ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับฟุตบอล 7 คน


ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับฟุตบอล 7 คน

บทที่ 1

เรื่อง  ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับฟุตบอล 7 คน

 

เรื่อง  กติกาฟุตบอล 7 คน

 

จุดประสงค์  เพื่อให้นักเรียนรู้และเข้าใจวิธีการเล่นฟุตบอล 7 คนและนำไปปฏิบัติได้

 

1.    ผู้เล่นแต่ละทีม  มีจำนวน  7  คน  ตัวสำรอง 3 คน

2.    ผู้ตัดสินจะมี 1 หรือ 2 คนก็ได้

3.    การเปลี่ยนตัวให้เปลี่ยนได้  3 คน

4.    ไม่มีการล้ำหน้า

5.    ผู้รักษาประตูต้องใส่เสื้อสีแตกต่างจากผู้เล่น

6.    การเตะจุดโทษเพื่อหาผู้ชนะให้เตะโทษ ณ จุดเตะโทษทีม ละ 3 คน

7.    เวลาแข่งขันครึ่งละ10 - 20 นาที ตามความเหมาะสมของอายุผู้เล่น        พักระหว่างครึ่ง 5  นาที

8.    ขนาดสนาม  กว้าง 40 เมตร   ยาว  60  เมตร อาจยืดหยุ่นได้

9.    จุดโทษ ระยะห่างเส้นประตู  7  เมตร  และมีรัศมี  4 เมตร

10.   ขนาดประตู   สูง 2 เมตร  กว้าง  4  เมตร

11.  วงกลมกลางสนาม รัศมี 4 เมตร

12.   เขตประตู กว้าง 3 เมตร ยาว  10 เมตร

13.   เขตโทษ กว้าง 9  เมตร  ยาว 22 เมตร

14.   เส้นโค้งมุมสนามรัศมี 50  เซนติเมตร

15.   การตั้งกำแพงต้องห่างจากจุดเกิดเหตุ  7 เมตร

 

 

 

 

 

ประวัติฟุตบอล 7 คน

 

จุดประสงค์   เพื่อให้ผู้เรียน รู้ประวัติความเป็นมา ของฟุตบอล 7 คน และเกิดความภาคภูมิใจในประวัตินั้น

 

                ฟุตบอล 7 คน  ในประเทศไทย   อาจารย์ภิรมย์   อั๋นประเสริฐ แห่งสถาบันการ

พลศึกษา วิทยาเขต สุมทรสาคร  และเป็นผู้ตัดสินฟุตบอลโลกที่ประเทศฝรั่งเศส ปี 1998 (พ.ศ.2541)  ได้กล่าวไว้   เมื่อคราวมาอบรมผู้ตัดสินฟุตบอลที่กำแพงเพชรว่า ไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้คิดค้นขึ้นมา ซึ่งทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ FIFA  ก็ไม่รับรองการแข่งขัน เพราะถือว่าเป็นเกมชนิดหนึ่ง เนื่องจากไม่มีกฎ กติกา ที่เป็นมาตรฐาน   ซึ่งมีการเล่นเฉพาะในประเทศไทย

                      

               สำหรับฟุตบอล 7 คน  ในอำเภอพรานกระต่ายนั้น  ได้มีการริเริ่มจัดขึ้น เมื่อ ปี  พ.ศ.2535   โดย  นายพรชัย  นทีประสิทธิพร  ครูโรงเรียนชุมชนบ้านเขาแก้ว   ซึ่ง เป็นประธานชมชมฟุตบอลพรานกระต่าย   ได้ พิจารณาว่า สนามโรงเรียนแห่งนี้ มีขนาดแคบ  ไม่เพียงพอที่จัดการแข่งขันฟุตบอล 11 คนได้  จึงได้ไปขอ กติกาฟุตบอล 7 คน จาก สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย สาขาจังหวัดพิษณุโลก  ซึ่ง เจ้าหน้าที่ บอกว่า กีฬาชนิดนี้ไม่เป็นที่นิยมเล่น มันเป็นกีฬาที่ตายแล้ว ไม่น่าเอาไปแข่งขันอีก แต่ครูพรชัย ได้นำมาปรับปรุงประยุกต์ใช้ โดยการปรับเปลี่ยน กฎ กติกา และวิธีการจัดการแข่งขันบางอย่าง  และเมื่อทดลองใช้ กับผู้เรียนของตน ปรากฏว่าเด็กๆชอบมาก  เหตุผลที่เกิดความนิยมขึ้นมา เนื่องจากมีวิธีจัดการแข่งขันได้ง่าย ไม่มีการล้ำหน้า  การรวมตัวผู้เล่นเป็นทีมสามารถทำได้ง่าย    ส่วนผู้ตัดสินจะใช้ 1 หรือ 2 คนก็ได้  จึงมีการจัดการแข่งขันแพร่หลายอย่างกว้างขวาง

 

 

 

 

 

               ปี 2536 ชมรมฟุตบอลพรานกระต่าย ได้ทดลองจัดการแข่งขันฟุตบอล 7 คน โดยยึดแบบอย่างการจัดรูปแบบ  FESTIVAL  หรือแบบเทศกาล   โดยเชิญ ทีมฟุตบอลจำนวนมาก 20 -30 ทีม มาร่วมแข่งขันภายใน 1 -2 วัน  แบ่งเป็นหลาย  ช่วงอายุ เช่นรุ่นอายุ 10 ปี

 12 ปี 14 ปี 16 ปี และประชาชนทั่วไป รวมทั้งฟุตบอลหญิงด้วย  เริ่มแข่งติดต่อกันตั้งแต่เช้า จนถึงค่ำ  บรรยากาศการแข่งขัน มีความสนุกสนานมาก มีการบรรยายการแข่งขัน สอดแทรกมุขตลก สร้างความบันเทิงใจให้กับผู้เล่นและผู้ชม   ดูคล้ายกับ การจัดเทศกาลงานประจำปีของวัดในหมู่บ้าน  ผู้คนมาร่วมงานมากมาย มีแม่ค้า พ่อค้ามาขายของด้วย  บรรยากาศคึกคักตลอดวัน ( การแข่งขันแบบเก่า คือจัดแข่งวันละ 1 -2 คู่ ในตอนบ่าย ของแต่ละวัน ความสนุกจึงไม่ต่อเนื่อง )

 

                ทีมต่างๆ เกิดความสนใจ ได้มาขอกติกาและระเบียบการแข่งขัน ไปจัดในจังหวัดของตนบ้าง ตั้งแต่นั้นมา การแข่งขันฟุตบอล 7 คน จึงแพร่หลายไปทั่วภูมิภาคอย่างรวดเร็ว .

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นักฟุตบอลตัวอย่าง

นายอนุวัฒน์  พรมโยธา (ไฝ)

 

จุดประสงค์การเรียนรู้ เพื่อให้นักเรียนเกิดแรงจูงใจที่จะมุ่งเรียนและฝึกหัดฟุตบอล 7 คน

 

 

 

 

                       อนุวัฒน์  พรมโยธา เกิด พ.ศ. 2533 ณ บ้านหนองราง หมู่ที่ 5  ต.พรานกระต่าย  อ.พรานกระต่าย จ. กำแพงเพชร บิดาชื่อ นายเคน  พรมโยธา อายุ 80 ปี พิการตาบอด มารดาชื่อ นางศรีนวล  พรมโยธา อาชีพรับจ้างทางการเกษตร   อนุวัฒน์เป็นบุตรคนสุดท้องจาก  พี่น้อง 3 คน  ชื่อเล่นว่า เบิร์ด  แต่คนทั่วไปเรียกว่า  ไฝ  เพราะมี ไฝเม็ดใหญ่ที่ริมฝีปากด้านขวา  อายุ 5 ขวบ เข้าเรียนชั้นอนุบาลที่โรงเรียนชุมชนบ้านเขาแก้ว ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำหมู่บ้าน

                  ที่โรงเรียนแห่งนี้ มีนักเรียนรุ่นพี่นิยมเล่นฟุตบอลกันเป็นจำนวนมาก อนุวัฒน์จึงเกิดความชื่นชอบกีฬาฟุตบอลและเข้าร่วมฝึกซ้อมกับครูพรชัย  นทีประสิทธิพร  ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

      ในระดับชั้น ป. 1 - 3 ได้เริ่มลงแข่งขันฟุตบอลภายในโรงเรียน และละแวกใกล้เคียง  พอขึ้นชั้น ป.4 - 6 ครูพรชัย ได้พาออกตระเวนแข่งขันกับโรงเรียนต่าง ๆ ทำให้พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาก ฉายแววดาวรุ่งของจังหวัดกำแพงเพชร จนป็นที่สนใจของ คุณเสกสรร   ศิริพงษ์ ผู้ฝึกสอนของ ทีมชากังราวจูเนียร์  ได้มาขอตัวไป ตระเวนแข่งขันในระดับที่สูงขึ้นทั้งต่างจังหวัด และใน กรุงเทพฯ อยู่เสมอ จนมีผู้ฝึกสอนจากทีมต่างๆ ในกรุงเทพฯ มาชักชวนให้ไปเล่นด้วยหลายทีม  จุดนี้เอง ทำให้อนุวัฒน์ มองโลกได้กว้างขึ้น นับเป็น         จุดเปลี่ยน ของชีวิตของเด็กบ้านนอกตัวเล็ก ๆคนหนึ่ง

      อายุ 12 ปี อนุวัฒน์ ต้องจากบ้านเกิดไปเข้าเรียนที่โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร โดยการชักชวนของ คุณอาทิตย์  สุวรรณโชติ   (สมาชิกสภาเทศบาลเมืองกำแพงเพชร )      

 

 

 

 

          ที่นี่ อนุวัฒน์ คว้าแชมป์มากมายให้โรงเรียน เช่น แชมป์ อายุ 12 ปี 14 ปี ของ กรุงเทพมหานคร แชมป์ฟุตบอลยุวชน ชัยพงษ์คัพที่ จ.พิจิตร โดยชนะทีมยุวชนจากประเทศเกาหลี 3 0 โดยอนุวัฒน์ยิงได้ 1 ประตู

          อายุ 15 ปี มีชื่อคัดเลือกตัวเข้าทีมชาตินักเรียนไทย  แต่ช่วงเวลานั้นตรงกับ ทางโรงเรียนกีฬากรุงเทพฯ ต้องเดินทางไปแข่งขันกีฬายุวชนโลกที่ประเทศอังกฤษ จึงจำต้องสละสิทธิ์การติดทีมชาติไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ได้ประสบการณ์จากการเล่นฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษมากมายเป็นการทดแทน

         ที่ประเทศอังกฤษอนุวัฒน์ได้โชว์ฟอร์มการเล่นฟุตบอลได้ดีมากจนสื่อมวลชนอังกฤษตั้งฉายาว่าวิเอร่า ออฟแบ็งค๊อก  ( วิเอร่า หมายถึง แพททริก วิเอร่า  นักฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์โลกฟุตบอลปี 1998)

            อายุ 16 ปี อนุวัฒน์ได้สมัครเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนอัสสัมชัญกรุงเทพ ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในโควต้านักกีฬา ได้รับสวัสดิการเรียนฟรีจนจบชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 6 ซึ่งที่นี่อนุวัฒน์ เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนักข่าวสายกีฬาหลายแห่ง   เช่นหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวันได้ลงภาพและข่าวอยู่เสมอ  สถานีโทรทัศน์สีช่อง 9 โมเดิ้ลนาย ทีวี ได้นำภาพช็อตเด็ด การทำประตูของอนุวัฒน์ มาเผยแพร่หลายครั้ง  สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 ได้ลงภาพเพื่อโหวตว่าใครคือผู้ยิงประตูได้งดงามที่สุดในฟุตบอล 7 คน 7 สี

                 ผลงานระหว่างปี 2549 2550  ได้แชมป์ฟุตบอล 4 เส้าจตุรมิตร 1 ครั้ง  แชมป์ฟุตบอลประเพณีจตุรมิตรสามัคคี 1 ครั้ง  (ฟุตบอลจตุรมิตร ประกอบไปด้วย โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน  โรงเรียนเทพศิรินทร์ และ โรงเรียนอัสสัมชัญกรุงเทพฯ

                 นี่คือนักฟุตบอลตัวอย่าง ที่เป็นศิษย์เก่าเขาแก้ว ที่ พวกเราภาคภูมิใจ คณะครูโรงเรียนชุมชนบ้านเขาแก้ว ขอให้เธอโชคดี และมีอนาคตที่สดใส ยิ่งๆขึ้นไป.

  

 

 

 

จากเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่ใช้ความสามารถ ด้านฟุตบอล

พาตัวเองไปแข่งขันถึงประเทศอังกฤษ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

   ประโยชน์ของการเล่นฟุตบอล

 

 

                    ประโยชน์ของกีฬาฟุตบอล  (อุทัย  สงวนพงศ์  ... : 2-3)  ได้กล่าวไว้ว่าการเล่นกีฬาทุกชนิด ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เล่นทั้งทางตรง    และทางอ้อมเสมอ  ฟุตบอลก็เป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อผู้เล่น  ดังนี้

 

    1. การเล่นฟุตบอลนั้น  ผู้เล่นจะต้องเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอดเวลา   รวมทั้งต้องไหวพริบดี      มีอารมณ์มั่นคง  มีสมาธิดี  มีความเชื่อมั่นในตนเอง  สามารถแก้ปัญหาต่างๆ  และตัดสินใจที่รวดเร็วและถูกต้อง  เพราะถ้าผู้เล่นมีอารมณ์มุทะลุดุดันขาดการตัดสินใจที่ดี  จะทำให้การเล่นผิดพลาดได้บ่อยๆ ถ้าเป็นการแข่งขันก็จะทำให้พ่ายแพ้แก่ฝ่ายตรงข้ามได้ง่ายซึ่งชีวิตประจำวันของมวลมนุษย์ก็จะต้องมีการตัดสินใจและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอยู่เสมอ  ดังนั้นฟุตบอลจึงเป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่ช่วยฝึกฝนให้ผู้เล่นมีไหวพริบที่ชาญฉลาดและแก้ปัญหาอย่างฉับพลันได้ดี

 

    2. ฟุตบอลเป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางร่างกายให้แข็งแรงช่วยทำให้ระบบต่างๆ  ภายในร่างกายทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  เช่น  ระบบกล้ามเนื้อ  ระบบการหายใจ  ระบบขับถ่าย  ระบบการไหลเวียนของโลหิต  เป็นต้น

 

    3. ฟุตบอลเป็นกีฬา ที่ช่วยส่งเสริมกิจกรรมที่รวมการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติของมนุษย์เกือบ ทุกชนิด  เช่น  การวิ่งหลบหลีก  หลอกล่อ  การแย่ง  การรับ  การส่ง  การกระโดด    การเตะ  ตลอดจนการ ใช้เท้าให้สัมพันธ์กับสายตาด้วย

 

                    4. ฟุตบอลเป็นกีฬาที่มีกฎ กติกา ผู้เล่น ต้องเคารพ และปฏิบัติตามกฎกติกาการเล่นดังนั้นการเล่นฟุตบอลย่อมช่วยสอนให้ผู้เล่นรู้จักความยุติธรรมปฏิบัติตนให้อยู่ในขอบเขตอันพึงควรกระทำ  สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน  ให้รู้จักเคารพสิทธิของผู้อื่น  มีความอดกลั้น  อดทนยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรามีน้ำใจเป็นนักกีฬา(รู้แพ้  รู้ชนะ  รู้อภัย)  รู้จักการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดีตลอดจนรู้จักปฏิบัติหน้าที่อันถูกต้อง

 

 

5. ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ช่วยส่งเสริมความรักใคร่สามัคคีกันระหว่างหมู่คณะเพราะฟุตบอลเป็นกีฬาประเภททีม ซึ่งกีฬาประเภททีมทุกชนิดจะต้องมีการฝึกซ้อม   เพื่อให้การเล่นในทีมมีความสัมพันธ์และ

รักใคร่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หากทีมใดขาดความสามัคคีแล้ว เมื่อลงแข่งขันย่อมจะมีชัยชนะได้ยาก และผลจากการเล่นกีฬาประเภทนี้  สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการ ดำเนินชีวิตให้มีนิสัยรักใคร่สามัคคีปรองดองกันในหมู่คณะมากยิ่งขึ้น

 

                    6. สำหรับผู้ที่มีทักษะ  การเล่นฟุตบอลที่ดีย่อมมีโอกาสได้รับคัดเลือกให้เป็น ตัวแทน  ของ โรงเรียน  สถาบัน  สโมสร  และของชาติ เพื่อเข้าร่วมแข่งขันกับชาติอื่นหรือทีมอื่นๆ  ซึ่งนอกจากจะ เป็นการประกาศเกียรติคุณสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ  โรงเรียน  สโมสร  และวงศ์ตระกูลแล้ว  ยังเป็นหนทางที่ทำให้คนรู้จัก  อันเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงได้ทางหนึ่งด้วย

 

         &nbs

หมายเลขบันทึก: 208560เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2008 08:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (51)

ขอยคุณมากๆๆๆๆๆๆๆเลยง๊าปปปปปปป ได้ความรู้เยอะมากเลย งัป ขอบคุณพี่ๆที่ มาทำข้อมูลให้นะงัป~_~ - -*

ผมก้อศิษย์เก่า ชบก.เหมือนกันครับ จำได้ไหม

ซึ่งเป็นรุ่นพี่ ไฟ เอง

ยังไงก้อแสดงความยินดีกับน้อง ไฟ ด้วยน่ะที่สร้างชื่อเสียงให้กับ ร.ร.เรา

หวัดดีเบริ์ด เขาลูกแม่เเจ๋ว ช.บ.ก

รุ่นเดียวกับต้วเองแต่คนละห้อง ตั้งใจซ้อมบอลนะเป็นกำลังใจหั้ย

เขาแก้วดีจิงจิง

นายอะไรไม่รู้ จำไม่ได้

โห!! พี่สนุกมากๆเรย

ขอถามเกี่ยวกับกฏกติกาหน่อยคับ

มีหลายข้อที่ข้องใจมาก

1.ตอนเขี่ยบอลเริ่มเกมส์ ถ้าผู้เล่นยิงจังหวะเดียวแล้วเข้าประตูเลย

จะถือว่าได้ประตูไหมครับ โดยที่บอลไม่ถูกผู้เล่นคนอื่นเลย

2.ตอนเขี่ยบอลเริ่มเกมส์ พอเริ่มเขี่ย คู่ต่อสู้วิ่งมาตัดบอล

โดยที่บอลยังไม่ถึงผู้เล่นที่เราเขี่ยให้ จะถือว่าฟาล์วไหมครับ

3.ขณะที่ยิงฟรีคิก รองเท้าของผู้ยิงหลุดลอยออกไปทางข้างสนาม แต่ลูกบอลเข้าประตู

จะถือว่าได้ประตูไหมครับ

คือเป็นข้อถกเถียงกันหลายสนามเหลือเกิน บ้างก็อ้างกฏ 11 คนบ้างก็อ้างกฏฟุตซอล

งงครับ

วานผู้รู้ช่วยตอบทีครับขอแบบชัวๆนะครับผม

ขอบคุณล่วงหน้า

ร้านอ้อม ก๊อปปี้ PKT

นักเตะ เขาแก้ว เขาเจ๋งจริง ๆ

ศิษย์เก่าขอคอนเฟิร์ม

โคตะระเจ๋งมะมาก

เขาแก้วสู้ สู้

สู้ สู่ ..... ฟุตบอลโลก

อิอิ

ขอบคุณค่ะที่แบ่งปันความรู้

ดีจังได้ประโยชน์ทางการศึกษา

เยี่ยมไปเลยพี่ สู้ต่อนะค่ะ สู้สู้

ยอมรับอาจารย์เก่งจริงๆขอเป็นกำลังใจให้ครับ

สร้างเด็กที่มีคุณภาพสู่วงการกีฟ้าขอให้ทำต่อไป

เป็นตัวอย่างที่ดีของน้อง ๆ ชุมชนบ้านเขาสว่าง อยากให้อาจารย์จัดกีฬา ฟุตบอล 7 คนอย่างนี้ทุก ๆ ปีครับ

ขอให้กำลังใจ สู้สู้สู้...ต่อไปครับ

ขอเป็นกำลังใจใหสู้ต่อไปนะค่ะ ล้มแล้วยังลุกได้เลยค่ะ แล้วครูอย่างเราจะล้มต่อไปเหรอค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ บ้านเขาแก้วเก่งอยู่แล้วค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้อย่าท้อแท้...สู้..เพื่ออนาคต

โรงเรียนชุมชนบ้านเขาแก้ว มีโค้ดเก่ง คะ จากครูเขาแก้ว

เป็นกำลังใจให้นะ สู้ ๆ

เป็นกำลังใจสู่ต่อไป อย่าท้อนะคะ สู้ สู้

ขอให้มีกำลังใจสร้างนักกีฬาดีดีและเก่งๆของคนกำแพงเพชรต่อไป

ขอให้กำลังใจ และขอให้ต่อสู้ต่อไป

ท้อก็เป็นถ่าน ผ่านก็เป็นเพชร....สู้ต่อไปนะครับ...สู้ๆๆ

เคยได้นำแนวคิดของอาจารย์พรชัย ไปให้นักเรียนได้ฝึกเล่นฟุตบอล 7 คน ซึ่งนักเรียนชอบมาก ขอขอบคุณอาจารย์ที่ได้นำความรู้มาเผยแพร่ นักเรียนได้ปฏิบัติจริง

มีประโยชน์มากขอชื่นชมด้วยความจริงใจ

สุดยอดของความพยายามมากค่ะแค่เด็กบ้านนอกคนหนึ่งเก่งจิงค่ะ

สุกยอดมาก

ได้กติกาเสริมความรู้เพราะเป็นครูผู้หญิงที่ต้องเป็นกรรมการฟุตบอลจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ขอบคุณค่ะ

รับสมัครทีมฟุตบอล เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอล 7 คน รายการ "PSL.CUP" ครั้งที่ 1 ปี 2553 ในรุ่นอายุ 10 ปี, 12 ปี, 14 ปี, 16 ปี ระหว่างวันที่ 10-12 ธันวาคม 2553 ณ สนามสราญรมย์ (ชมรมฟุตบอล PSL) ถ.บายพาส-เลี่ยงเมือง ม.11 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก รับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 7 ธันวาคม 2553 ติดต่อสอบถามได้ที่ ครูเพชร 081-5961856 โค๊ชช้าง 089-1141292 และคุณทวีแสง 081- 5337278

การที่เรามีความสามารถในด้านกีฬาฟุตบอลเป็นที่ภาคภูมิใจจงอย่าลืมว่าตนเองเดินมาจากที่ใดและต้องทำปัจจุบันจนถึงอนาคตให้ดีที่สุด

 

ต๊ะจากทีมเด็กบ้านนอก

ยอดไปเลยพี่ๆๆๆ

ต๊ะจากทีมเด็กบ้านนอก

พี่ไฝครับ ผมอยากถามว่าพี่เล่นฟุตบอล7คน ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ครับ

แล้วพี่ดูแลสุขภาพยังไง ต้องทำยังไง

ช่วยตอบกลับด้วยนะครับ

คิดถึงคุณุครูทุกทาน  คิดถึงเพื่อนๆๆทุกคน  เพื่อนเราชวยติดต่อเรามังคับ 0877319039 เป็ด

สวัสดีครับ ผมเป็นคนที่รักกีฬาโดยเฉพาะฟุตบอล ชอบดู ศึกษาเทคนิคต่างๆของนักกีฬา ผมเองไม่มีโอกาสที่จะได้เรียนหรือฝึกฝนทักษะฟุตบอลกับโค้ช หรือมีก็น้อยมาก ต้องเรียนรู้และแอบจำจากพี่ๆและผู้เล่นคนอื่นๆ ตลอดมามันทำให้ผมพัฒนาขึ้นมา ซึ่งปัจจุบันถือว่าผมก็พอใจและมีความสุขกับมันมาก ผมอยากจะถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาต่างๆให้กับน้องๆ แต่กลัวว่ามันจะไม่เป็นระบบเพราะผมส฿กษาด้วยตัวเอง ผมอยากจะได้คำแนะนำเกี๋ยวกับการเล่นหรือเทคนิคต่างๆ ที่มันมีหลักการบ้าง ไม่ทราบว่าผมจะไปค้นคว้าจากไหนได้บ้างครับ ยินดีรับคำแนะนำต่างๆ [email protected] ขอบคุณครับ

มีความภาคภูมิจัยมาก และขอแสดงความยินดีแก่ นายอนุววัฒน์ พรมโยธา ที่กลายเป็นที่รักของทุกคนไปแล้ว

สวัสดีครับ ผมชื่อเด็กชายอนุวัตน์ พรมโยธา

จบจากโรงเรียนชุมชนช้านเขาแก้ว ปี 2545 ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

"ผมภูมิใจที่ได้เล่นฟุตบอล และผมภูมิใจที่"ฟุตบอล"ทำให้ตัวผมเองมีทุกวันนี้

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท