อาลัยยิ่ง...ผู้เป็นดังพี่ชาย (หนานเกียรติ)


          เปรียบดังพี่ชาย เปรียบดังกัลยาณมิตรที่คอยย้ำเตือนเมื่อพลาดพลั้ง เป็นดังผู้เปิดโลกทัศน์ทางปัญญา ไม่น่าเชื่อว่าอาจารย์จะจากไปเร็วขนาดนี้ ทั้งที่พวกเราถูกสอนและฝึกเสมอว่าความตายเป็นสิ่งแท้แน่นอน และมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ แต่วินาทีนี้ยอมรับว่าทำใจนานเหลือเกินกว่าจะตั้งสติได้ ชั่วพริบตาเดียว จากมนุษย์ที่เปี่ยมด้วยคุณค่าและยังประโยชน์ต่อสังคม นอนแนบนิ่งภายในโลงศพ ไม่รับรู้ สุข ทุกข์ ดิน น้ำ ลม ไฟ แตกสลาย กลายเป็นธาตุอย่างอื่น

     หากย้อนคืนวันเมื่อครั้งอดีต ภาพแรกที่เห็นภิกษุหนุ่มผู้เปี่ยมด้วยศีลาจารวัตร การพูด การแสดงความคิดเห็นล้วนระมัดระวัง และเปี่ยมด้วยความลุ่มลึกทางปัญญา ความเลื่อมใสเป็นเบื้องแรกที่ทำให้ผมได้รู้จักท่าน และตัดสินใจขอทำงานวิจัยศึกษาชีวิตของท่าน ตามสัมภาษณ์เกือบ 2 เดือน จนได้ซึมซับกับความเป็นตัวตนของท่าน และทึ่งในความเด็ดเดี่ยว ความอาจหาญทางปัญญา บุคลิกภายนอกอ้อนน้อมถ่อมตน ภายในเข้มแข็งดุจหินผา มิยอมจำนนท์ต่ออุปสรรคและปัญหาใดๆ จากจุดนี้เองความสัมพันธ์ระหว่างผมกับอาจารย์ก่อเกิดขึ้น ครั้งหนึ่งผมเกือบตัดสินใจผิดพลาด แต่โชคดีที่ท่านได้ให้สติทัน ยังจำเมื่อครั้งอดีตที่ได้ติดตามเดินทางไปตามหุบเขาต่างๆ ทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อติดตามงานในเครือข่าย พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในป่าลึก เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ ไม่ว่าจะเป็นตามขอบชายแดน ครั้งหนึ่งเราออกเดินทางในเวลากลางคืน ขับรถลัดเลาะตามทางที่คดเคี้ยวในแถบจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถนนเส้นนั้นไม่มีรถผ่านแม้คันเดียว จนฝ่ายปกครองตั้งด่านเฉพาะกิจ เพื่อตรวจรถของเราอย่างละเอียด เพราะเข้าใจว่าเป็นขบวนขนยาบ้า ซึ่งเมื่อตรวจค้นในรถก็จะพบเพียงกระดาษบรู๊ฟ ปากกาเคมี โน้ตบุคส์ และกาแฟ สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือที่ติดตัวทุกครั้งที่ออกเดินทาง หลายครั้งผมจะได้ติดตามท่านไปพัฒนาโครงการในพื้นที่ต่างๆ ภาพที่เห็นจนคุ้นชินทุกครั้งก็คือ ท่านจะต้องติดหนังสือของอาจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ถือว่าเป็นนักเขียนที่ท่านชื่นชอบมาก จนทำให้พวกเราที่ใกล้ชิด เช่น พี่ยนต์ ผม พี่ปุ้ย ได้พลอยติดตามงานอาจารย์เสกสรรค์ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง วิหารที่ว่างเปล่า เดินป่าเสาะหาชีวิตจริง และวรรณกรรมชุดต่างๆ เรียกได้ว่ามีทุกเล่มที่หามาได้ ท่านเคยบอกว่าช่วงต้นอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มาช่วงหลังอ่านแล้วเข้าใจชวนให้มองเข้ามาในตัวเองมากขึ้น นอกจากหนังสือแล้วบทเพลงก็เป็นอีกอารมณ์หนึ่งที่ท่านชื่นชอบเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะเปิดระหว่างการเดินทาง เช่น เจี้ยบ (วรรธณา ) และอีกเพลงหนึ่งที่ชื่นชอบถึงขนาดเอามาต่อ เป็นเพลงเดียวทั้งอัลบั้ม เพราะเวลาขับรถจะได้ไม่ต้องรอเพลย์ฟังอีกครั้งคือเพลง “แสงจันทร์”มาลีฮวนนา บางครั้งเปิดตั้งแต่เชียงใหม่ยันแม่ฮ่องสอน เรียกได้ว่าฟังจนเก็บรายละเอียดเพลงได้ทุกเม็ด ระหว่างทางก็ไม่พลาดที่จะแวะดื่มดำกาแฟ แต่ช่วงหลังเห็นท่านเริ่มดื่มโค้ก ท่านเล่าให้ฟังว่า ดื่มโค้กทำให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เลย โดยไม่ต้องผ่านการย่อยของร่างกาย คือ น้ำตาลกลูโคส ทำให้สดชื่นขณะที่ขับรถ นอกจากสิ่งที่กล่าวมาแล้วนั้น ท่านเป็นยังเป็นแฟนพันธ์แท้ของท่านพุทธทาส มีทั้งเทปธรรมมะและหนังสือหลายชุด ทุกเช้าตรู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บบนยอดดอย พวกเราจะนอนอุดอู้ภายในเต้น แต่ท่านตื่นมาก่อไฟต้มน้ำร้อน โดยมีเสื้อกันหนาวหนา ใส่หมวกไหมพรหม และผ้าพันคอสีกรมท่า ในมือมีสมุดปากกา ก้มหน้าขีดเขียนอะไรบางอย่างลงไป พร้อมกับเปิดการบรรยายธรรมของท่านพุทธทาส ภาพลักษณะนี้ผมเห็นจนคุ้นชินทุก ๆ เช้า และสิ่งที่พวกเราจะต้องปฏิบัติจนเป็นธรรมเนียมภายหลังจากการลงในพื้นที่คือจะต้องเขียนงานอย่างใดอย่างหนึ่งส่งท่านอ่าน

     บทบาทด้านการต่อสู้กับสิ่งอยุติธรรมและอยู่ข้างประชาชนของท่านนั้น ปรากฏตั้งแต่เมื่อครั้งสมัยเป็นพระสงฆ์ เหตุการณ์เมื่อครั้งที่รัฐบาล มีนโยบายเอาคนออกจากป่า ทำให้ชนกลุ่มน้อยในเชียงใหม่และพื้นที่ต่าง ได้รับผลกระทบอย่างนัก จนรวมตัวประท้วงรัฐบาลในขณะนั้น โดยเครือข่ายชนกลุ่มน้อยต่างๆ ได้รวมกลุ่มปักหลักที่หน้าศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ หลายวันเข้าชาวบ้านต่างเหนื่อยหล้า และเริ่มอ่อนแอเพราะรัฐบาลไม่มีทีท่าว่าจะยอมรับข้อเสนอใดๆ ในจังหวะนั้นเองแกนนำจึงมีแนวคิดนิมนต์พระสงฆ์มาทำบุญ และให้กำลังใจแก่ชาวบ้านให้สามารถยืนหยัดในการต่อสู่ ในขณะนั้นปรากฏว่า พระสงฆ์ในจังหวัดเชียงใหม่ไม่กล้ารับนิมนต์ เกรงจะกระทบกับฝ่ายปกครอง จนได้พระสงฆ์กลุ่มหนึ่งซึ่งนำโดย พระมหา ดร.บุญช่วย สินรินธโร พระเกียรติศักดิ์ กิตติภทฺโธ (เกียรติศักดิ์ ม่วงมิตร) และพระอีก 5 รูป ได้ออกเทศนาให้กำลังใจกับชาวบ้าน หลังจากนั้นพระสงฆ์กลุ่มนี้ก็ไปให้กำลังเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งก่อตั้งเป็นเครือข่ายพระสงฆ์เพื่อคนจน โดยมีพระเกียรติศักดิ์ เป็นหัวแรงสำคัญในการขับเคลื่อนงาน ในครั้งนั้นท่านเล่าให้ฟังว่า มีตำรวจจากกองปราบบุกเข้าค้นกุฎิของท่านในวัดศรีโสดา นั้นเป็นจุดแรกที่ทำให้ท่านได้ทำงานกับชาวบ้านโดยใช้หลักพุทธธรรม ต่อมาได้เป็นแรงสำคัญในการสนับสนุนสร้างความเข้มแข็งชาวบ้านต่อการบุกรุก และทำลายทรัพยากรธรรมชาติของทุนขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกรณีความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านกับสวนส้มในอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ กรณีที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟพ.) ทำเหมืองถ่านหินลิกไนต์ อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ หลายๆ ครั้งที่ผมติดตามท่านผมพบว่า ท่านจะรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ชาวบ้านเป็นฝ่ายถูกกระทำ ท่าทีต่อจากนั้นท่านจะเงียบและครุ่นคิดจนหาทางออกในเรื่องนั้นได้

    ตั้งแต่วินาทีนั้นจนถึงบัดนี้ที่ร่างกายท่านได้สงบนิ่งในระนาบเดียวกับพื้นดิน หน้าที่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งได้สิ้นสุดลงโดยสมบูรณ์ นับต่อจากนี้คงเหลือเพียงร่องรอยแห่งความดี ความทรงจำและมิตรภาพที่ยังตรึงในใจเสมอ ผมเชื่อเหลือเกินว่าคุณแห่งความดีที่อาจารย์ได้ทำไว้ คงมีพละกำลังส่งให้ท่านได้อยู่ในภพภูมิที่ดี ภารกิจใดที่ยังค้างคาใจของอาจารย์อย่าได้กังวลและเป็นห่วง คนที่อยู่ก็จะทำหน้าที่ต่อไป ...... อาลัยยิ่ง...

หมายเลขบันทึก: 450502เขียนเมื่อ 23 กรกฎาคม 2011 10:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เชื่อเหลือเกินว่าคุณความดีที่พี่หนานเกียรติได้กระทำมาทั้งชีวิตจะเป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นหลัง

เป็นพลัง และเป็นแรงขับเคลื่อน เป็นตัวอย่างที่ดีค่ะ

อาลัยยิ่ง

คุณความดีและความรู้ประสบการณ์ของหนานจะอยู่ใจของพวกเราทุกคน และจารึกเป็นอักษรอยู่ใน GotoKnow ตลอดไปค่ะ

http://www.gotoknow.org/post/tag/หนานเกียรติ

ศูนย์เรียนรู้ สสส. จะจัดพิมพ์หนังสือ e-book เฌวา ให้ฟรีจำนวน 1,000 เล่ม เพื่อแจกแก่ผู้บริจาคทำบุญเพื่อการศึกษาของ เฌวา แก้วตาดวงใจของคุณหนานเกียรติด้วยค่ะ

เจริญพรคุณธวัชชัย

                                                 เสียดายคนดี
            

               Large_loveness_landscape
               ทัศนียภาพของความรัก : รำลึกหนานเกียรติ เกียรติศักดิ์ ม่วงมิตร 
               โดยดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์

               กลิ่นของสัตบุรุษ(คนดีมีคุณธรรม)

              นะ ปุปผคันโธ ปฏิวาตเมติ
              นะ จันทนัง  ตครมัลลิกา วา
              สตญฺจ คนฺโธ ปฏิวาตเมติ
              สัพพา ทิสา สัปปุริโส ปวายติ.

             กลิ่นดอกไม้ฟุ้งทวนลมไปไม่ได้
            
กลิ่นจันทน์ กฤษณา หรือมะลิ
             ก็ฟุ้งทวนลมไปไม่ได้

             ส่วนกลิ่นของสัตบุรุษ(คนดีมีคุณธรรม)
             หอมฟุ้งไปได้ทั่วทุกทิศ

สัตบุรุษสุดดีกลิ่นศรีสม           หอมทวนลมโบกพัดสะบัดหวน
กระจายกลิ่นรินฟุ้งจรุงอวล       แสนชื่นชวนชอบจิตสนิทใจ
กลิ่นศีลธรรมนำผลให้พ้นทุกข์  หอมเป็นสุขนานเนิ่นเกินสมัย
ถึงหอมกลิ่นบุปผาสุมาลัย        เพียงชื่นใจพักครู่ไม่สู้นาน
ประพันธ์โดย : พระพิพัฒน์ปริยัตยานุกูล 


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท