไม่รู้แกพูดประชด..หรือเป็นความตั้งใจจริง
 

 

 

 

 

 

 

ก่อนจะเดินจากมา..
แกชี้มือให้ผมมองดูสองแม่ลูก ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของวัด
แต่แกบอกว่า..ผมเข้าใจผิด


แม่ลูกคู่นี้คือผู้ติดเชื้อรายล่าสุดที่ถูกนำมาทิ้งไว้ที่หน้าวัดเมื่อคืนที่ผ่านมา
ทั้งสองคนกอดคอกันร้องไห้จนตาบวม แกบอกว่าเพียงเห็นใบหน้าที่ขาวซีดของผู้เป็นแม่เพียงแว๊บเดียว แกก็รู้ว่าผู้เป็นแม่เข้าสู่ระยะสุดท้ายแล้ว ส่วนลูกสาวตัวน้อยยังไม่มีใครรู้ว่าติดเชื้อจากผู้เป็นแม่หรือไม่


แกบอกให้ผมถ่ายภาพ..
ผมจะอ้อมไปถ่ายที่ด้านหลังเพื่อไม่ให้มองเห็นหน้าชัดเกินไป แต่แกบอกว่าไม่จำเป็น..เพราะคุณจะไม่มีโอกาสได้เห็นผู้ป่วยที่นี่ออกไปใช้ชีวิตในสังคมภายนอก


วัดพระบาทน้ำพุคือแดนประหารทางสังคม
ไม่มีใครได้ออกไปจากวัด ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนถูกขับไล่ออกมาจากบ้าน จากครอบครัว จากสังคม..เป็นเพียงขยะมนุษย์ที่ไร้ค่าในสายตาของผู้คนภายนอก


แต่ผมก็ยังรู้สึกไม่ค่อยดีขอพรางหน้าเธอไว้หน่อยก็แล้วกัน
ผมนั่งมองดูสองแม่ลูกอยู่เป็นนาน สำหรับผมวัดแห่งนี้เป็นแดนประหลาด


ถ้าเป็นนักโทษ ยังมีเวลาพ้นโทษ ยังมีโอกาสที่จะฝันถึงอนาคต
ถ้าเป็นคนป่วย ก็ยังมีวันหาย มีวันที่จะกลับออกไปใช้ชีวิตภายนอกท่ามกลางครอบครัวที่อบอุ่น


แต่ที่นี่เหมือนเป็นอีกโลก..อีกสังคม
ที่นี่ไม่มีอนาคต ไม่มีวิมานในอากาศที่สวยหรู และ

คำสำคัญ (Tags): #วัดพระบาทน้ำพุ
หมายเลขบันทึก: 98290เขียนเมื่อ 24 พฤษภาคม 2007 14:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 พฤษภาคม 2012 12:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
ช่วยกันนคะสิ่งดี ๆ จะได้เกิดขึ้นในสังคมเราคะ

ขอบคุณครับ คุณรัชนก ที่ตามมาดู ผมเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีจึงForward ต่อ หากเราไม่ช่วยกัน แล้วสังคมจะยกระดับขึ้นได้อย่างไร.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท